ตอนที่ 432 สะเทือนใจอี๋เฟย
ผู้ดูแลตกใจมาก “ของเหล่านี้ก็ต้องประหยัดลงหรือพ่ะย่ะค่ะ? แต่ของเหล่านี้มันจะสามารถประหยัดเงินลงไปได้เท่าไหร่กันพ่ะย่ะค่ะ?”
ผู้ดูแลอดพูดในใจขึ้นมาไม่ได้ พระชายาผู้นี้ช่างขี้เหนียวจริงๆ คิดจะเอาขนไก่มาทำลูกศร จากนั้นก็คิดจะเอาความดีความชอบต่อหน้าท่านอ๋องกับฮองไทเฮาล่ะสิ?
หลีโม่กล่าวว่า “ข้าจะนับให้เจ้าดู”
นางหยิบพู่กันขึ้นมา เขียนจำนวนรวมของเงินน้ำมันตะเกียงและเทียน จากนั้นก็ลบออกสามส่วนหนึ่ง แล้วส่งให้กับผู้ดูแล “อันที่จริงแล้วฉันไม่ควรลบออกสามส่วนหนึ่ง เพราะสวนดอกหยู่กับรั้วระเบียบทางเดินสวนดอกไม้ในทุกๆ ตำหนักมีอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นการสิ้นเปลืองมากเกินไป แต่ถึงแม้ว่าจะจะลดลงไปแล้วหนึ่งส่วนสาม แต่สามารถลดจำนวนเหล่านี้ออกไปได้ในทุกๆ เดือน”
ผู้ดูแลเอามาอ่านดูคู่หนึ่ง ทันใดนั้นเหงื่ออันเย็นเฉียบก็ไหลออกมา ลดจำนวนโคมไฟกับเทียนไขไป คิดไม่ถึงว่าเดือนหนึ่งจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึงสองพันตำลึง หนึ่งปีก็ประหยัดลงถึงสองหมื่นกว่าตำลึงแล้ว
“เทียนไขที่นำเข้ามามีราคาแพง เป็นไปได้ก็ให้ใช้น้ำมันตะเกียงแทนเทียนไขจะดีกว่า โดยเฉพาะพื้นที่สาธารณะ ยิ่งไม่จำเป็นต้องจุดเทียนไขเลย ของพวกนี้มันไม่เหมาะกับลม พอลมพัดมาก็ดับแล้ว ทั้งยังโยนมันทิ้งไม่ใช้ต่อแต่จุดอันใหม่ ข้านับจำนวนเหล่านี้แบบคร่าวๆ หากจะนับกันจริงๆ ขึ้นมา จะไม่ใช่จำนวนนี้ อีกอย่างการซ่อมแซมพระตำหนัก หากยังใช้ได้อยู่ก็อย่าเพิ่งซ่อม แต่ถ้าต้องการจะซ่อมจริงๆ ก็ให้ไปหากงปู้ ข้าจะคุยเรื่องนี้กับท่านอ๋องเอง การซ่อมแซมทั้งหมดให้กงปู้เป็นฝ่ายตรวจสอบและคำนวณจากนั้นก็ให้ส่งให้หู้ปู้จัดสรรเงินให้ ไม่จำเป็นต้องผ่านสำนักนางใน”
“พ่ะย่ะค่ะ!” ผู้ดูแลมีสีหน้าซีดเผือดเล็กน้อย
“อีกอย่าง เจ้าเป็นผู้ดูแลฝ่ายตำหนักนางใน ควบคุมดูแลค่าใช้จ่ายของราชสำนัก จะต้องดูให้ละเอียด ควบคุมราคาค่าใช้จ่าย ข้าดูมาแล้วค่าใช้จ่ายที่สิ้นเปลืองคือพวกหม้อกับกระทะ ราคามากกว่าตลาดเป็นสองเท่า พวกเนื้อสัตว์ผักและผลไม่ ก็ราคาสูงกว่าในตลาด ในเรื่องนี้มันเกิดอะไรขึ้น ทุกคนก็คงรู้อยู่แก่ใจ เรื่องเมื่อก่อนข้าจะไม่สืบสาวราวเรื่อง แต่หลังจากนี้ รายการที่บันทึกไว้ในบัญชีจะต้องเขียนให้ชัดเจน และราคาจะต้องต่ำกว่าตลาดเท่านั้น ไม่สามารถมีราคามากกว่าตลาดได้ เข้าใจหรือไม่?”
ผู้ดูแลเช็ดเหงื่อบนหน้าผากครู่หนึ่ง “พ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันทราบแล้ว”
“ข้าไม่ได้มีเจตนาขัดขวางเส้นทางรวยของใครบางคน แต่การเงินของประเทศค่อนข้างลำบาก ในฐานะที่เป็นผู้ดูแล การใช้ความระมัดระวังตัวของตนสักหน่อยก็ถือว่าเป็นเรื่องไม่ผิด อย่าห่วงเรื่องเล็ก จนเสียเรื่องใหญ่ ไม่อย่างนั้นจะเป็นการเอาชีวิตมาทิ้งและทำร้ายคนในครอบครัวตัวเองในภายหลัง” หลีโม่พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบไร้อารมณ์
ขาทั้งสองข้างของผู้ดูแลอ่อนยวบลงทันที อีกเพียงนิดเดียวก็จะคุกเข่าลงกับพื้นแล้ว
“เรื่องนี้หม่อมฉันเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันจะสั่งกำชับลงไปพ่ะย่ะค่ะ”
หลีโม่หยิบสมุดบัญชีขึ้นมา “เอาทั้งหมดนี้ไปด้วย นับแต่วันนี้ไป ค่าใช้จ่ายทุกอย่างต้องจดเข้าบัญชีทั้งหมด”
“พ่ะย่ะค่ะ!” ผู้ดูแลถึงได้รู้ว่านางไม่ได้อยากทำเพื่อเอาหน้า แต่เป็นความต้องการจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงจริงๆ
หลังจากหลีโม่ให้ผู้ดูแลออกไปแล้ว นางก็ไปที่ตำหนักของหมุยเฟย
อี๋เฟยเองก็อยู่ด้วยพอดี ทั้งสองกำลังปรึกษาเรื่องในวังหลวงกันอยู่ เมื่อเห็นหลีโม่มา หมุยเฟยดูอารมณ์ดี แต่อี๋เฟยกลับดูเย็นชามากอย่างเห็นได้ชัด
“อยู่กันหมดเลยหรือ!” หลีโม่เดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นกลับเหมือนเป็นการเสแสร้งที่ดูไม่ธรรมชายเท่าไหร่
“พระชายาวันนี้ช่างมีอารมณ์สุนทรีย์ยิ่ง!” อี๋เฟยพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “วันนี้เข้าวังมาหาท่านพี่หมุยเฟย ไม่ทราบว่ามีเรื่องอันใดหรือ?”
หลีโม่กล่าวว่า “มิใช่เข้าวังมาหาหมุยเฟยโดยตรงหรอกเพคะ หม่อมฉันมาหาตำหนักนางในถามเรื่องบัญชีเล็กน้อย”
“บัญชี? อ๋อ จริงสิ เกือบลืมไปเลยว่าฮองไทเฮาให้พระชายาดูแลเรื่องบัญชี แต่ว่าอันที่จริงทุกคนต่างก็รู้ว่านี่เป็นเจตนาของอ๋องซื่อเจิ้ง ให้ตำแหน่งที่รายได้ดีเช่นนี้แก่พระชายา ต่อไปการกินอยู่ของตำหนักอ๋องซื่อเจิ้งก็คงไม่ต้องกังวลแล้ว” น้ำเสียงของอี๋เฟยอ่อนโยนไม่น้อย แต่มันกลับบาดลึกจนเข้ากระดูก
หลีโม่ยิ้มอย่างเย็นชา “ตำหนักอี๋หลานกังวลเรื่องความเป็นอยู่หรือเพคะ? ตำหนักอ๋องซื่อเจิ้งไม่ได้กังวลเรื่องนั้นหรอกเพคะ เมื่อก่อนไม่กังวล ตอนนี้ก็ไม่มีทางจะกังวลได้ เป็นเจตนาของใครก็ดี จริงๆ มันคือตำแหน่งที่รายได้ดีจริงๆ เพราะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายของประเทศไปได้จำนวนมากอย่างไรล่ะเพคะ”
อี๋เฟยเลิกคิ้วสูง “โอ้ คิดแล้วว่าเรื่องต้องเป็นอย่างนี้ พระชายาผู้นี้ไม่เคยใช้ชีวิตอยู่ในวังหลวง คนในวังจะอยู่หรือตายก็ย่อมไม่เห็นอยู่ในสายตาอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าครั้งนี้จะลดอะไรลงไปบ้าง? กลัวแต่ว่าแม้แต่ข้าวสามมื้อต่อวันจะเปลี่ยนเป็นสองมื้อต่อวัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...