พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 378

ตอนที่ 378 เขาละมั่งโลหิตหายไปแล้ว

เรื่องทั้งหมดค่อยๆดีขึ้น หมอกดำในใจทุกคนก็ค่อยๆหายไป

หลังจากหลิวเยว่ออกมา หลีโม่ก็ถาม “เช่นนี้ จะเอาเขาละมั่งโลหิตให้พวกเราได้แล้วใช่ไหม ? ”

หลิวเยว่บอก “ไม่ใช่ของข้าเสียหน่อย เจ้าถามเขาสิ ครั้งนั้นข้าขโมยเขามา”

“ยอมรับแล้วก็ดี” ซ่งรุ่ยหยางมองนาง ที่วางเขาในปีนั้น แล้วนางก็ขโมยเขาละมั่งโลหิตหนีออกมา

หลีโม่มองซ่งรุ่ยหยาง “ฝ่าบาท ข้าก็ต้องถามท่านแล้ว”

ซ่งรุ่ยหยางพูดกับหลิวเยว่ว่า “เอาให้นางไปเถอะ ซือถูจิ้งอาการไม่ดี ต้องการเขาละมั่งโลตมารักษา”

หลิวเยว่กล่าว “อยู่ที่โรงเตี๊ยมที่พัก ใครจะไปเอากับข้า?”

“เซียวโธ่! ” หลีโม่ตะโกนเรียก

“มาแล้ว !” เซียวโธ่เดินออกมา “อยู่ที่นี่”

“เจ้าไปเอาเขาละมั่งโลหิตกับหลิวเยว่ ซูชิงไปห้องทิงซวนรับเสี้ยฮ่าวหรานมา ข้าจะรอดูอาการอ๋องเหลียงที่นี่ ดีขึ้นแล้วจะตามไป” หลีโม่กล่าว

“รับทราบ !” ทั้งสองคนออกไปพร้อมกัน แยกกันไปทำงาน

ซุ่งรุ่ยหยางไม่ได้ไปด้วย เขามองกงซุนเยี่ยน แล้วสั่งการอย่างนิ่งๆว่า “เจ้ากลับเรือนรับรองไปก่อน ถ้าไม่มีคำสั่งข้า ห้ามออกจากเรือนรับรองแม้แต่ก้าวเดียว”

กงซุนเยี่ยนสีหน้าไม่ดี “กระหม่อมขอตัว!”

กงซุนเยี่ยนมีทหารไปส่งถึงที่ กงซุนเยี่ยนมีวิทยายุทธสูงส่ง เป็นขุนนางบุ๋นบู๊คนสนิทเพียงคนเดียวของเขา

อี้เอ๋อร์หลบอยู่ข้างหลังหลีโม่คอยมองดูซ่งรุ่ยหยาง ในใจมีความรู้สึกแปลกๆ

ซ่งรุ่ยหยางเรียกนางเข้ามาอย่างยิ้มๆ “มานี่สิ”

อี้เอ๋อร์ก็เดินเข้าไป ตอบอย่างตกใจว่า “อ่า อยู่นี่”

ซ่งรุ่ยหยางมองนาง ในใจก็บังเกิดความรู้สึกแปลกๆ เขายังไม่เคยมีลูก เพราะจุดนี้ ก็เลยถูกฮ่องเต้พ่อของตนต่อว่าอยู่หลายครั้ง เป็นองค์รัชทายาท การมีผู้สืบทอดเป็นเรื่องจำเป็น แต่ว่า ยังดีที่พ่อเขาไม่เคยบังคับ

“อี้เอ๋อร์ บอกข้าหน่อย ว่าแม่เจ้าพูดถึงข้าว่าอย่างไร?” ซ่งรุ่ยหยางถาม

อี้เอ๋อร์กล่าว “แม่ข้าบอกว่าพ่อข้าตายแล้ว”

“ตายแล้วงั้นหรือ?” ซ่งรุ่ยหยางหน้าแหย “นางบอกว่าตายอย่างไร?”

“บอกว่าถูกหมากัดตาย ” อี้เอ๋อร์เห็นเขาไม่พอใจ แต่ก็ไม่กล้าโกหก “นางบอกว่าท่านไปแย่งข้าวหมากิน เลยถูกหมากัดตาย”

“ซ่งรุ่ยหยางกัดฟัน “นางยังจะมีหน้ามาด่าข้าอีกนะ”

อี้เอ๋อร์ปลอบใจว่า “ท่านอย่าโกรธไปเลย ท่านแม่บอกว่าตอนที่ท่านตาย ได้กินอิ่มแล้ว ถือว่าเป็นผีไม่อด”

“ถึงขั้นไปแย่งข้าวหมากินแล้ว จะกินอิ่มได้อย่างไร? ” ซ่งรุ่ยหยางพูดอย่างไม่พอใจ

“ท่านแย่งข้าวชนะ แต่สู้แพ้”

หลีโม่และหลิ่วหลิ่วได้ยินอยู่ข้างๆก็หัวเราะกันใหญ่

ซ่งรุ่ยหยางหน้าบูด “กลับไปจะต้องจัดการกับแม่เจ้าหน่อยแล้ว”

อี้เอ๋อร์สตั๊นนิดหน่อย “แล้วท่านรอดมาได้อย่างไร? ไม่ได้ถูกหมากัดตายหรือ?”

หลีโม่ถือโอกาสตอนที่ซ่งรุ่ยหยางกำลังปรี๊ดแตก ลากนางออกมา หัวเราะพูดว่า “อี้เอ๋อร์ แม่เจ้าโกหกเจ้า พ่อเจ้าไม่ได้แย่งข้าวหมากิน และไม่ได้ถูกหมากัด”

อี้เอ๋อร์ส่ายหัว “ไม่ ท่านแม่ไม่โกหกข้าหรอก อีกอย่าง แม่ข้าเล่าตั้งหลายรอบ นางคิดว่าพ่อถูกหมากัดตายแล้วจริงๆ”

“นางแค่หวังว่าข้าจะถูกหมากัดตาย” ซ่งรุ่ยหยางขี้เกียจโมโหแล้ว

อี้เอ๋อร์มองเขา แล้วมองหลีโม่ รู้สึกว่าจะไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด

ทางฝั่งหลิวเยว่และเซียวโธ่กลับมาถึงโรงเตี๊ยม ตอนที่หลิวเยว่เปิดประตูนั้น ก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรแปลกๆ

ประตูถูกเปิดมาก่อน

นางเปิดเข้าไป เห็นของในห้องเละเทะไปหมด ห่อผ้าของนางถูกรื้อค้น เสื้อผ้ากระจัดกระจายเต็มพื้น นางรีบเข้าไปดู ก็ตกใจพูดว่า “เขาละมั่งโลหิตหายไปแล้ว”

“อะไรนะ?” เซียวโธ่ตกใจมาก แล้วรีบเดินเข้าไปช่วยนางหาอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็หาไม่เจอ “เจ้าวางไว้ที่บ้านหรือเปล่า”

“ไม่มีทาง ตอนที่ข้าออกมา ข้าเอาใส่ห่อผ้าแล้ว ” หลิวเยว่กล่าว

“ดูเหมือนว่าจะมีคนมาที่นี่ เงินเจ้าไม่ถูกขโมย ไม่ได้มาลักทรัพย์ แต่ตั้งใจจะมาขโมยเขาละมั่ง” เซียวโธ่กล่าว

เขารีบออกประตูไป พอดีมีเสี่ยวเอ้อร์เดินเข้ามา เขาจับเสี่ยวเอ้อร์ไว้ “วันนี้มีใครมาที่นี่?”

เสี่ยวเอ้อร์ตกใจสีหน้าโหดๆของเขา ก็พูดตะกุกตะกัก “ไม่มีนะ”

“มีขโมย ต้องมีคนเคยเข้ามาแน่นอน” เซียวโธ่ลากเสี่ยวเอ้อร์เข้ามา เขาเห็นห้องที่รกเละเทะ ก็ตกใจพูดว่า “ร้านเราไม่เคยมีขโมยยกเค้ามาก่อน นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

“เจ้ารีบไปถามคนในร้าน ว่ามีใครเห็นคนเข้ามาบ้าง ” เซียวโธ่กล่าว

“ใช่ ข้าน้อยจะรีบไปเดี๋ยวนี้!” กลางวันแสกๆมีโจรเข้าร้าน ไม่ใช่เรื่องเล็ก ข้าน้อยจะรีบไปถาม

เซียวโธ่ตรวจสอบกุนแจห้อง มันเป็นกุนแจทองเหลือง แข็งแรงมาก กุนแจมีร้อยงัดแงะ และยังมีลวดติดอยู่

มั่นใจได้ว่า โจรคนนั้นประสงค์จะมาเอาเขาละมั่งโลหิต

ไม่นาน เฒ่าแก่ก็พาเสี่ยวเอ้อร์เข้ามา เจ้าของร้านรู้จักเซียวโธ่ ก็รีบยกมือคำนับ “ที่แท้ก็คือแม่ทัพเซียว”

“เฒ่าแก่ วันนี้มีคนแปลกมาไหม?” เซียวโธ่ถาม

โรงเตี๊ยมนี้ แบ่งเป็นชั้น1และชั้น2 ชั้น1ด้านหน้าเป็นที่รับประทานอาหาร ด้านหลังเป็นที่พัก แยกส่วนชัดเจน ถ้าไม่ใช่แขกที่มาพัก จะไม่สามารถเข้าไปข้างในได้ ถ้าจะเข้าไปก็ต้องลงทะเบียน

เฒ่าแก่พูดว่า “เรียนท่านแม่ทัพ วันนี้ไม่มีแขกเข้ามาพักเลย วันนี้ข้าอยู่ที่หน้าเคาท์เตอร์ตลอดทั้งวัน ถ้ามีคนเข้ามา ต้องรู่แน่นอน”

เซียวโธ่ตรวจสอบรอบๆ ชั้น2มีทางเดินทางเดียว ก็คือมีทางเข้าทางเดียว ส่วนหน้าต่างเปิดไปเป็นตลาด แต่ก็ปิดสนิท ไม่น่าจะเข้ามาทางหน้าต่างได้

อีกอย่าง กุนแจมีรอยการสะเดาะออก สรุปได้ว่า คนร้ายเข้าทางประตู

“ต้องมีคนเข้ามาแน่ๆ ” เซียวโธ่บอกอย่างมั่นใจ “พวกเจ้าดูกลอนประตู กุนแจถูกสะเดาะออก”

เฒ่าแก่ก็เข้าไปดู ก็เห็นกุนแจมีรอยงัดแงะจริงๆ แถมยังมีรวดติอยู่ เขาหน้าเปลี่ยนสี “มีขโมยเข้ามาหรือ?”

เฒ่าแก่รีบเรียกเสี่ยวเอ้อในร้านทั้งหมดมารวมตัวกัน แต่ลูกน้องทั้งหมดก็บอกว่าไม่เห็นคนแปลกหน้าเข้ามา คนที่เข้าออกก็มีแต่แขกในร้าน

เซียวโธ่ก็ครุ่นคิด “เจ้าไปเอาบัญชีการเข้าพักมาให้ข้าดูหน่อย”

เฒ่าแก่ค่อนข้างไม่สะดวก “เอ่อ ดูเหมือนจะไม่ได้ ”

“ทำไมดูไม่ได้?” เซียวโธ่โมโห “หรือว่าเจ้ากลัว?”

“ไม่ ไม่ใช่ พวกเราไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลลูกค้าได้ ถ้าท่านแม่ทัพอยากดู ก็ต้องแจ้งทางการก่อน ” เฒ่าแก่กล่าว

เซียวโธ่ก็รู้ว่ามีระเบียบแบบนี้อยู่ ก็เลยพูดว่า “ยังไม่ไปแจ้งความอีก?”

เฒ่าก็รีบสั่งลูกน้องให้ไปแจ้งความกับทางการ สักพัก ก็มีหัวหน้ามือปราบและลูกน้องเข้ามา

หลังจากถามเหตุการณ์อย่างละเอียดแล้ว หัวหน้ามือปราบก็แสดงคำสั่ง ว่า “รีบเอาบัญชีให้แม่ทัพเซียว”

เฒ่าแก่ก็เอาบัญชีรายชื่อแขกที่เข้าพักให้แม่ทัพเซียวและหัวหน้ามือปราบ ทั้งสองคนตรวจดูอย่างละเอียด พบว่าวันนี้มีคนเช็คเอาท์ออก2คน มีคนหนึ่งอยู่ข้างห้องหลิวเยว่ เข้ามาพักเมื่อวาน เพิ่งออกไปไม่นาน ส่วนอีกคน เพิ่งเข้ามาพักแล้วก็ออกไป ทั้งสองคนระบุว่าเป็นคนนอกพื้นที่

“ทั้งสองคนได้แสดงหลักฐานอะไรไหม?” เซียวโธ่ถาม

ถ้าเป็นคนนอกพื้นที่ จะเข้าออกเมืองต้องแสดงใบอนุญาต จะเข้าพักโรงเตี๊ยมก็ต้องแสดงใบอนุญาต

“มีๆ มีใบอนุญาต แม่ทัพเซียวดูนี่ พวกเราบันทึกสิ่งที่พวกเขาแสดงไว้” เฒ่าแก่กล่าว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม