ตอนที่ 379 ใครเป็นคนทำ
หัวหน้ามือปราบมีประสบการณ์การทำคดีต่างๆ เขาเห็นรายชื่อทั้ง2คนนั้น ก็พูดว่า “คนชื่อหยางเหมิงเคยเข้าไปทำเรื่องประทับที่สำนักงานแล้ว ส่วนคนชื่อหลี่ฉี ดูเหมือนว่าจะไม่มีคนชื่อนี้”
“ท่านมือปราบรู้ได้อย่างไร” เซียวโธ่ถาม
“เพราะว่าท่านใต้เท้าฮู่ฉาวป่วยอยู่หลายวัน ข้าไม่มีงานพอดี ใต้เท้าก็เลยให้ข้าทำหน้าที่ดูแลการทะเบียนชั่วคราว ข้ามั่นใจว่า ไม่เคยประทับตราให้คนชื่อ หลี่ฉี อีกอย่าง ท่านดูนี่ หลี่ฉีลงวันที่ทำเรื่องไว้ว่าทำเมื่อวาน เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ข้าทำไมจะจำไม่ได้? และอีกอย่าง ข้างในเขียนบอกว่าเป็นคนจางโจว จะเดินทางมาเมืองหลวงจะต้องผ่าน7หัวเมือง แต่ว่า มีการประทับตราเพียงแค่ 3ตรา นี่แสดงว่า ใบอนุญาตนี้เป็นของปลอมขึ้นมา มันทำไมต้องปลอมขึ้นมา ก็เพราะว่ามันเป็นคนที่นี่ ถ้าเป็นคนนอกพื้นที่อย่างไรก็ต้องมีใบ มีแต่คนพื้นที่ ที่ไม่มีใบ ”
เซียวโธ่รีบถามเฒ่าแก่ “เจ้ายังจำรูปพรรณสัณฐานคนที่ชื่อ หลี่ฉี ได้ไหม? ”
“จำได้ๆ” เฒ่าแก่รีบพูด
เสี่ยวเอ้อก็บอก “ข้าน้อยก็จำได้”
หลิวเยว่ได้ยินอยู่ข้างๆ “ใช่คนที่พักห้องข้างๆข้าไหม? ข้าก็จำได้ เคยเห็นหน้า2ครั้ง”
“เช่นนั้นก็ดีเลย รีบไปหาช่างวาดรูปมาวาดภาพคนร้ายไว้ ” เซียวโธ่กล่าว
หลิวเยว่บอกว่า “จะต้องลำบากทำไม? เดี๋ยวข้าวาดเอง”
ช่วงนี้นางวาดรูปเก่งขึ้น ก็เลยจะทดสอบเสียหน่อย
“เจ้านะหรือ?” เซียวโธ่มองนางแบบไม่มั่นใจ
“ใช่ ข้าวาดเอง”
เสี่ยวเอ้อตระเตรียมห้องหนังสือ หลิวเยว่ก็นึกถึงรูปลักษณ์ของคนนั้น แล้วก็ลงมือวาด
ไม่นาน นางก็เอาภาพวาดยื่นให้เซียวโธ่ เซียวโธ่ดูแล้วก็ขมวดคิ้ว แล้วก็ยื่นให้เฒ่าแก่และเสี่ยวเอ้อดู “เหมือนไหม?”
เฒ่าแก่และเสี่ยวเอ้อก็ชะงักไป แล้วส่ายหัวพร้อมกัน “ไม่เหมือน”
หลิวเยว่ก็กระชากเอาคืนมา พูดอย่างโมโหว่า “ไม่เหมือนตรงไหน? ข้าดูแล้วก็ว่าเหมือน”
เฒ่าแก่พูด “คิ้วไม่ดกดำขนาดนั้น หน้าก็ไม่เหลี่ยมเช่นนั้น ตาก็ไม่โตขนาดนั้น”
เซียวโธ่พูดไม่ออก แล้วพูดกับมือปราบว่า “เจ้าไปเชิญช่างวาดภาพมาเถอะ ข้าจะกลับไปรายงานท่านอ๋อง เดี๋ยวไปรวมตัวกันที่ตำหนักองค์หญิง”
หลิวเยว่ก็เก็บข้าวของ แล้วก็มองๆภาพวาดตนเอง ก็ไม่เหมือนจริงๆ แล้วก็เดินตามเซียวโธ่ออกไป
เสี่ยวเอ้อและเฒ่าแก่ก็ตามออกไป มีคนเคยเห็นคนร้าย3คน รูปน่าจะวาดออกมาได้เหมือนพอสมควร
พวกเซียวโธ่กลับมาถึงจวนอ๋องเหลียง ทุกคนไปอยู่กันที่ตำหนักองค์หญิงหมดแล้ว พวกเขาก็ต้องตามไปที่นั่น
ซือถูเย้นและหลีโม่รู้เรื่องว่าเขาละมั่งโลหิตหายไปแล้ว ก็หน้าเสีย
เมื่อถามรายละเอียดเสร็จ ซูชิงก็พาเสี้ยเฮ่าหรานเข้ามา เสี้ยเฮ่าหรานก็พาหลี่ซ่วยหยุ่นมาด้วย นางมาเป็นเพื่อนเขา และอยากมาเยี่ยมองค์หญิง
อ๋องอานชินพูดว่า “ในเมื่อมีคนเห็นเจ้าหัวขโมยนั่น ก็ให้ซ่วยหยุ่นวาดสิ นางน่าจะวาดได้ดีกว่านักวาดภาพเสียอีก”
ซือถูเย้นมองแม่ยายตนเอง “ท่านคิดว่าอย่างไร” เขารู้ว่านางไม่ได้วาดภาพมานานมากแล้ว ไม่รู้ว่าจะยอมไหม
หลี่ซ่วยหยุ่นไม่มีผมในใจนานแล้ว นางบอกว่า “ได้”
เห็นนางตอบรับ อ๋องอานชินก็โล่งอก เขาหวังว่านางจะกลับมาวาดภาพอีก เพราะมันแสดงว่านางเริ่มปล่อยวางเรื่องในอดีตได้แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...