ตอนที่ 385 องค์รัชทายาทยอมรับผิด
จางฉีถูกเขาตวาดใส่ ความอันธพาลก็เกิดขึ้นมา พูดอย่างโกรธเคืองว่า “เขานั่นแหละที่สั่งให้ข้าไปทำ เจ้ายังให้ข้าแล้วตั๋วเงินหนึ่งร้อย”
พูดเสร็จ เขาก็ล่วงตั๋วเงินหนึ่งร้อยสองใบออกมาจากกระเป๋าตรงแขนเสื้อวางไว้ตรงหน้า “ท่านอ๋อง นี่คือตั๋วเงินที่เขาให้ข้ามา บอกว่าเมื่อเสร็จงานแล้วจะให้ข้าอีกหนึ่งร้อยบาท แต่หลังจากที่ข้าเอาเขาละมั่งโลหิตให้เขาแล้ว เขากลับไม่ให้ข้าอีก ยังพูดอีกว่าข้าไม่ต้องโลภมาก”
องค์รัชทายาทได้ยินดังนี้ ส่งสายตามองไปยังจางฉวนหลงอย่างเยือกเย็น เขาให้เงินไปห้าร้อยบาท ให้เขาไปหาคนจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย
ปกติจางฉวนหลงทำงานอยู่รับใช้องค์รัชทายาท จองหองจนเคยชินแล้ว บวกกับรู้ว่าวันนี้มีฮองเฮากับไถ้ฝู้อยู่ด้วย องค์รัชทายาทจะต้องไม่เป็นไรแน่ จึงไม่เห็นซือถูเย้นอยู่ในสายตา พูดขึ้นว่า “ไทเฮาเหนียงเหนียง ฮองเฮาเหนียงเหนียง ขอท่านให้ความยุติธรรม ข้าไม่เคยสั่งให้เขาไปขโมยเขาละมั่งโลหิต ทุอย่างเป็นเรื่องเท็จ ล้วนเป็นการพูดใส่ร้ายป้ายสี”
กาวหยู่ชือตะโกนพูดขึ้นว่า “เจ้าเรียนให้ใครทราบ? ฮองไทเฮากับฮองเฮาเหนียงเหนียงแค่มาร่วมฟัง เจ้าไม่ตั้งใจตอบคำถามของท่านอ๋อง กลับไปเรียนฮองไทเฮากับฮองเฮา เจ้ารู้อยู่แก่ใจว่าวังหลังไม่ก้าวก่ายเรื่องราชการ นี่ไม่ถือเป็นการใส่ร้ายฮองไทเฮากับฮองเฮาหรือ?”
กาวหยู่ชือเป็นคนรุนแรงชัดเจน และกระทำอย่างยุติธรรมไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น ยึดติดเพียงกฎหมายและจริยธรรม ดังนั้น เมื่อเห็นจางฉวนหลงอวดดี จึงดุด่าขึ้นมาทันที
สีหน้าฮองเฮาขุ่นเคือง แต่ว่าฮองไทเฮากลับดูปลอบโยนมาก นางคิดว่า ในราชสำนักจะมีแต่พวกหัวโบราณ ตั้งกฎขึ้นเยอะแยะมากมาย จัดระเบียบเหล่าขุนนางและบรรดาราชนิกุล
จางฉวนหลงพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋อง ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น เพียงแต่อยู่ๆก็โดนใส่ร้าย ระงับความโกรธไว้ไม่ได้จึงเสียมารยาท”
ซือถูเย้นก็ไม่สนใจที่เขาเสียมารยาท เพียงถามขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “เจ้าบอกว่าเจ้าไม่ได้สั่งให้เขาไปขโมยเขาละมั่งโลหิต ใช่ไหม?”
“ข้าไม่ได้ทำแน่นอน ข้าสามารถเอาชีวิตของคนที่บ้านสาบานได้ ข้าไม่ได้สั่งให้เขาไปทำ อีกอย่าง ถึงแม้เขาจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้า นับตั้งแต่เข้าวังมา ข้าก็ไม่เคยได้พบเขาอีกแล้ว” จางฉวนหลงพูดอย่างหน้าตาย ถึงกระทั้งเอาชีวิตของคนที่บ้านสาบานมาสาบาน ทำให้หลายคนหลงเชื่อ
สายตาซือถูเย้นเฉียบคม “ได้ ในเมื่อเจ้าปากแข็ง ข้าก็จะทำให้เจ้ายอมรับทั้งกายใจ ทหาร เบิกตัวซุนเออร์โก”
เมื่อจางฉวนหลงได้ยินประโยคนี้ สีหน้าซีดขาวขึ้นมาทันที
ซุนเออร์โกถูกพาตัวเข้ามา คุกเข่าลง “ข้าซุนเออร์โก ถวายบังคมท่านอ๋อง”
“ซุนเออร์โก เจ้ามีอาชีพอะไร?” จื่นเฉิงถามขึ้นเสียงดัง
ซุนเออร์โกตกใจจนตัวสั่น “เรียนไต้เท้า .......ข้า......ข้าเป็นคนสลักตราอยู่ในตลาดตง”
“พูดให้ชัดเจนหน่อย” จื่นเฉิงถามอย่างโกรธเคือง
ซุนเออร์โกพูดอย่างหวาดกลัวว่า “ครับ ครับ เข้าสลักตรา แล้วก็ แล้วก็ช่วยแขกทำการตรวจสอบปลอม เช่นพวกใบผ่านและตั๋วเป็นต้น”
“งั้นเจ้าดูคนคนนี้สิ เขาเคยให้เจ้าช่วยทำการตรวจสอบปลอมไหม?” จื่นเฉิงชี้ไปที่จางฉวนหลงแล้วถามขึ้น
ซุนเออร์โกเงยหน้าขึ้นมาดูจางฉวนหลง แล้วพยักหัวด้วยสีหน้าซีดขาว “เคย เคย เข้าคือฉวนกงกง เป็นคนขององค์รัชทายาท เคยทำหลายครั้งมาก วันนี้ให้ข้าทำใบผ่านหนึ่งใบ”
“ใบผ่านเป็นชื่อของใคร?”
“ชื่อ....ชื่อหลี่ฉี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...