ตอนที่ 398 หนังสือหย่าฉบับนั้น
หลีโม่แกล้งทำเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร เอ่ยถามขึ้นมาว่า “ใต้เท้าเหลียงมีธุระอันใดหรือ?”
ใต้เท้าเหลียงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนยิ้มแย้มพูดขึ้นมาว่า “เรื่องมันเป็นอย่างนี้พ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันมาที่นี่มีเรื่องอยากจะสอบถามพระชายาเล็กน้อย”
“อืม เชิญนั่งก่อนสิ!” หลีโม่กล่าวด้วยความใจกว้าง
ใต้เท้าเหลียงเพิ่งจะนั่งลงได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงซือถูเย้นไอออกมา เขารีบร้อนลุกขึ้นทันที หัวเราะแล้วพูดว่า “หม่อมฉันนั่งมานานแล้ว รู้สึกเมื่อยเอว
เล็กน้อย ยืนก็พอแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ช่วงนี้สำนักงานจิงเจ้าหยิ่นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มีจุดยืนที่ไม่ค่อยชัดเจนนัก เมื่อก่อนยังร่วมมือกับไถ้ฝู้และองค์รัชทายาททำเรื่องกลั่นแกล้งพระชายา
เขารู้ว่าตนน่าสะอิดสะเอียน จึงไม่กล้าก่อเรื่องอีก ครั้งนี้เดิมทีก็ไม่คิดจะมาด้วยตัวเอง แต่ก็กลัวว่าหากส่งขุนนางอื่นมาอาจจะลงโทษพระชายาได้
จึงทำได้เพียงมาด้วยตัวเอง
ไม่ว่าอย่างไรอารมณ์โมโหนี้ก็ต้องรับอยู่แล้ว
หลีโม่ถลึงตามองซือถูเย้น ซือถูเย้นทำเพียงแค่มองไม่เห็นเท่านั้น ยกน้ำชาขึ้นดื่มด้วยท่าทางนิ่งเฉย
“ใต้เท้ามีอะไรอยากจะถามก็ถามมาเถอะ?” หลีโม่เอ่ยถามอย่างมีมารยาท
ใต้เท้าเหลียงสีหน้าเรียบร้อย “มันเป็นอย่างนี้ เมื่อวานฮูหยินใหญ่ของแม่ทัพเซียวตายแล้ว ไม่รู้ว่าพระชายาจะรู้เรื่องนี้หรือไม่?”
หลีโม่พูดด้วยสีหน้าประหลาดใจ “ตายแล้ว? ตายได้อย่างไร?”
“พระชายาไม่รู้งั้นหรือ?” ใต้เท้าเหลียงเอ่ยถาม
“รู้แล้ว”
“อ๊ะ?”
หลีโม่ยิ้มแล้วพูดว่า “เมื่อครู่นี้ใต้เท้าบอกแล้ว ว่านางตาย ดังนั้นข้าก็รู้แล้ว”
ใต้เท้าเหลียงตะลึงงันไปครู่หนึ่ง รู้สึกกระอักกระอ่วน “อ้อ พ่ะย่ะค่ะ ตามที่ข้าน้อยพูดถึงเรื่องจวนแม่ทัพใหญ่ คืนวานนี้พระชายาไปหาฮูหยินเซียว”
หลีโม่กล่าวยอมรับว่า “ใช่ ข้าไปหานาง อยู่ในห้องนางเพียงหนึ่งเค่อ พูดคุยกันเพียงไม่กี่ประโยค จากนั้นก็กลับ”
ใต้เท้าเหลียงถอนหายใจ เดิมทีเขานึกว่าหลีโม่จะไม่ยอมรับ
ใต้เท้าเหลียงพูดต่อว่า “เป็นอย่างนี้พ่ะย่ะค่ะ ในตอนที่พวกเราอยู่ในที่เกิดเหตุ เจอปิ่นปักผมอันหนึ่ง เมื่อผ่านการจำแนกแยกแยะแล้ว ปิ่นปักผมอันนี้เป็นของใช้ของราชนิกุล เมื่อตรวจสอบดูในตำหนักนางใน ถึงได้รู้ว่าเป็นของที่ราชสำนักมอบให้พระชายาตอนที่อภิเษก จึงได้มาสอบถามพระชายาดู ว่าท่านได้ทำหายหรือไม่?”
หลีโม่ยื่นมือไปลูบปิ่นปักผมเล็กน้อย “อ้อ ต้องทำหายตอนที่ไปหาหานชีงชิวเมื่อเย็นวานนี้แน่นอน”
“พระชายาไม่ระวังขนาดนี้เชียวหรือ?” ใต้เท้าเหลียงมองไปทางหลีโม่ “พูดตามหลักแล้ว ปิ่นปักผมอันนี้อยู่บน หากไม่ดึงมันลงมา ก็น่าจะไม่มีทางหล่นได้”
“ดึงงั้นหรือ?” หลีโม่คิดครู่หนึ่ง “ตอนที่ข้าออกมาจากประตู ฮูหยินเซียวรั้งให้ข้าอยู่ต่อ นับว่าดึงได้หรือไม่?”
ใต้เท้าเหลียงไม่พูดอะไร ได้แต่หัวเราะครู่หนึ่ง หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดขึ้นมาอีกว่า “จริงสิ ที่เกิดเหตุยังพบหนังสือหย่าฉบับหนึ่งอีกด้วย เป็นหนังสือที่แม่ทัพเซียวเขียน ไม่ทราบว่าพระชายาเคยเห็นหนังสือหย่าฉบับนี้หรือไม่?”
หลีโม่พูดอย่างแปลกใจว่า “หนังสือหย่า? ข้ายังไม่เคยเห็นจริงๆ”
นางแปลกใจมากจริงๆ ตามที่เสี่ยวเตาพูด คืนวานนี้หลังจากหญิงที่วางยาพิษฆ่าหานชีงชิวแล้ว จึงทิ้งเอาไว้แค่ปิ่นปักผม ไม่ได้ทิ้งหนังสือหย่าอะไรเอาไว้ทั้งนั้น
ซือถูเย้นเองก็ถูกดึงดูดความสนใจเช่นกัน เป็นฝ่ายเข้ามานั่งด้วยตัวเอง “หนังสือหย่าอะไร?”
ใต้เท้าเหลียงสั่งให้หัวหน้าสายตรวจออกมา ส่งให้ซือถูเย้น ซือถูเย้นรับมาแล้วเปิดออก เป็นหนังสือหย่าร้างจริงๆ
“วันที่คือปีแรกของปีหงเป่างั้นหรือ?” หลีโม่เอ่ยถามอย่างตกใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...