พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 309

ตอนที่ 309 ยังรักเซียวเซียวอยู่หรือไม่

หลังจาก ซูชิงขบขันจนพอแล้ว มองดูซือูเย้น ถามจริงจัง “เอาล่ะ ข้าขอถามท่านอ๋อง เมื่อคืนวานหลับนอนกับองค์หญิงไปกี่คราเล่า”

หลีโม่เก้อเขิน “ซูชิง เรื่องนี้ไม่ควรถาม ผู้คนมากมายเช่นนี้”

ซูชิงไม่รู้หนักรู้เบาเลยจริงๆ ท่านแม่กับเหล่าไท่จูนล้วนอยู่ที่นี่กันหมด

แต่มีเพียงหลี่ซ้วนหยุ่นที่รู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่บ้าง เหล่าไท่จูนมองซือถูเย้นด้วยความสนใจใครรู้ยิ่ง

ซือถูเย้นไม่คิดว่าซูชิงจะถามคำถามนี้ เรื่องครอบครัวสามารถเอามาบอกคนอื่นได้ด้วยหรือ แต่เขาเพิ่งกล่าวไปคำโตว่าไม่มีเรื่องใดที่ไม่สามารถบอกผู้ใดได้

คิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาจ้องซูชิง “สองครั้ง” คิดอยากทำเช่นนั้นอยู่หลายครา แต่นางไม่อนุญาต

“อ๋า!” เฉินหลิ่วหลิ่วมองนางอย่างอิจฉา นางมีความสุขมากแค่ไหนกันนะ

ทุกคนหัวเราะครืน

หลีโม่รับไม่ได้จนต้องมุดลงไปใต้โต๊ะ

“เปลี่ยนเรื่องเสีย เปลี่ยนเรื่อง คนต่อไป!” หลีโม่ตบโต๊ะเสียงดัง

คราวนี้จับได้ชื่อซือถูจิ้ง

ซือถูจิ้งสามารถเลือกคนถามได้ เขามองไปรอบๆ ทั่วงานเลี้ยง รู้สึกว่าคงผู้ที่น่ากลัวน้อยที่สุดคือเฉินไท่จูน

นางจึงกล่าวออกไป “เหล่าไท่จูนโปรดถาม”

หลีโม่ผิดหวังนิดหน่อยถ้าให้นางถาม เหล่าชี อ๋องอานชินหรืออ๋องหลี่ชินถาม คงจะถามนางว่าจะยังมีแผนแต่งงานอยู่หรือไม่?

เฉินไท่จูนยิ้ม “ข้าถาม? ถ้างั้นก็ดี ถ้าจะถามง่ายๆ เพียงข้อเดียว ถือว่าปล่อยองค์หญิงไป”

ทุกคนได้ฟังก็อดจะผิดหวังไม่ได้ ดูท่า เหล่าไท่จูนวางแผนจะลอยแพเสียแล้ว

เฉินไท่จูนมองตรงไปยังซือถูจิ้ง ถามเพียงหกคำ น้ำเสียงนุ่มนวล แต่กลับทะลุผ่านเข้าไปในหูของทุกคนราวกับเป็นเรื่องน่าตกใจ “เจ้ายังรักเซียวเซียวไหม”

บรรยากาศเงียบลงทันใดหากมีเข็มหล่นบนพื้นเพียงเล่นเดียวก็ได้ยิน

หากเสี้ยหลีโม่อยู่ในยุคปัจจุบันก็มีคนที่เป็นต้นแบบนางอยู่ ผู้ที่เป็นต้นแบบนางคือกัปตันแจ็คใน Pirates of the Caribbean

แต่ว่านางตอนนี้นางตัดสินใจแล้วว่าจะย้ายกัปตันแจ็คไปอยู่ลำดับที่สอง ส่วนลำดับที่หนึ่งนางยกให้เป็นเฉินไท่จูน

คำถามนี้หากให้ผู้ที่อยู่ในที่นี้ถามไม่ว่าอย่างไรก็มิอาจถามออกไป ประการแรกเป็นห่วงถึงความรู้สึกของซือถูจิ้ง ประการที่สอง ถามคำถามนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์ใดแล้ว

แต่ความจริงแอบแฝงแอบสอดแนมเช่นนี้ไม่ใช่วิธีที่ดีนัก ทางที่ดีที่สุดคือเหมือนที่เฉินไท่จูนทำ เจาะลึกความจริงให้ทั้งสองต้องมาเผชิญหน้ากัน

เลือดบนในหน้าของซือถูจิ้งค่อยๆ ลบเลือนลง ในมือของเขาถือถ้วยเหล้า ไม่ได้ตอบคำถาม และไม่ได้มองเซียวเซียว

เซียวเซียวคาดไม่ถึงเหมือนกับเขา ถ้วยในมือสั่นไหว มือสั่นเทา ไม่กล้ามองผู้ใดเช่นกัน ดวงตาหนักอึ้ง

หลีโม่เคยหวังว่าเขาทั้งสองจะตกลงปล่องชิ้นกัน แต่เห็นซือถูจิ้งและเซียวเซียวเช่นนี้แล้ว รู้สึกเสียใจแทนนางในใจ “ช่างเถอะ เปลี่ยนคน เปลี่ยนคน”

ซือถูจิ้งเงยหน้าขึ้นมองหลีโม่ “ไม่ต้อง ข้าตอบได้”

หลังจากนั้น นางมองตรงไปยังใบหน้าของเซียวเซียว ตอบแผ่วเบา “เคยรัก ตอนนี้ไม่รักแล้ว เรื่องของข้ากับเขามันผ่านไปแล้ว หากท่านมีภรรยา ข้าก็มีคนที่ชอบแล้วเช่นกัน”

ครานี้ใบหน้าของเซียวเซียวกลับไร้สีสัน เขาไม่พูดสักคำ เพียงแค่ดื่มเหล้าในถ้วย

ไม่มีใครเคยคาดคิดว่าคำตอบของซือถูจิ้งจะเป็นเช่นนี้

เฉินไท่จูนกล่าว “องค์หญิง จำเป็นต้องตอบความจริง”

ซือถูจิ้งพยักหน้า “เป็นความจริง หากไม่ใช่ความจริง ข้าจะตายอยู่ข้างถนน”

ครู่หนึ่งบรรยากาศเปลี่ยนไปอย่างน่าอึดอัด ทุกคนมองซือถูจิ้ง ความจริงก็รู้อยู่ในใจ ที่นางกล่าวมาไม่ใช่ความจริง แต่นางกลับสาปแช่งตนอย่างรุนแรงเช่นนี้

เฉินไท่จูนถอนหายใจแผ่วเบา “ช่างเถอะเดิมที ข้ามิควรถาม”

หลี่โม่พูดกับหลี่ซ้วยหยุ่น “นำแผ่นป้ายโยนทิ้งเสียเถอะ วันนี้ควรพูดกันแต่เพียงเรื่องน่ายินดี”

หลี่ซ่วยกยุ่นไม่กล้าถามต่ออีก จะได้ไม่จับได้ตัวเองอีกครา

บรรยากาศน่าอึดอัดทำให้งานเลี้ยงไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ ทุกคนล้วนเมากันมาก ซือถูเย้นจึงกล่าวออกไป “แยกย้ายกันเถอะ!”

ซือถูจิ้งลาก่อนคนแรก จากไปโดยไม่หันกลับมาสักนิด

ทุกคนมองไปที่เซียวเซียว เซียวเซียวเงยหน้ามองทุกคนเพียงครู่ “เลิกแล้ว ถ้าเช่นนั้นข้าไปล่ะ”

พูดจบเขาก็เดินจากไป ก่อนจากนำเหล้าไปด้วยหนึ่งไห

หลีโม่และหูฮวนซีสบตากัน หูฮวนซีกล่าว “ดี ข้าไปล่ะ”

เขาและซือถูจิ้งมีสัมพันธ์อันดีต่อกันอยู่บ้าน ดังนั้นเขาจึงจะไปดูซือถูจิ้งเสียหน่อย

เฉินไท่จูนกำลังจะลาเช่นกัน “ข้าทำให้ทุกคนต้องหมดสนุก โปรดอภัย”

เมื่อนางจากไป พี่น้องตระกูลเฉินก็จากไปเช่นกัน หลิ่วหลิ่วมองเซียวโธ่ราวกับว่ามีสิ่งใดต้องการพูดด้วย แต่เซียวโธ่ไม่ได้มองนางอยู่ กลับตัวเดินออกไป แววตาหลิ่วหลิ่วเศร้าสลด เดินตามเฉินไท่จูนออกไป

โหรวเหยาเห็นทุกคนเดินออกไปหมดแล้ว จึงพูดกับซูชิงว่า “เจ้าไปส่งข้า”

ซูชิงยินดีอย่างมาก “ดี ไปกันเถอะ”

จวนเฉิงเสี้ยงที่แสนสงบ ราวกับเป็นซากเมืองร้างในพริบตา

หลีโม่พูดกับหลี่ซ้วยหยุ่น “ท่านแม่ ย้ายออกไปไม่ดีกว่าหรือ กลับไปอยู่จวนหลี่”

“ไม่ล่ะ” หลี่ซ้วยหยุ่นส่ายหน้า “แม่แต่งงานออกมาจากจวนหลี่แล้ว กลับไปดูท่าว่าจะไม่เหมาะ ส่วนหนึ่งที่หลังสวนนั้นก็เป็นของแม่ เก็บกวาดเสียหน่อยก็อยู่ต่อไปได้แล้ว สำหรับจวนเฉิงเสี้ยง....”

นางมองไปรอบๆ “กลับคือใครราชสำนัก ให้ราชสำนักได้พิจารณา”

ซือถูเย้นกล่าวออกไป “ไม่จำเป็นต้องคืนแล้ว ทุกส่วนยกให้ท่านแม่”

“ขอบพระทัย!” หลี่ซ้วยหยุ่นน้อมรับ

หลีโม่จากไปครานี้ พาพานดานและหยางมามาไปด้วย เตาเหล่าต้าและเย็นเออร์ให้อยู่ดูแลกุ้ยหยวนและหลี่ซ้วยหยุ่น

ให้เตาเหล่าต้าพักอยู่ที่นี่ชั่วคราว หลี่ซ้วยหยุ่นไม่มีคนแข็งแรงอยู่ข้างกาย หลีโม่ไม่วางใจ

ซือถูเย้นพูดขึ้นขณะที่อยู่ในรถม้า “ความจริงท่านแม่ของเจ้าควรย้ายออกมา นางอยู่ที่นั่น ไม่แน่ว่าอาจยังอาลัยอาวรณ์ต่อเสี้ยห้วยจุน

หลีโม่รู้ดีว่าไม่ใช่ นางไม่ไปเป็นเพราะที่แห่งนั้นเป็นสถานที่ที่ลูกของนางเติบโตมา นางรู้สึกว่าจิตวิญญาณของลูกนางจะยังวนเวียนอยู่ในที่แห่งนั้น ดังนั้นนางจึงไม่ไปไหน เมื่อซือถูเย้นมอบจวนเฉิงเสี้ยงให้กับนาง นางจึงดีใจเป็นอย่างมาก นางสามารถรักษาความทรงจำของนางและลูกเอาไว้ได้

นางเป็นเพียงมารดาที่เสียใจคนหนึ่ง

แต่ก่อนมีความเคียดแค้นคอยตามรังควานนาง แต่บัดนี้เสี้ยห้วยจุนและนายหญิงแก่ได้ตายลงไปแล้ว นางสูญเสียสิ่งรังควานลง เหลือไว้เพียงความเสียใจ

ดังนั้นก่อนหลีโม่จากมาได้กระซิบข้างหูนางเอาไว้ “เสี้ยห้วยจุนตายแล้ว แต่เฉินหลิงหลง เสี้ยโล่เยว่ และองค์รัชทายาทยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาเป็นฆาตกรตัวจริง”

ให้เตาเหล่าต้าอยู่ ก็เพราะเกรงว่านางจะคิดสิ่งใดไม่ออก

ความจริงนางหวังอย่างมากว่าหลี่ซ้วนหยุ่นจะไปกันอ๋องหลี่ชิน ไปให้ห่างเมืองหลวง ไปให้ห่างจากที่แห่งนี้ ความจริงนางยังเยาว์วัย อายุสามสิบกว่าปี ไม่พ้นสี่สิบ นางยังสามารถไปใช้ช่วงชีวิตให้มีสีสัน

ถ้าหากนางเดินออกไปจากความเจ็บปวดเสียได้

“ตามหาเสี้ยโล่เยว่และเฉินหลิงหลงเจอหรือยังเพคะ?” หลีโม่ถาม

ซือถูเย้นตอบ “มีข่าวคราวแล้ว เชื่อว่าไม่ช้าก็พบ”

หลีโม่อิงแอบบนแขนของเขาคิดถึงวันเหล่านั้น แม้นางจะไม่เห็นว่าเสี้ยหลีโม่คนเดิมถูกเฆี่ยนจนตายกับตาก็ตาม แต่ตอนที่นางสวมวิญญาณร่างกายเต็มไปด้วยแผลฟกช้ำดำเดียว เสียงร้องไห้อย่างเจ็บปวดยังไม่จางหายไปไหน

การกระทำที่โหดร้ายในครานั้น เสี้ยหลีโม่คนเดิมตกอยู่ในความหวาดกลัวมากเท่าใด?

นางตายไปอย่างน่าเวทนานัก

เมื่อใดที่นึกถึงตรงจุดนี้ หลีโม่ก็กำมือแน่นโดยทันที นางไม่มีวันปล่อยมารดาเฉินหลิงหลวและองค์รัชทายาทไปแน่

ระหว่างที่นางกำลังคิด ทันใดนั้นซือถูเย้นก็ถามขึ้นมา “หลีโม่ วันนี้เจ้ามีเรื่องด่วนหรือไม่”

หลีโม่ส่ายหน้า “ไม่มีเพคะ ทำไมหรือ”

ซือถูเย้นเผยรอยยิ้มแปลกๆ แต่กลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ไม่มีอันใด”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม