พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 437

ตอนที่ 437 ฟางเอ๋อร์เสนอตัว

ฮ่องเต้ยังเห็นท่าทางไม่เห็นด้วยของฮองไทเฮา จึงพูดขึ้นมาอย่างผิดหวัง “เสด็จแม่ ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าท่านรักเย้นเอ๋อร์ แต่ตอนนั้นท่านเคยรักข้าบ้างหรือไม่”

ฮองไทเฮารับไม่ได้ที่เขาพูดเช่นนี้ บางทีอาจจะเพราะว่านางอายุมากแล้วจิตใจจึงอ่อนไหว ในหัวของนางตอนนี้คิดถึงเพียงความรักของลูกหลาน

นางพูดขึ้นมาอย่างฉับพลัน “ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว ข้าพูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ อีกอย่าง เรื่องการบริหารบ้านเมืองข้าเองก็ไม่ควรถาม ข้ามีราชโองการให้เย้นเอ๋อร์เข้าวังมา เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าก็ค่อยเขียนราชโองการ ตอนนี้เขาสั่งคุมขังเสี้ยหลีโม่ไปแล้ว เจ้าก็สั่งเขาให้นำตัวเสี้ยหลีโม่เข้าวังมา ถามให้กระจ่าง บางทีเรื่องนี้อาจจะยังมีสิ่งที่เรายังไม่รู้”

“เสด็จแม่สั่งให้เขานำตัวเสี้ยหลีโม่เข้าวังมาเถิด หากเขาขัดขืนไม่นำตัวเสี้ยหลีโม่มา เช่นนั้นก็พิสูจน์ได้แล้วว่าเขามีใจปกป้องเสี้ยฟลีโม่ หากเป็นอย่างที่พูดมา ข้าคงผิดหวังต่อเขามาก” ฮ่องเต้กล่าว

ฮองไทเฮาปรายตามองเขา ถอนหายใจเบาๆ และไม่พูดอะไรออกมาอีก

ฮองไทเฮากลับมาถึงพระตำหนัก ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจ อย่างแรกก็คือเรื่องที่ฮ่องเต้จะตัดแขน อย่างที่สองก็คือฮ่องเต้ต้องการสังหารหลีโม่

“เจ้าคิดว่าอ๋องซื่อเจิ้งจะรักเสี้ยหลีโม่จริงๆ หรือไม่?” ฮองไทเฮาครุ่นคิดอย่างหนักอยู่นานก่อนจะถามซุนกงกง

ซุนกงกงกล่าวว่า “ไทเฮา มองปราดเดียวก็รู้เลยว่าท่านอ๋องห่วงใยพระชายามากพ่ะย่ะค่ะ”

จิตใจของฮองไทเฮาหนักหน่วงเป็นอย่างมาก “หากข้าให้เขาพาตัวหลีโมเข้าวัง หลีโม่ก็ต้องตายอย่างแน่นอน ข้าใจร้ายไม่ลงจริงๆ”

ซุนกงกงเองก็ตัดสินแทนไม่ได้ เรื่องนี้มันเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ความจริงแล้วทุกคนต่างก็คิดว่าอาจจะไม่ใช่พระชายาที่ทำ แต่ข่าวด้านนอกกลับชี้เป้ามาที่นางกำนัลข้างกายพระชายา

ทันใดนั้นนางกำลังฉายเต๊ก็เข้ามา “ไทเฮาเพคะ กุ้ยไท่เฟยมาขอเข้าเฝ้าเพคะ”

เมื่อฮองไทเฮาได้ยินเช่นนั้น จึงยื่นมาไปนวดขมับ “นางมาทำไม?”

ตั้งแต่ที่รู้ว่านางไม่เคยยอมแพ้ ฮองไทเฮาจึงไม่อยากจะพบนางอีก

“นางบอกว่ามีเรื่องสำคัญ จะต้องเข้าพบไทเฮาให้ได้เพคะ” ฉายเต๊กล่าวตอบ

ซุนกงกงจึงกล่าวขึ้นมาว่า “ไทเฮา ในช่าวงหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ กุ้ยไท่เฟยเข้าวังมาเกรงว่าจะไม่มีเจตนาดีอะไร อย่าเพิ่งพบกันตอนนี้จะดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”

ฮองไทเฮาครุ่นคิดครู่หนึ่ง “ช่างเถิด ให้นางเข้ามา ข้าเองก็ไม่สะดวกที่จะทำให้มันชัดเจนเกินไป” ฉายเต๊ขานรับแล้วถอยออกไป

ซุนกงกงถอนหายใจเบาๆ พร้อมกับส่ายหัวออกมา สุดท้ายฮองไทเฮาก็ใจอ่อน

หากมีความเด็ดขาดของไทฮองไทเฮาสักครึ่ง ก็ไม่จำเป็นต้องให้กุ้ยไท่เฟยจูงจมูก

ฉายเต๊เดินนำกุ้ยไท่เฟยเข้ามา ในครั้งนี้ กุ้ยไท่เฟยยังพาคนมาด้วยอีกหนึ่งคน นั่นก็คือซุนฟางเอ๋อร์

ทันใดนั้นฮองไทเฮาจึงโมโหขึ้นมาเป็นอย่างมาก “เจ้ามาได้ แต่เอานางมาด้วยทำไม?”

ซุนฟางเอ๋อร์คือเรื่องอัปยศอดสูของตระกูลซุน ฮองไทเฮาคือบุตรสาวของตระกูลซุน ย่อมไม่มีทางยอมรับฟางซุนเอ๋อร์

กุ้ยไม่เฟยคุกเข่าลงทันที “ท่านพี่ ที่น้องเข้าวังมาในคราวนี้เพราะมีเรื่องอยากจะขอร้องเพคะ”

ฮองไทเฮาขมวดคิ้วมุ่น ความต่ำต้อยเช่นนี้ จะต้องเสแสร้งแน่นอน

นางกล่าวด้วยเสียงเย็นชา “ให้นางออกไปก่อน ข้าไม่อยากเห็นหน้านาง”

ซุนฟางเอ๋อร์คุกเข่าลงก่อนจะโขกหัวลงบนพื้น “ฮองไทเฮาเพคะ ฟางเอ๋อร์รู้ว่าเมื่อก่อนทำผิดพลาดไป และไม่กล้าขอร้องให้ฮองไทเฮาให้อภัยในฐานะสายเลือดของตระกูล ที่ฟางเอ๋อร์เข้าวังมาในครั้งนี้ เพราะอยากจะรักษาอาการป่วยของฮ่องเต้ โรคแผลพุพองของฮ่องเต้ ฟางเอ๋อร์เคยเจอและเคยรักษาจนหายดีมาแล้วเพคะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม