พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 422

ตอนที่ 422 ความตายกำลังมาเยือน

งานแต่งงานผ่านพ้นไปด้วยความยินดีปนความเจ็บปวด ยังคงไร้ข่าวคราวของเซียวเซียว

เสี้ยฮ่าวหรานไปโดยหาน บอกว่าไปสองวันแล้วจะกลับมา แต่ก็ไม่ได้กลับมา ให้เจ้าอ้วนกลับมาแจ้งว่าจะยังไม่กลับมาเป็นการชั่วคราว

ส่วนอาการของเซียวเซียว เจ้าอ้วนไม่ได้พูด

ซือถูจิ้งไม่ได้ถาม และก็ไม่ได้พูดว่าจะไปหาเซียวเซียว นางจะรออยู่ตรงนั้นในเมืองหลวง

ผ่านเรื่องราวมามากมายขนาดนี้ นิสัยของซือถูจิ้งดูเงียบสงบไปมาก เข้าวังไปเข้าเฝ้าบ้าง ไปหาหูฮวนซีกับหลีโม่บ้าง เวลาส่วนใหญ่ ก็จะนั่งเงียบอยู่ในตำหนัก

ผลสืบความจากอ๋องหนานหวยออกมาแล้ว เป็นไปตามที่ทุกคนคิด ความที่เขาสรุปก็คือหานชีงชีวฆ่าหยาวจื่อ เมื่อผลเป็นเช่นนี้ ในที่สุดหนังสือหย่าก็ถูกประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ

ป้ายหลุมศพหานชีงชีวถูกถอดออก คนบาปคนหนึ่ง ไม่สมควรมีป้ายหลุมศพ นางก็ไม่ใช่คนของตระกูลเซียวอีกต่อไป

ต่อมาหลายวัน ซือถูเย้นล้วนออกจากบ้านไปเช้าเย็นกลับ และกลางวันหลีโม่ไปจวนอ๋องเหลียงเพื่อรักษาขาของอ๋องเหลียง ตอนเย็นกลับจวนมาเตรียมอาหารค่ำ ในช่วงนี้อาหารค่ำของทั้งสองล้วนเป็นฝีมือนาง

กุ้ยหยวนถูกย้ายไปดูแลบัญชี คนทำบัญชีบอกว่าเขามีความสามารถมาก และก็ยินดีสอนงานเขา ทำให้หลีโม่รู้สึกภาคภูมิใจ

วันเวลาเงียบสงบมาก แต่ว่าทุกคนต่างก็รู้ดีว่า ความสงบนี้จะอยู่ได้ไม่นาน

และแล้วก็เป็นอย่างที่คิด วันนี้นางเพิ่งกลับมาจากจวนอ๋องเหลียง อาฝูก็มาหา บอกว่ากุ้ยไท่เฟยต้องการพบนาง

หลีโม่คิดถึงว่าตั้งแต่แต่งงานเข้ามา ยังไม่เคยได้ทำความรู้จักกับแม่ยายคนนี้เลย และก็ไม่เคยไปเข้าเฝ้า ครั้งนี้ที่เรียกพบ ต้องไม่น่าไว้ใจแน่

“หวังเฟย ไท่เฟยเรียกพบกะทันหันแบบนี้ เกรงว่าจะมีปัญหา รอท่านอ๋องกลับมาแล้วค่อยไปไหม?” มามาถามขึ้น

หลีโม่คิดอยู่แปบหนึ่ง “ไม่เป็นไร ข้าไปดูก่อน ไปดูว่านางคิดจะทำอะไรกันแน่”

“แต่ว่า กุ้ยไท่เฟยไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรับมือ เจ้าไปหานางแบบนี้ เกรงว่าจะเสียเปรียบ” มามาเป็นห่วงมาก

“ไม่เป็นไร อยู่ภายในจวน นางไม่กล้าทำอะไรข้าหรอก ข้าก็อยากไปดูเหมือนกัน นางสงบมาตั้งนานขนาดนี้ ที่จริงกำลังคิดทำอะไรอยู่กันแน่” หลีโม่ถาม

มามายังคงไม่วางใจ “งั้นให้ข้าไปด้วยไหม”

“ก็ได้” หลีโม่ตอบรับ

มามาเรียกเตาเหล่าต้ามาแล้ว ทั้งสองไปชิงหนิงเก๋อเป็นเพื่อนหลีโม่

ตั้งแต่แต่งงานเข้ามา หลีโม่ยังไม่เคยมาที่นี่เลย ชิงหนิงเก๋อมีกลิ่นอายของความโบราณมาก แน่นอน นี่เป็นสมัยโบราณ

แต่ว่า ที่นี่ค่อนข้างแตกต่างกับที่หลีโม่คิดไว้ ในห้องโถงมีภาพเขียนแขวนไว้มากมาย โบราณวัตถุ ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านดูแล้วด้วยเป็นไม้ชิงชันหรือไม้แดงอย่างดี ฉากกั้นหยกหิน เป็นชิ้นเดียวที่แลดูเวอร์วังไม่เข้าพวก เพราะแกะสลักไว้เป็นนกสีฟ้าตัวหนึ่งกำลังโบยบิน ค่อนข้างฉับพลัน

กุ้ยไท่เฟยนั่งอยู่บนเก้าอี้ถ้ายซือตรงกลางห้องโถง เสื้อคลุมตัวนอกสวมใส่ชุดผ้าลูกไม้ปักลายสีดำ มวยผมกระชับ ท่าทางดูสูงส่งมีเกียรติอย่างเช่นเคย

อากาศค่อนข้างหนาว ดังนั้นในห้องจึงมีถ่านไฟ อุณหภูมิแตกต่างจากภายนอกอย่าง สิบองศา

หลีโม่ถอดเสื้อคลุมออก ยื่นให้เย็นเอ๋อร์ แล้วก้าวไปข้างไปทำความเคารพ “อวยพรกุ้ยไท่เฟย”

กุ้ยไทเฟยมองดูนาง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ซึ่งรอยยิ้มนั่นแข็งกระด้างมาก เหมือนตั้งใจฉีกยิ้มออกมา “มาแล้วหรือ นั่งสิ”

หลีโม่กล่าวขอบคุณ แล้วก็นั่งลง

กุ้ยไท่เฟยมองดูมามากับเย็นเอ๋อร์ “พวกเจ้าออกไปก่อน ข้ากับหลีโม่แม่ยายกับลูกสะใภ้จะคุยกันสองคน”

มามามองดูหลีโม่แปบหนึ่ง หลีโม่ก็พูดว่า “ไปเถอะ ฟังคำสั่งของกุ้ยไท่เฟย”

มามาไม่ไว้ใจถึงได้ตามมา นี่มาถึงก็ถูกไล่ให้ออกไปแล้ว ในใจนางค่อนข้างเป็นห่วง แต่ก็ไม่อาจขัดคำสั่งของกุ้ยไท่เฟย จึงต้องพาเย็นเอ๋อร์ถอยออกไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม