พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 409

ตอนที่ 409 ดื่มซุปเสียหน่อย

ณ ตอนนี้ความพะว้าพะวังของทุกคนถูกซือถูเย้นกำจัดออกไปจนหมดสิ้นแล้ว ไม่ว่าใครจะพะวงใคร ใครจะเกรงกลัวใครล้วนไม่สำคัญอีกต่อไปเพราะการสมรสได้ประกาศออกไปแล้ว ไม่ว่าเซียวเซียวจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ หากไม่เขา ซือถูจิ้งจะไม่แต่งงาน

ซือถูจิ้งตื่นขึ้นมาในวันนั้น หลีโม่ได้เล่าเรื่องทั้งหมดของเซียวเซียวฟัง ฟังจบก็ยิ้มทั้งน้ำตาพร้อมกล่าวออกมาเพียงคำเดียว “เจ้าโง่! ”

หลังจากนั้นน้ำตาของนางก็ไหลออกมาไม่หยุด เช็ดอย่างไรก็ไม่แห้ง แต่เรื่องราวไม่มีใครพูดเรื่องราวความรักความตายขึ้นมาเลย

ไม่ว่าใครก็ไม่พูดขึ้นมา

เรื่องราวความรักของพวกเขาขยับมาอีกหนึ่งก้าว หากไม่ได้อยู่เคียงกัน เช่นนั้นก็คงเป็นโศกนาฏกรรมความรักจริงๆ

ร่างกายของซือถูจิ้งยังไม่ฟื้นตัวดีนัก ดังนั้นขึงไม่สามารถพักอยู่ในพระราชตำหนักได้นาน หลังจากส่งองค์หญิงกลับตำหนักขององค์หญิงเองแล้ว หลีโม่กับซือถูเย้นก็นั่งอยู่สักพักก่อนกลับไป

ระหว่างทางหลีโม่ถามซือถูเย้น “อันที่จริงเหตุใดจริงไม่ส่งพวกเขาให้ได้อยู่ด้วยกันล่ะเพคะ? เช่นนี้ก็จะไม่มีใครบนโลกนี้เข้ามารบกวนได้ สามารถใช้ชีวิตของตัวเองได้มากขึ้น”

ในบั้นปลาย นางอยากจะใช้ชีวิตเช่นนั้น

ซือถูเย้นกรอกตาใส่นาง “เจ้าจินตนาการเกินไปแล้ว ผู้คนอยู่ในโลกนี้ ย่อมต้องพบเจอกับความยากลำบาก ซือถูจิ้งเกิดในที่แห่งนี้ โตอยู่ที่นี่ และแน่นอนว่านางจะตายอยู่ที่นี่ แน่นอนว่าพวกเขาอาจจะตัดสินใจออกเดินทางไปด้วยกัน แต่ในท้ายที่สุดก็ต้องกลับมาที่แห่งนี้ พวกเขาเป็นคู่สร้างคู่สม เหตุใดจึงต้องมาหลบๆ ซ่อนๆ? นอกจากนี้คนใกล้ชิดสหายสนิทของซือถูจิ้งล้วนอยู่ที่เมืองหลวง นางไม่ใช่คนที่มุ่งเพียงคนรักไม่สนใจสหาย นางจะทิ้งทุกอย่างไว้ที่นี่ได้อย่างไร? ”

“เป็นเช่นนี้หรือ? ไม่มีเหตุผลอื่นหรือ” หลีโม่ถาม

ซือถูเย้นเงียบไปครู่หนึ่ง “มีเหตุผลหนึ่งที่ดูไม่มีเหตุผล แต่ไม่คุ้มที่จะเสี่ยงจุดประเด็นขึ้นมา บางอย่างหากเคร่งครัดเกินไปอาจไม่ใช่เหตุผล”

“แล้วสิ่งใดคือเหตุผลที่ไม่สมเหตุสมผลของเจ้า? ” หลีโม่ถามด้วยความไม่เข้าใจ

ซือถูจิ้งเงียบไปอีกครา “เซียวเซียวเป็นแม่ทัพ”

“แล้วอย่างไร? ”

“หน้าที่ของแม่ทัพคือปกป้องบ้านเมือง แคว้นต้าโจวมีแม่ทัพและทหารกล้ามากมาย แต่ในภายหน้าอาจมีหวัง คืออู๋อันโหวของตระกูล ตระกูลเซียวและตระกูลเฉิน เหล่าไท่จูนตระกูลเฉินชรามากแล้ว ไม่สามารถลงสนามได้ แม่ทัพทั้งสิบสองนายของตระกูลเฉินนั้นหาญกล้ามากแต่ยังอ่อนประสบการณ์ต่อสนามรบ สุดท้ายก็จะไม่มีผู้เป็นอู๋อันโหวในตำแหน่งที่ชัดเจน”

“ด้วยเหตุนี้ จึงถือเป็นเหตุผลที่ไม่สมเหตุสมผลที่เซียวเซียวต้องเป็นกองกำลังด่านหน้าของบ้านเมืองเคียงคู่เจ้า มีการรบหรือไม่ เขาจะต้องเป็นทหารกล้าของแคว้นต้าโจวทำให้ผู้คนเกรงขาม ใช่หรือไม่? ”

“ใช่ เจ้าพูดไม่ผิดเลย ทุกคนล้วนมีหน้าที่ของตนเอง เจ้าก็มีเช่นกัน…” เขาค่อยๆ หันไปมองนาง “เจ้าทำอาชีพเป็นหมอยาในกองทัพทหารมาแปดปีใช่หรือไม่? ”

หลีโม่หัวใจเต้นเร็วระรัว จากนั้นนางก็เผยยิ้มแห้งๆ ราวกับคนบื้อ “ค่ำนี้พวกเราจะกินอะไรกันดีเล่า? ”

“ตอนค่ำเมื่อคราวเป็นหมอในกองทัพเจ้ากินอะไรเล่า?”

หลีโม่กุมหัว “ปวดหัวนิดหน่อย วันนี้ข้าต้องนอนเสียหน่อย วันนี้ข้าไม่กินอาหารมื้อเย็นล่ะ”

“ปวดหัว? เจ้าเป็นหมอไม่ใช่หรือ? รักษาอาการให้ตัวเองเสียหน่อยซี่”

หลีโม่เงียบลงไม่พูดอะไร จิ้มนิ้วตนเอง วางแผนในหัวว่าควรจะกล่าวสิ่งใดเพื่อเบี่ยงเบนดี

“หากสิ่งที่เจ้าพูดออกมาไม่ใช่ความจริงละก็ไม่ต้องพูดล่ะ ข้าไม่ชอบท่าทางของเจ้าที่เป็นจอมโกหก”

หลีโม่ถลึงตาโต “ข้าไปโกหกเจ้าตอนไหนกัน? ”

“เจ้าไม่ได้โกหกตอนไหนกัน? ” ซือถูเย้นถามนาง หลี่ตามอง

นี่… ก็จริงอยู่บ้าง

ใช่ ปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปซะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม