พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 377

ตอนที่ 377 ข้าต่างหากที่เป็นพ่อเจ้า

หลิวเยว่เห็นสายตาที่มั่นใจของเขา ก็คิดในใจว่า ผู้ชายคนนี้รู้จุดอ่อนของตนเอง รับมือได้ยาก เขามีแผนอะไรนะ?

“เจ้ายอมให้อภัยข้าไหม?” :ซ่งรุ่ยหยางถามย้ำ

หลิวเยว่โบกปัด “ข้าขอคิดดูก่อน”

นางจ้องมองเขา นึกถึงคำที่หลีโม่เคยพูด แล้วก็ถามออกมาว่า “เสี้ยหลีโม่บอกว่าเจ้ามีหญิงในใจที่รักมานานแล้ว10กว่าปี นางเป็นใคร? ข้ารู้จักไหม?”

“นางบอกเช่นนั้นกับเจ้าหรือ?” ซ่งรุ่ยหยางถามอย่างแปลกใจ

“ใช่นะสิ วันนั้นพวกเราไปช่วยอี้เอ๋อร์.......” หลิวเยว่อยากรู้คำตอบมาก ก็เลยเล่าเรื่องที่เกิดวันนั้นจนหมด

ซ่งรุ่ยหยางไม่ได้สนใจที่หลีโม่บอกกับนางว่าตนเองรักใครเป็น10ปี แต่กลับหยีตาถามว่า “แสดงว่า องค์รัชทายาทจับตัวลูกสาวข้าไป อ๋องเหลียงก็เลยมีเรื่ององค์รัชทายาท?”

“พูดเช่นนั้นก็ได้” แต่ใครจะรู้เล่าว่าพวกเขาสองพี่น้องจะมีเรื่องอะไรกันมาก่อนหรือเปล่า

ซ่งุรุยหยางหัวเราะ “จะอย่างไรก็ตาม ซือถูเย่ก็จับอี้เอ๋อร์ไป ทั้งยังให้คนรังแกนาง ”

“แต่ทำไม่สำเร็จ ” หลิวเยว่ตั้งใจพูด “พวกเราไปถึงเสียก่อน ”

นางพูดเลี่ยงๆเรื่องปลุกปล้ำ เกรงว่าเขาจะคิดถึงเรื่องเก่า เรื่องที่นางทำไว้ ปีนั้น นางก็วางยาเขา

“ถ้าพวกเจ้าไปไม่ทันล่ะ?” เขาถามต่อ

หลิวเยว่ก็คิด แล้วก็โมโห “คอยดูเถอะไอ้ซือถูเย่ ข้าจะฟันให้ยับ”

ใช่แล้ว ถ้าวันนั้นไปไม่ทัน อี้เอ๋อร์ก็จะโดนปลุกปล้ำ คิดถึงจุดนี้ นางก็คิดถึงตอนที่ตัวเองทำนั้นมันเกินไป ถึงขั้นวางยาเขา

นางเงยหน้ามองเขา พูดอย่างมั่นใจว่า “ซ่งรุ่ยหยาง ข้าให้อภัยเจ้า ในขณะเดียวกัน ข้าก็อยากขอให้เจ้าอภัยให้ข้า ที่ตอนแรกข้าเสียมารยาทต่อเจ้า เจ้าทำอะไรข้าก็ได้ ข้ายอมรับผิด จะไม่หนีแล้ว”

ซ่งรุ่ยหยางดึงคิ้วขึ้น “จริงหรือ?”

“จริงๆ ช่างเป็นเวรกรรมตามสนองจริงๆ อามิตตาพุทธ” นางขยับลูกประคำในข้อมือ แล้วกล่าวออกมา

“เจ้าไหว้พระหรือ?” ซ่งรุ่ยหยางถามอย่างแปลกใจ นางลืมว่าเมื่อก่อนตนเองคนแบบไหนแล้วหรือ ถึงได้มาสวดมนต์ไหว้พระ?

หลิวเยว่เสียใจ “ก็ไม่ได้เคร่งอะไรมาก อาจจะเป็นเพราะว่าเมื่อก่อนข้าวาสนาไม่ดี มีพระอาจารย์มาบอกกับข้าว่า ถ้าข้าสวดมนต์ไหว้พระ อี้เอ๋อร์ก็จะดีขึ้น พระรูปนั้นยังให้ลูกประคำข้าด้วย บอกว่ามีวาสนากับข้า อนาคตอาจจะออกบวช”

“พูดไปเรื่อย” ซ่งรุ่ยหยางดุ “อย่าคิดจะได้ออกบวชเชียว”

หลิวเยว่เคร่งเครียด “ก็ใช่อยู่ ข้าคิดว่าตัวเองออกบวชไม่ได้หรอก ข้าเคยไปสืบมา ออกบวชต้องไม่อาลัยทางโลกอีก ทั้งยังต้องกินเจ ข้าชอบหิว วันไหนไม่ได้กินเนื้อสัตว์ก็หมดแรง ส่วนเรื่องไม่พูดคำหยาบ เรื่องนี้ก็อาจจะทำได้ ข้าเคยไปเรียนมารยาทกับอาจารย์ท่านหนึ่ง ตอนนี้พูดจาดีขึ้น”

“จริงหรือ?” ซ่งรุ่ยหยางดูไม่ค่อยเชื่อ

“จริงๆ ทั้งพวกกลอนกวีดนตรีภาพวาด ข้าทำได้หมด” หลิวเยว่คิดว่าตนเองก็เก่ง

“เมื่อครู่เจ้าบอกว่า ขอแค่มีใจใฝ่ธรรมะ อี้เอ๋อร์ก็จะดีขึ้น หมายความว่าอย่างไร? ”

“ตอนที่จะคลอดอี้เอ๋อร์ไม่รู้ว่าถูกบีบหรือเปล่า คลอดยากมาก ปวดท้องอยู่2วัน2คืน พอออกมาก็ไม่หายใจ หัวใจไม่เต้น ตัวนี่ม่วงทั้งตัว หมอตำแหยบอกให้เอาไปทิ้งเถอะ ข้าก็ตบๆตูดแล้วนางก็ร้องขึ้นมา ถึงแม้จะรอดแต่ก็ไม่แข็งแรง อะไรนิดหน่อยก็เวียนหัว หมอบอกว่านางมีโรคหัวใจแต่กำเนิด ไม่น่ารอดเกิน3ขวบ ตอนที่นางอายุ3ขวบ ข้าเตรียมซื้อโลงศพรอเลย แต่นางก็ไม่เป็นอะไร ต่อมาหมอบอกว่า นางไม่น่าจะถึง5 ขวบ ตอนที่นางอายุ5ขวบ ข้าก็ตามเจ้ามาที่แคว้นต้าโจวนี่ คิดว่าจะเอาร่างของนางส่งคืนให้เจ้า ช่วงนั้นข้าทำมาหากินไม่ค่อยดี หาเงินได้น้อย หาซื้อโลงไม่ได้ สุดท้ายมาถึงที่นี่ นางก็ยังไม่เป็นอะไร แล้วก็อยู่รอดถึงทุกวันนี้ เปลืองข้าวเปลืองน้ำอยู่ทุกวัน”

ซุ่งรุ่ยหยางทั้งขำทั้งร้องไห้ “เจ้านี่เป็นแม่ได้แย่มาก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม