พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 43

สรุปบท ตอนที่ 43 บาดเจ็บที่ขา: พิษรักองค์ชายโฉมงาม

ตอน ตอนที่ 43 บาดเจ็บที่ขา จาก พิษรักองค์ชายโฉมงาม – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 43 บาดเจ็บที่ขา คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ พิษรักองค์ชายโฉมงาม ที่เขียนโดย ใบไม้แดง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 43 บาดเจ็บที่ขา

ยามโหย่วโดยประมาณ หลี่โม่พูดกับฮองเฮาว่า “เหนียงเหนียง สถานการณ์ในตอนนี้ของเตี้ยนเซี่ยคงที่มากขึ้นแล้วเพคะ สามารถกลับตำหนักได้แล้วเพคะ”

ฮองเฮาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก รออยู่ประมาณหนึ่งวันเต็ม ก็กลับไปยังสถานที่ที่หลีโม่ได้กล่าวไว้

“มา รีบมาต้อนรับเร็วเข้า” หยางมามาตะโกนขึ้นในทันที

หลีโม่เดินขึ้นหน้า แล้วพูดกับฮองเฮาว่า “ฮองเฮาเหนียงเหนียง หม่อมฉันขอนุญาตกล่าวกับท่านเป็นการส่วนตัวสักสองสามประโยคได้ไหมเพคะ?”

จิตใจที่เพิ่งจะผ่อนคลายลงของฮองเฮาได้ขยายขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นก็เดินไปเล็กน้อย แล้วถามขึ้นด้วยความตึงเครียดว่า “มีเรื่องอะไร? ใช่อาการป่วยที่เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่?”

หลีโม่ส่ายหน้า “ไม่ใช่เพคะ เหนียงเหนียงอย่าเพิ่งกังวลเพคะ อาการป่วยของอ๋องเหลียงเตี้ยนเซี่ยในเวลานี้คงที่มากเพคะ เพียงแค่ระบายออกอย่างต่อเนื่องอีกสองครั้งและมียาปรับความสมดุลเป็นตัวช่วยด้วย สักประมาณครึ่งเดือนก็ไม่เป็นอะไรแล้วเพคะ ส่วนอาการลมชัก ต้องรอให้ร่างกายฟื้นตัวก่อน แล้วทำการรักษาด้วยการฝังเข็มอีกครั้ง วิธีนี่ต้องใช้เวลารักษาค่อนข้างนาน รีบร้อนไม่ได้เพคะ ”

“อาการชักที่เจ้าพูดถึง จริงๆแล้วก็คือ......ลมบ้าหมูใช่ไหม?” ฮองเฮาไม่ค่อยอยากจะพูดคำว่าลมบ้าหมูสามคำนี้ออกมาเท่าไหร่นัก สำหรับนางอาการนี้ มักจะเกิดขึ้นในหมู่คนที่ด้อยกว่าหรือไม่ก็บ้าเท่านั้น

“ใช่เพคะ ลมชักคือชื่ออย่างเป็นทางการเพคะ ลมบ้าหมูเป็นคำเรียกพื้นเมืองทั่วไปเพคะ สิ่งที่หม่อมฉันกำลังจะบอกก็คือ อาการป่วยนี้ไม่ร้ายแรงมากนัก เพราะในตอนที่อาการกำเริบขึ้นมาร่างกายจะส่งสัญญาณเตือนออกมา จึงยังพอรับมือได้ทันเวลาเพคะ โรคนี้ทำให้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก นั้นเป็นเพราะว่ามันไม่ได้มีสัญญาณเตือนก่อนล่วงหน้า เมื่ออาการกำเริบอย่างฉับพลันครอบครัวหรือคนใกล้ตัวไม่รู้วิธีการจัดการ จึงทำให้น้ำลายหรือไม่ก็เลือดเข้าไปในหลอดลมจนเกิดอาการสำลักจนเสียชีวิตเพคะ”

เมื่อฮองเฮาได้ยินนางอธิบายเช่นนี้ ก็วางใจลง “ในตอนที่เจ้าเข้ามาในวังครั้งแรก เจ้าบอกว่าสามารถรักษาด้วยวิธีการฝังเข็มเพื่อเจาะเลือดออกใช่หรือไม่?”

“นี่เป็นเพียงแค่วิธีการทั่วไปเพคะ เมื่อทำแล้วจะค่อนข้างซับซ้อนมาก เพราะมันต้องไปกระตุ้นระบบประสาทในสมองด้วย......” หลีโม่เงียบไปสักพัก เพราะรู้สึกหากพูดเรื่องนี้ฮองเฮาอาจจะไม่ค่อยเข้าใจนัก จึงได้พูดอธิบายอย่างง่ายว่า “สำหรับการรักษาโรคนี้ หม่อมฉันสามารถจัดการได้แน่นอนเพคะ”

“งั้นที่เจ้าบอกอยากจะคุยกับเปินกงเป็นการส่วนตัวนั้นคืออะไร?” ฮองเฮามองไปทางนางด้วยความสงสัย ไม่นานก็มองออกได้ในทันที จึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า “เจ้าจะคุยกับเปินกงเรื่องครอบครัวของเจ้าใช่หรือไม่?”

หลีโม่อึ้งงันไป “ครอบครัวหรือเพคะ? เรื่องครอบครัวค่อนข้างพูดยากนักเพคะ อีกอย่างมันก็ไม่เหมาะสมที่จะพูดขึ้นที่นี่ด้วย หม่อมฉันแค่อยากจะพูดเรื่องขาที่บาดเจ็บของอ๋องเหลียงเตี้ยนเซี่ยเพคะ หม่อมฉันคิดว่าตอนที่ท่านอ๋องทำแผล น่าจะพบขั้นตอนการทำที่ผิดพลาด จึงทำให้กระดูกเกิดขึ้นผิดตำแหน่ง ส่งผลให้ไขข้อก็ผิดตำแหน่ง และเกิดหักลงในที่สุด กระดูกจึงได้กดทับเส้นประสาท ทำให้เดินไม่ค่อยสะดวกนัก และยังส่งผลให้เกิดอาการเจ็บปวดราวกับกระแสไฟฟ้าอีกด้วยเพคะ นี่เป็นอาการที่ทุกข์ทรมานอย่างมากเพคะ หม่อมฉันจึงเลยอยากจะขอร้องเรื่องหนึ่งเพคะ หวังว่าฮองเฮาจะทรงกรุณาตอบรับเพคะ”

น้ำตาไหลร่วงลงมาจากดวงตาของฮองเฮา ริมฝีปากสั่นเครือเล็กน้อย ถึงแม้ว่าจะพยายามควบคุมมันไว้ก็ตาม แต่น้ำเสียงก็ยังคงสั่นเทาอยู่ดี “พูดมา”

หลีโม่จึงพูดขึ้นด้วยความนอบน้อมและจริงใจว่า “หม่อมฉันของถอนหมั้นเพคะ มันไม่ยุติธรรมต่อท่านอ๋อง ดังนั้นหม่อมฉันเลยอยากจะชดใช้ให้กับท่านอ๋อง ถ้าฮองเฮาเหนียงเหนียงเชื่อใจหม่อมฉัน ช่วยทรงอนุญาตให้หม่อมฉันทำการรักษาขาที่บาดเจ็บของอ๋องเหลียงเตี้ยนเซี่ยด้วยเถอะเพคะ”

ฮองเฮาถามขึ้นด้วยความซาบซึ้งใจ “เจ้ามีวิธีหรือ?”

“มีหลากหลายวิธีการเพคะ แต่ว่า ในขั้นตอนการรักษานั้น อ๋องเหลียงเตี้ยนเซี่ยจะได้รับความเจ็บปวดรวดร้าวมากเพคะ” การต่อกระดูกที่หัก ไม่มีแม่แต่ยาชา ทำได้เพียงฝังเข็มเพื่อลดการเจ็บปวด ซึ่งผลลัพธ์จะไม่เท่ากับฤทธิ์ยา ดังนั้นไม่รู้ได้ว่าอ๋องเหลียงจะสามารถทนกับความเจ็บปวดนี่ได้หรือไม่

ฮองเฮาส่งเสียงอ่าออกมา ด้วยความตื่นตกใจ “มีหลายวิธีการเลยหรือ?” หมอหลวงเคยพูดก่อนหน้านั้นว่า ขานี้ไม่มีทางรักษาได้ และก็ไม่สามารถรักษาให้กลับมาเดินได้ดั่งคนปกติทั่วไปด้วย

หลายปีมานี้ นางสิ้นหวังมาตลอด นึกไม่ถึงว่าคนที่นางเกลียดแสนเกลียดผู้นี้ กลับบอกว่ารักษาได้ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ฮองเฮาซาบซึ้งจนพูดไม่ออก

หลีโม่เงียบไปสักพัก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองฮองเฮา “เหนียงเหนียง ยังมีอีกเรื่อง หม่อมฉันขอให้ฮองเฮาเหนียงอภัยโทษด้วยเพคะ”

ในขณะที่ฮองเฮากำลังเกิดความรู้สึกซาบซึ้งใจอยู่นั้น ก็พูดขึ้นว่า “เจ้าพูดมา เปินกงยกให้เจ้าไร้ความผิด”

หากเป็นยุคสมัยปัจจุบัน หลีโม่จะพูดตรงๆไปแล้ว แต่ยุคสมัยศักดินานี้ ค่อนข้างหวาดหวั่นนัก ดังนั้น นางจึงเงียบไปสักพัก เมื่อเห็นสายตาของฮองเฮาได้เปล่งประกายความร้อนใจออกมา จึงเอ๋ยปากขึ้นอย่างช้าๆว่า “อาการบาดเจ็บของเตี้ยนเซี่ยอยู่ใกล้กับส่วนต้นขา หลังจากที่ดูจากสถานการณ์ของบาดแผลแล้ว น่าจะเกิดการกระแทก อาจจะทำให้เส้นประสาทเลือดบางเส้นเกิดอาการฝ่อลงได้ หากไม่รีบทำการรักษาให้ทันเวลา ก็อาจจะทำให้ไม่สามารถ......มีวถีชีวิตเหมือนมนุษย์ได้อีก”

สีหน้าของฮองเฮาเปลี่ยนไปในทันที “บังอาจ!”

ใบหน้าขาวซีดของฮองเฮาจ้องเขม็งไปทางหลีโม่ นี่คือความเจ็บปวดตลอดชีวิตของนาง คนที่รู้เรื่องนี้มีไม่มากนัก และก็เป็นรับสั่งของกษัตริย์ที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ด้วย ไม่ต้องพูดถึง เมื่อนึกเชื่อมโยงกัน ล้วนแล้วแต่ทำให้ฮองเฮาโกรธและเจ็บปวด

นางพูดด้วยเสียงเคร่งขรึมและเฉียบขาดว่า “เสี้ยหลีโม่ อย่าคิดว่าเจ้ารักษาอ๋องเหลียงได้ แล้วจะสามารถใส่ร้ายป้ายสีพูดจามั่วซั่วต่ออ๋องเหลียงได้อย่างไม่เกรงกลัวผิดบาปนะ หากคำพูดนี้เล็ดลอดออกไปแม้แต่นิดเดียว เปินกงจะเอาหัวเจ้า”

หย้วนพ่านออกมาต้อนรับ และพูดกับหลีโม่ว่า “คุณหนู ท่านอ๋องหลับไปแล้ว แต่เขาอาเจียนออกมาหนึ่งรอบ ซึ่งสิ่งที่อาเจียนออกมานั้นเป็นน้ำสีดำ”

หลีโม่รุดหน้าไปตรวจสอบที่ที่อาเจียนออกมาทันที จากนั้นก็ตรวจจับชีพจร แล้วหันไปพูดกับหย้วนพ่านว่า “ไม่ต้องกังวลใจ เอายาแก้อาเจียนออกมา ยานี้ทานวันละ 3 ครั้ง กระเพาะได้รับบาดเจ็บ จึงทำให้อาเจียนออกมา ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ลดปริมาณยาลงเหลือเพียง 1 วัน 2 ครั้ง”

“เอาละ เปินกงขอสั่งให้ออกไป ” หย้วนพ่านโค้งตัวต่อฮองเฮา แล้วเดินออกไป

เมื่อฮองเฮาได้ยินว่าไม่เป็นอะไร จึงได้วางใจลง จากนั้นก็นั่งลงข้างกายของอ๋องเหลียงอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเดินออกไป

“เหนียงเหนียง จะไปพบหรือบอกให้ออกไปเพคะ?” หยางมามาถามขึ้นอีกครั้ง

ฮองเฮาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เปินกงจะออกไปพบพวกเขา ห้ามให้พวกเขาเข้ามา”

“เพคะ เชิญเหนียงเหนียงเสด็จเพคะ” หยางมามาโค้งตัวพูดขึ้น

ฮองเฮาเดินไปแค่เพียงสองก้าว แล้วจึงหันกลับไปมองหยางมามา “เจ้าไปกับเสี้ยหลีโม่ ดูว่านางจะสั่งอะไรอีก เจ้าอยู่ในวังมานานนางกำนัลรับใช้เหล่านั้นสีหน้าดูไม่ค่อยเข้าใจนัก ให้พวกนางอยู่รอก็เป็นตัวถ่วงเสี้ยหลีโม่เปล่า ๆใเจ้าไปเองดีกว่าไป”

หยางมามาสีหน้าไม่เปลี่ยนสีแต่อย่างใด พร้อมหลบสายตา “เพคะ!”

นางสั่งให้นางในสองคนตามฮองเฮาออกไป ส่วนตัวเองก็เข้าไปในตำหนัก

เมื่อฮองเฮาเดินออกไปแล้ว กลับไปเห็นแม้แต่ หมุยเฟยและเฉิงเสี้ยงเสี้ยเลย

อัพเดทครั้งต่อไป 13/12/2019

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม