พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 315

ตอนที่ 315 นอนบนตั่ง

เมื่อตกเย็นอ๋องเหลียงมาที่จวนอ๋องซื่อเจิ้ง

เขาต้องการพบซือถูเย้นเป็นการส่วนตัว ไม่ขอพบหลีโม่ ทั้งยังขอร้องซือถูเย้นอีกเหนึ่งเรื่อง

“อะไรนะ?” ซือถูเย้นดึงหน้าทันที “ไม่ไป”

“ไป”

“ไม่ไป เหตุใดเจ้าไม่ไปหาซูชิง? หรือไม่ก็ไปหาเซียวโธ่ก็ได้”

“พวกเขาไม่รู้สถานการณ์ของข้า”

“ที่ตำหนักเจ้าก็มีสนม เหตุใดไม่ลองในตำหนักเล่า?”

“หากไม่ได้เล่า? จะไม่ขายหน้าเอาหรือ?” อ๋องเหลียงเข้าไปประตัวของเขา “ท่านแย่งชายาของข้าไป ข้าไม่พูดอะไรสักคำ ตอนนี้ให้ท่านไปเที่ยวหอคณิกาเป็นเพื่อนข้า คำของ่ายๆ เพียงแค่นี้ ท่านก็ไม่ยอมตกลงหรือ? ”

“คำขอนี้มันง่ายมากงั้นหรือ?” ซือถูเย้นกดเสียงต่ำ “หากหลีโม่รู้เข้า จะต้องฉีกข้าออกเป็นชิ้นๆ แน่นอน”

“ท่านไม่พูด ข้าไม่พูด นางจะรู้ได้อย่างไร?” อ๋องเหลียงกล่าว

ซือถูเย้นลังเลครู่ครู่หนึ่ง “แต่ข้ากับคิดว่ามันจะดีกว่าหากเจ้าเรียกตัวสนมของเจ้าสักคนมาปรนนิบัติ”

“ไม่ได้” อ๋องเหลียงพูดด้วยความโมโห “หากข้ายังไม่ได้พิสูจน์ให้ดี ข้าไม่มีทางแตะต้องตัวพวกนาง แม้พิสูจน์จนแน่ใจแล้ว ข้าก็ไม่แตะต้องพวกนาง”

“ทำไมเล่า?” ซือถูเย้นถามอย่างไม่เข้าใจ

อ๋องเหลียงดึงเขาลุกขึ้นมา “ไปได้แล้ว หากท่านไปเป็นเพื่อนข้าล่ะก็ ข้าจะบอกความลับของหลีโม่ให้ท่านฟัง ท่านต้องยังไม่รู้ความลับนี้แน่”

ซือถูเย้นยิ้มเย็นชา “นางมีอะไรที่ข้ายังไม่รู้อีก บนร่างกายของนางตั้งแต่หัวจรดเท้ามีตรงไหนที่ข้าไม่รู้บ้าง?”

“ท่านต้องยังไม่รู้แน่นอน เพราะถึงอย่างไรข้าก็ไม่พูดจาเหลวไหลกับท่าน” เหลียงอ๋องด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ซือถูเย้นมองใบหน้าของเขา ก็รู้สึกว่าเขาไม่เหมือนกำลังโกหก “ได้ เจ้าต้องเก็บเป็นความลับ หากไม่เช่นนั้นล่ะก็ ข้าจะหักขาเจ้า”

“มันแน่นอนอยู่แล้ว ท่านคิดว่าการไปเที่ยวหอคณิกามันน่าอวดมาก จนต้องเอาเรื่องนี้ไปโม้ให้คนอื่นรู้ทุกที่หรืออย่างไรกัน?” อ๋องเหลียงรีบร้อนพูดปรับประกันทันที

“เจ้ารออยู่ตรงนี้สักครู่นะ ข้าจะไปบอกหลีโม่หน่อย”

“เขาผลักประตูออกไป ตอนนี้หลีโม่อยู่ในเรือน”

“ข้าจะออกไปทำธุระเป็นเพื่อนฮ่าวเอ๋อหน่อย ดึกๆ จะกลับนะ” ซือถูเย้นกล่าว

“ไปไหนหรือ?” หลีโม่ถามอย่างแปลกใจ “นี่ก็เย็นมากแล้ว ยังจะออกไปไหนอีก?”

“ก็ใช่ แต่เขามีเรื่องด่วนนิดหน่อย”

หลีโม่ถามด้วยความสงสัย “เรื่องด่วนอะไรกัน? ต้องให้ท่านไปกับเขาด้วยหรือ?”

ซือถูเย้นพูดสีหน้าจริงจังและหนักแน่นว่า “เป็นเรื่องในราชสำนัก ตอนนี้ยังบอกเจ้าไม่ได้”

พูดจบ เขาจึงเข้าไปจูบนาง จากนั้นก็หันหลังออกไป

ตอนที่อ๋องเหลียงออกมา ก็ไม่ได้สบสายตากับหลีโม่แต่อย่างใด เขาพาจิ่นเฉิงออกไปด้วย

หลีโม่มองแผ่นหลังของพวกเขาเดินจากไป จากนั้นจึงยิ้มออกมาอย่างเย็นชา พวกเขาต้องมีอะไรปิดบังแน่นอน

แต่ไหนแต่ไรมาเหล่าชีไม่เคยเข้ามาจูบนางนอกห้องเช่นนี้ ภายนอกเขาดูเป็นคนขี้อาย แต่ภายในนั้นร้ายแรงยิ่งนัก แค่เมื่อครู่นี้จิ่นเฉิงกับชิงโม่ชิงเฉินก็อยู่ด้วย เขากลับกล้าตรงเข้ามาจูบนาง

ประสบการณ์บอกกับหลีโม่ว่า หากคนผู้หนึ่งอยู่ๆ ก็ไม่ปฏิบัติตามกฎที่เคยเป็นมาทุกวัน ฝ่าฝืนนิสัยเดิมของเขา ต้องมีปัญหาอะไรแน่

“ชิงเฉินชิงโม่ ตามไป!” หลีโม่สั่ง

“ขอรับ” ทั้งสองตอบรับ

หยางมามายิ้มออกมา “ทำไมล่ะ?” สงสัยว่าท่านอ๋องจะไปเที่ยวหอคณิกาอย่างนั้นหรือ?

“หืม?” หลีโม่มองไปที่หยางมามา นางออกมาจากห้องแล้วหรือ?

“บ่าวอยู่ในด้านใน เพียงจัดระเบียบเสื้อผ้าหลังฉากบังลำเท่านั้น พวกเขาไม่รู้ว่ามีบ่าวอยู่ด้วย” หยางมามายิ้มอย่างเบิกบานใจ

“เจ้าบอกว่าพวกเขาไปเที่ยวหอคณิกางั้นหรือ?” หลีโม่โมโหยิ่งนัก

“วางใจเถอะเจ้าค่ะ ท่านอ๋องไม่ทำตัวเหลวไหลแน่นอน เขาไม่อยากไป เป็นท่านอ๋องเหลียงที่บังคับเขาให้ไปเจ้าค่ะ” หยางมามามองหลีโม่ น้ำตาก็คลอเบ้า “พระชายา ได้โปรดรับความเคารพนี้ของบ่าวด้วยเจ้าค่ะ!”

พูดจบ นางจึงตรงเข้าไปคุกเข่าลง

หลีโม่รีบเอื้อมมือไปดึงนาง “ทำไมอยู่ดีๆ เจ้าก็คุกเข่าเล่า?”

หยางมามาเช็ดตาที่หางตา “ดีใจ ดีใจเจ้าค่ะ”

นางเงยหน้าหน้ามองหลีโม่ กล่าวด้วยความซาบซึ้งใจว่า “บ่าวเห็นอ๋องเหลียงเติบใหญ่ และเห็นเขาได้รับบาดเจ็บ เห็นเขากลายเป็นคนพิการ รู้ว่าเขาไม่สามารถ…ทว่า ตอนนี้เขาหายดีแล้วบ่าวดีใจมากเจ้าค่ะ ”

หลีโม่รู้ว่าหยางมามาเป็นคนตรงไปตรงมา และนางก็รักและทะนุถนอมอ๋องเหลียงด้วยใจจริง อีกทั้งตอนนี้โรคลับของอ๋องเหลียงหายดีแล้ว นางก็ไม่จำเป็นต้องกลับเข้าวังแล้ว และได้อยู่กับนางอย่างเป็นทางการ

หลีโม่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ ข้าจะไม่โกรธเขาชั่วคราว”

นางเชื่อใจซือถูเย้น ตอนนี้เขาไม่มีทางหักหลังนาง กลับไม่ใช่เพราะรักมาก แต่เขายังไม่สามารถรับการสัมผัสจากสตรีอื่นได้

ยังจำวันนั้นตรงหน้าประตูได้ รองพระสนมซุนยื่นมือไปดึงเขา แต่ถูกเขาสะบัดไปด้านข้างด้วยความรังเกียจ ทั้งยังถูกตำหนิอย่างรุนแรงอีกด้วย

หลังจากกลับมา เขาก็ล้างมืออย่างรวดเร็ว ทั้งยังด่าออกมาชุดใหญ่

หลังจากเลยยามจื่อไปแล้ว ซือถูเย้นถึงกลับมา เข้ามาหยิบเสื้อผ้าแล้วเดินย่องออกไปอย่างเงียบๆ

ผ่านไปได้ไม่นาน เขาก็กลับมา ด้วยท่าทางสดชื่นหลังอาบน้ำ

เขาขยับตัวให้เบาที่สุด เพราะกลัวจะทำเสียงดังจนหลีโม่ตื่น นอนลงบนเตียงอย่างช้าๆ ในขณะที่ดึงผ้าห่มขึ้นมา กลับเห็นหลีโม่ถลึงตามองเขาอยู่

เขาตกใจจนสะดุ้งโหยง ถามด้วยสีหน้าเหยเกว่า “ข้าทำเจ้าตื่นหรือไม่?”

“ข้ากำลังรอท่าน” สองมือของหลีโม่สอดอยู่ใต้ศีรษะ และจ้องไปที่เขา

“ข้าขอโทษ กลับมาดึกไปหน่อย ต่อไปถ้าข้าออกไปในยามวิกาล เจ้าก็ไม่ต้องรอข้า” เขายื่นมือไปกอดนาง

“เอาออกไป!” หลีโม่พูดด้วยความเย็นชา

ซือถูเย้นตะลึงงัน “เป็นอะไร?”

“แตะต้องตัวสตรีอื่น ห้ามมาแตะต้องตัวข้า” หลีโม่แค่นเสียงเย็นชา

ซือถูเย้นโมโหขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด “เหตุใดเจ้าถึงคิดเช่นนี้?”

“ข้ารู้แล้วว่าท่านไปเที่ยวหอคณิกา!” หลีโม่จ้องไปที่เขา

ซือถูเย้นรู้สึกขาดความมั่นใจไปเล็กน้อย ทว่ามันไม่ถูก นางจะรู้ได้อย่างไร เขาเตือนชิงโม่กับชิงเฉินอย่างเข้มงวด ห้ามกลับไปบอกหลีโม่

อีกอย่างพวกเขาก็กลับมาพร้อมกัน และชิงโม่ชิงเฉินก็อยู่ข้างนอก ยังไงก็มาพูดกับนางไม่ทันแน่นอน

เจ้าเด็กนี่เจ้าเล่ห์ยิ่งนัก จะต้องสะกดรอยตามเขาแน่

จากนั้นเขาจึงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่า “เจ้ากำลังพูดเหลวไหลอะไรอยู่? ข้าจะไปเที่ยวหอคณิกาได้อย่างไร? นี่มันจะเป็นการดูถูกข้าเกินไปหรือไม่?”

“ท่านยังไม่ยอมรับอีกหรือ?” หลีโม่นั่งขึ้นมา “เช่นนั้นท่านก็บอกมาว่าท่านไปไหน?”

ซือถูเย้นกล่าวด้วยความโมโห “ข้าบอกเจ้าไปแล้ว ว่าไปทำธุระ ถ้าเจ้าไม่เชื่อล่ะก็ พรุ่งนี้ไปถามฮ่าวเอ๋อก็จะรู้เอง”

พูดจบ ก็ม้วนผ้าห่มนอนหันหลังให้หลีโม่ ท่าทางเหมือนโกรธมาก

หลีโม่พูดอย่างเย็นชาว่า “ที่พวกท่านคุยกันในห้อง หยางมามาได้ยินทั้งหมดแล้ว นางก็อยู่ในห้องนั้นด้วย”

ซือถูเย้นพลิกตัวกลับมา ความโมโหเมื่อครู่นี้หายไปโดยปริยาย “รู้หมดเลยหรือ? ฉลาดจริงๆ อันที่จริงแล้วข้าอยากจะทดสอบเจ้าหน่อย และเจ้าก็ผ่านแล้ว เจ้าฉลาดมาก”

หลีโม่แค่นเสียงเย็นชา “ฉลาดมาก แล้วจากนั้นล่ะ?”

ซือถูเย้นพลิกตัวขึ้นมากดนางเอาไว้ “ฉลาดมากก็ย่อมมีรางวัล”

หลีโม่ถีบเขาออกไป “ไปนอนบนตั่ง!”

ซือถูเย้นพูดอย่างน้อยใจว่า “ข้านั่งมาทั้งคืน กลัวเจ้ารู้ แม้แต่เหล้าข้าก็ไม่กิน และไม่ได้ทำอะไรผิด เหตุใดต้องให้ข้าไปนอนที่ตั่งด้วย”

“โกหก!” หลีโม่ช่วยเขาจัดที่นอน “โกหกก็คือความผิดที่ร้ายแรงแล้ว”

ซือถูเย้นยืนเท้าเปล่าอยู่บนพื้น กอดที่นอนพร้อมกับพูดด้วยความโกรธว่า “ข้าบอกว่าข้าไม่ไป พรุ่งนี้ข้าจะไปจัดการกับเขา”

“อ๋องเหลียง…ได้จริงๆ แล้วใช่หรือไม่?” หลีโม่เอ่ยถาม

“ใครจะไปรู้เล่า? เขาทั้งกอดทั้งหอมสตรีผู้นั้นอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็เดินไปอย่างภาคภูมิใจ” แม้แต่ความลับที่ว่าก็ไม่พูด

“ทั้งกอดทั้งหอมอยู่พักหนึ่งก็ไปงั้นหรือ? เดินไปอย่างมีความสุขด้วย?” หลีโม่เอ่ยถาม

“ดูดีใจมาก แต่ข้าไม่ดีใจ” ซือถูเย้นพูดอย่างกลัดกลุ้ม

หลีโม่เหลือบมองไปที่เขา “ไปนอนเถอะ”

“ข้าไม่ชินกับการนอนบนตั่ง”

หลีโม่คลุมผ้าห่มให้ตัวเอง “คุ้นเคยก็จะดีเอง ค่อยๆ คุ้นเคย ต่อไปโอกาสจะได้นอนบนตั่งมีอีกเยอะเลยล่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม