พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 405

ตอนที่ 405 เตรียมการแต่งงาน

อ๋องหนานหวยรู้ว่าซือถูจิ้งมีเงินทองมากมาย แต่ไม่รู้ว่ามีมากมายถึงเพียงนี้ เขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที “หมู่ฮอง หากเราได้เงินทองมาแล้ว พวกเราก็จะมีศาตราวุธมากมาย”

ก้ยไท่เฟยตอบ “ครั้งก่อนเจ้าสั่งคนว่ารายงานว่าต้องการจัดซื้อธนูที่แคว้นต้าหมิง บัดนี้เจ้าเจรจาซื้อขายได้เลย”

“ต้องรออีกเสียหน่อย วันนั้นที่ข้าเข้าเมืองได้เจรจากับผู้ทำอาวุธผู้นั้นแล้ว อาวุธเล่มนี้พวกเขาวางแผนขายให้คนของเจ้ายุทธภพ”

กุ้ยไท่เฟยตอบนิ่งๆ “ไม่สามารถรอได้อีกแล้ว ต้องแย่งชิงเอามาให้ได้”

“เรื่องนี้หม่อมฉันได้ถามมาแล้ว พวกเขาได้ตกลงเจรจากับเจ้ายุทธภพ และได้จ่ายเงินตราแล้วเรียบร้อย”

“ถ้าเช่นนั้นก็ต้องลงเงินไปอีกสองเท่า นำอาวุธนี้มาให้ได้ เจ้ากลับเมืองมาครานี้ไม่ได้นำกองคนมากมาย ในมือของข้ายังพอมีคน เพียงแต่ว่าขาดแคลนอาวุธ ต้องมีแผนการสำรองเอาไว้อีกทาง”

“ลงเงินไปอีกหรือ? แต่หากพวกเราลงเงินไป พวกเราต้องสำรองเงินตราออกไปก่อน ตอนนี้สมบัติเงินทางขององค์หญิงยังไม่ตกมาอยู่ในมือ พวกเราจะไปเอาเงินที่ไหนได้เล่า? ”

“เงินสองเท่าข้าสามารถจ่ายได้ เจ้าจงไปเจรจาซื้อขายกับพวกเขาเสียทำให้เขาปล่อยอาวุธมาให้พวกเรา เพิ่มเงินลงไปดีกว่าปล่อยให้พวกเขายกอาวุธเหล่านั้นให้พวกเจ้ายุทธภพ พวกค้าอาวุธพวกนี้มองเพียงแต่เงินทองเท่านั้น หากเงินมากพอก็ไม่สนความถูกต้องใด”

อ๋องหนานหวนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “หากแต่ว่า เงินนั้นไม่อาจมั่นใจได้ว่าจะมาถึงมือ”

“เวลานี้ต้องรีบคว้ารีบจัดการ เจ้าไปเถอะ ฟังข้าก็พอ หากไม่มีอาวุธมีกองกำลังคนแค่ไหนก็มิมีประโยชน์” กุ้ยไท่เฟยกล่าว

อ๋องหนานหวงเห็นว่านางคิดแผนเป็นขั้นเป็นตอน จึงกล่าวออกไป “เช่นนั้นก็ดี หม่อมฉันจะไปเจรจาประเดี๋ยวนี้”

แต่ว่าเขาก็เกิดกังวลขึ้นมาอีกครั้ง “หมู่ฮอง หากพวกเราได้อาวุธมาแล้วต้องแน่ใจว่าจะมีเงินตราพอจะจ่ายให้คนเหล่านั้น หากไม่ละก็คราวหน้าหม่อมฉันก็จะกลายเป็นผู้เชื่อถือมิได้ พวกมันอาจไม่ให้หม่อมฉันเจรจาต่อรองค้าขายอีก และพวกมันไม่ใช่คนที่จะมาเล่นแง่ได้ง่ายๆ ถึงแม้พวกข้าจะไม่ได้กลัวพวกมันก็เถอะ เพียงแต่ว่าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้เลย”

“เอาเถอะ เห็นท่าทางกลัวหน้าพะวงหลังของเขาแล้ว เหตุใดจึงกังวลจนทำเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต? หวานอมขนกลืน ไม่มีความกล้าหาญเลยเสียเพียงนิด เจ้าควรเรียนรู้จากพี่ชายเจ้าดูบ้าง แม้เขาจะอกตัญญูเสด็จแม่ แต่เขานั้นกล้าหาญกว่าเจ้ามาก ทั้งยังเก่งกาจ” กุ้ยไท่เฟยกล่าว

แววตาอ๋องหนานหวยขมขื่น แต่ในพริบตาเดียวก็ลบสายตานั้นออกไป ไม่แสดงออกมา “พ่ะย่ะค่ะ ถ้าเช่นนั้นหม่อมฉันขอตัวไปจัดการเรื่องราว”

กุ้ยไท่เฟยหยิบกุญแจออกมาจากแขนเสื้อ และยื่นใบตราประทับออกมาใบหนึ่ง “นี่เป็นใบกำกับคลังการเงินของราชสำนักของเสด็จแม่ เจ้าถอนออกมาให้หมด ไปเสียเถอะ”

“พ่ะย่ะค่ะ ลูกจะไปประเดี๋ยวนี้” อ๋องหนานหวยรับใบตรามาก่อนลาออกไป

ใบกำกับคลังเงินของราชสำนัก เป็นคลังที่เปิดขึ้นเพื่อให้เหล่าขุนนางในราชสำนักได้เก็บเงินตรา คลังเงินราชสำนักนำเงินฝากเหล่านี้ออกมาให้กู้ยืม ออกดอกออกผลเป็นกำไร ดอกเบี้ยยี่สิบในส่วนร้อยจะถูกนำเข้าคลังเงินของราชสำนักใช้เป็นค่าอุปโภคบริโภคแก่ราชวงศ์และเหล่าขุนนาง

ชาวบ้านทั่วไปไม่สามารถเข้ามามีส่วนร่วมกับคลังเงินของราชสำนักได้ ในหมู่ชาวบ้านมีเศรษฐีเปิดคลังเงินและคลังฝากเงินเช่นกัน แต่คลังเงินของชาวบ้านนั้นค่อนข้างยุ่งยาก ไม่สามารถเข้าถึงได้ทั่วทุกตระกูล

ยกตัวอย่างเช่นร้านติงเฟินของหูฮวนซีก็มีคลังเงินเช่นกัน ชาวบ้านจะลงฝากเงิน เงินฝากนั้นจะถูกตีกลับมาเป็นใบตั๋วเงินฝาก ใบตั๋วเงินฝากแทนเงินที่ฝากไปสามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้ที่ร้านติงเฟิงได้เท่านั้น ไม่สามารถแลกเป็นเงินได้ที่ร้านอื่น

เช่นเดียวกัน ใบตั๋วเงินคลังของราชสำนักก็แลกกลับมาเป็นเงินได้ที่คลังของราชสำนักเท่านั้น ไม่สามารถนำใบตั๋วนี้ไปให้พวกค้าขายอาวุธโดยตรงได้ เขาจึงต้องไปที่คลังเงินราชสำนักเพื่อถอนเงินออกมาด้วยตนเอง

เพราะเหตุนี้อ๋องหนานหวงจึงกังวลใจ ไปแลกเงินมากมายเงินเพียงนี้และจะต้องนำเงินมากมายที่ได้มาเข้าคลังอีกครา ทำการใหญ่เช่นนี้จะต้องตกเป็นเป้าสายตาเป็นแน่

ดังนั้นเขาจังให้คนไปตามหาเหลียงเหาเย๋ นำตั๋วคลังเงินราชสำนักไปให้เหลียงเหาเย๋แลกกับใบตั๋วติงเฟิงของร้านหูฮวนซี เพราะเหลียงเหาเย๋เป็นหุ้นส่วนกับตระกูลหู เช่นนี้ก็ไม่มีผู้ใดรู้เรื่องราวนี้ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม