ตอนที่ 41 เจ้ายังต้องการจะถอนหมั้นอยู่ไหม
ซือถูเย้นฉายแววยั่วเย้าคนอื่นในแววตา “เหนื่อยไหม?”
หลีโม่ตระหนักได้จึงตอบกลับไป “เหนื่อยสิ!”
“เหนื่อยก็นั่งพักเถอะ เจ้าคงจะลำบากมากแล้ว” ซือถูเย้นพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่อบอุ่น
หลีโม่เอียงอายเล็กน้อย ยอมรับว่าเหนื่อยจริงๆ และนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆเขา
เมื่อก้นสัมผัสลงบนเก้าอี้ ซือถูเย้นก็เอ็ดเสียงดังขึ้นมาทันใด “ใครใช้ให้เจ้านั่งระดับเดียวกับข้า?”
หลีโม่รีบยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วชำเลืองมองไปทั่วรอบทิศทาง แต่ก็ไม่มีเก้าอี้ตัวไหนที่ต่ำกว่าตัวที่เขานั่งแต่อย่างใด
“นั่งพื้นสิ!”ซือถูเย้นยื่นเท้าออกมาด้านหน้าของเขาเพียงเล็กน้อย
หลีโม่ด่าทอเสียงต่ำอยู่ในใจ นั้นมันระดับเท้าของเขาไม่ใช่หรือ?
นางตอบกลับไปอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน “ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันไม่เหนื่อยหรอก ยืนได้เพคะ”
“ไม่เหนื่อย?” ซือถูเย้นยื่นมือขึ้นไปลูบหน้าผาก “ไม่เหนื่อยก็ดี มานวดไหล่ นวดหัวให้ ข้าหน่อย “
“ท่านอ๋องไม่สบายหรือเพคะ?” ถึงแม้ว่าหลีโม่จะรู้ว่าเขาตั้งใจทำให้ตัวเองลำบากก็ตาม แต่เมื่อนึกถึงตอนที่เขาช่วยเหลือมาตลอดตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ จึงทำได้เพียงแค่ต้องอดทนต่อความขี้โวยวายอย่างไร้เหตุผลของเขาเท่านั้น
“ปวดหัว!” ถึงแม้ว่าซือถูเย้นจะตั้งใจแกล้งนางก็ตาม แต่เขากลับรู้สึกปวดหัวจริงๆ
อาการปวดหัวของเขากำเริบติดต่อกันมาสองปีกว่าแล้ว ทุกครั้งที่กำเริบ ก็มักจะเกิดอาการรุนแรงหนักขึ้นเรื่อย ๆและด้วยความที่สองวันนี้ก็ค่อนข้างยุ่งมาตลอด อีกทั้งวันนี้ก็ต้องตื่นเช้ามาทำธุระด้วย ช่วงบ่ายจึงเกิดความรู้สึกปวดหัวขึ้นมา
หลีโม่นั้นคิดว่าเขาแกล้งทำ แต่เมื่อเห็นสีหน้าและสีปาก จึงมั่นใจได้ว่ามีอาการเลือดเกาะตัวแน่นอย่างแน่นอน
หลักการวินิจฉัยและรักษาอันสำคัญของการแพทย์จีนคือปวด แสดงว่าไม่โล่งแล้วก็จะไม่ปวด ร่างกายของคนเราจะแสดงอาการเจ็บปวดออกมาทางสีหน้าสีปากและทางลิ้น
หลีโม่จึงวิเคราะห์ได้ว่า ซือถูเย้นน่าจะเป็นกระดูกสันหลังอุดตันจึงทำให้เลือดไม่สามารถมาเลี้ยงสมองได้ จึงเกิดอาการปวดหัวขึ้น
นางจึงถามหยางมามาขึ้นว่า “มียาขี้ผึ้งไหม?”
หยางมามาจึงตอบว่า “หมอหลวงน่าจะมียาสะระแหน่ ได้ไหมเพคะ?”
“ได้!” หลีโม่พูด
ในวันปกติ หากหมอหลวงไม่มีธุระปะปัง ก็มักจะชื่อชอบทำของที่จำเป็นเอาไว้ใช้สอย อย่างพวกยาทา ยาขี้ผึ้งอะไรเหล่านี้เพื่อให้นางสนมในวังหลงรัก
หยางมามาหยิบยาสะระแหน่มาขึ้นมา ยื่นให้กับหลีโม่ ซือถูเย้นขมวดคิ้ว “ของเหล่านี้ใช้ไม่ได้ผลหรอก ข้าเคยใช้มาแล้ว และก็ไม่ชอบกลิ่นมันด้วย”
หลีโม่จึงพูดขึ้นว่า “มีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์ เดี๋ยวก็ได้รู้เพคะ”
นางหันกลับมาพูดกับหยางมามาว่า “ข้าบดเฮียเฮียะเหลืออยู่ครึ่งคืน รบกวนหยางมามาช่วยใช้กระดาษน้ำมันช่วยม้วนไว้ให้ข้าหน่อย ขอแน่นๆนะ”
ซือถูเย้นกำลังจะพูดออกมา นิ้วมือของหลีโม่ก็ร่วงลงมาระหว่างคิ้วพอดี จากนั้นก็แยกออก แล้วทำท่านวดอยู่ตรงขมับของเขา
ความรู้สึกสบายเริ่มกระจายตัวออกมาจากศีรษะคำว่า “ไม่”ของ ซือถูเย้นจึงได้กลืนหายเข้าไปในลำคอทันที
“ออกแรงอีกนิด” ซือถูเย้นออกคำสั่ง
หลีโม่จึงพูดอธิบายว่า “ตรงขมับไม่ควรออกแรงเยอะเพคะ อย่าเพิ่งรีบร้อน เดี๋ยวท่านจะปวดนะเพคะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...