พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 477

ตอนที่ 477 สงครามรอบแรก

ที่จริงหลีโม่กับซือถูจิ้งต่างก็รู้ ไม่ว่าจะไปอยู่ตำหนักไหน ล้วนจะต้องมีแผนการชั่วร้ายของอี๋เฟยรอพวกนางอยู่

อี๋เฟยไม่อยากให้พวกนางอยู่ที่พระราชวังฉางเซิงยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง คือพระราชวังฉางเซิงอยู่ใกล้ตำหนักซีเวยมาก หากเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็จะรบกวนถึงฮ่องเต้ได้ง่าย พูดไม่น่าฟังก็คือ ขอความช่วยเหลือได้ง่ายๆ

ตอนนี้พระราชวังฮุยชิงตำหนักซีเวยค่อนข้างไกลหน่อย ตรงหน้าเป็นตำหนักพระราชวังเสี่ยวหนิงของกุ้ยไท่เฟยกับอ๋องหนานหวย ด้านซ้ายพระราชวังฉางเซิงที่พังแล้ว ไปทางด้านซ้ายก็เป็นตำหนักอี๋หลานของอี๋เฟย ด้านขวาพระราชวังฉายยี่ของสนมกุ้ยพิง อี๋เฟยกับสนมกุ้ยพิงสนิทสนมกันพอสมควร นี่ก็เท่ากับว่าเป็นการควบคุมหลีโม่ไว้ให้อยู่ตรงกลาง

นี่ถือเป็นที่อยู่ที่โอบล้อมไปด้วยศัตรูจริงๆ

ก่อนหน้านี้ซือถูเย้นเคยบอกไว้ หลังจากที่เขาไปแล้วเป็นอ๋องเหลียงกับอ๋องอานชินดูแลราชสำนัก แต่ตอนนี้อ๋องอานชินก็นำทัพไปออกรบแล้ว คนที่ดูแลราชสำนักจึงมีเพียงอ๋องเหลียง

แต่ว่า หลังจากที่กองทัพใหญ่ออกเดินทางไปแล้วสามวัน ฮ่องเต้ก็มีราชโองการกะทันหัน แต่งตั้งอ๋องเย่เป็นตำแหน่งไท่เว่ย มีอำนาจในการศึกมากกว่าปิงปู้ซื่อหลาง ช่วยเหลืออ๋องเหลียงดูแลจัดการงานในราชสำนัก

นี่เท่ากับดำรงตำแหน่งของอ๋องซื่อเจิ้ง ถึงแม้อ๋องเหลียงจะไม่ได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นองค์รัชทายาท แต่ก็ได้รับการดูแลเหมือนดั่งองค์รัชทายาท

ส่วนที่อ๋องเย่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นไท่เว่ยนั้น เหล่าขุนนางในราชสำนัก ต่างก็ส่ายหัว คนโฉดเขลาแบบนั้น จะดำรงตำแหน่งไท่เว่ยได้อย่างไร?

อีกอย่าง ตำแหน่งไท่เว่ยนี้ ได้ยกเลิกไปแล้วในสมัยฮ่องเต้ฮู่ยจู่ เพราะอำนาจไท่เว่ยมีมากเกินไป มีอำนาจเหนือกว่าเฉิงเสี้ยง หลังจากเสี้ยห้วยจุนตายไปแล้ว ก็ไม่ได้แต่งตั้งใครมาเป็นเฉิงเสี้ยง ตอนนี้งานของเฉิงเสี้ยงอ๋องเย่ก็รับผิดชอบทำหมด เหล่าขุนนางในราชสำนัก ต่างก็รู้สึกว่าฮ่องเต้ป่วยจนเลอะเลือนแล้ว ที่มอบอำนาจไว้ในมือคนอย่างอ๋องเย่ นี่ไม่ใช่เป็นการเอาความมั่นคงของผืนแผ่นดินมาล้อเล่นหรือ?

น่าสงสารอ๋องซื่อเจิ้งที่ตอนนี้ต้องไปสู้รบกับข้าศึกอยู่ด้านนอก ทางด้านนี้อ๋องเย่กลับยึดครองต้าโจว

เรื่องโฉดเขลาอย่างแรกที่อ๋องเย่กระทำก็คือ ให้ฮ่องเต้มีราชโองการย้ายเหลียงพิงออกมาจากตำหนักเย็น บอกว่าให้นางได้สำนึกผิดแล้วให้โอกาสปรับปรุงตัวใหม่

เรื่องที่สองก็คือ ส่งองค์ชายเจ็ดไปยังสนามเรียนให้วูจวงหยวนสอนเขาขี่ม้ายิงธนู เพื่อให้เขาได้มีสมาธิในการเรียนขี่ม้ายิงธนู เดือนหนึ่งสามารถกลับวังมาได้ครั้งเดียว

เรื่องที่สาม ตอนนี้วังหลังไม่มีเจ้านาย เขาเสนอให้ซือถูจิ้งองค์หญิงใหญ่คนนี้ทำหน้าที่แทนฮองเฮาปกครองทั้งหมด

เรื่องที่สี่ ให้ฮ่องเต้มีราชโองการ แต่งตั้งให้เสี้ยหลีโม่เป็นผู้จัดการดูแลภายในวัง ดูแลควบคุมรายจ่ายทุกอย่างในวัง

เรื่องที่ห้า ตอนนี้ซุนฟางเอ้อร์ยังไม่ใช่พระฉายาอ๋องหนานหวย และยังเป็นผู้หญิงที่ถูกขับไล่ออกจากตระกูลซุน ไม่สมควรอาศัยอยู่ในวัง อาจตกเป็นที่กล่าวขานได้ ต้องให้นางออกจากวังไปโดยเร็ว แต่ด้วยที่อ๋องหนานหวยจะสู่ขอนาง ทางวังหลวงจึงออกค่าใช้จ่าย ให้นางมีบ้านที่อยู่อาศัย

เรื่องลอยๆห้าเรื่องนี้ หากแบ่งออกไป ล้วนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ฮ่องเต้ต้องอนุมัติอยู่แล้ว

แต่ว่า เมื่อคิดอย่างละเอียดแล้ว หลายเรื่องของอ๋องเย่นี้ จัดการได้เด็ดขาดมาก

เรื่องที่หนึ่ง ย้ายฮองเฮาที่ถูดปลดออกมาจากตำหนักเย็น ก็หมายความว่าพระมารดาของอ๋องเหลียงก็จะไม่เป็นผู้ต้องโทษอีกต่อไป เพราะตำแหน่งไม่ได้ถูกปลด นางยังคงเป็นเหลียงพิง

เรื่องที่สอง เอาองค์ชายเจ็ดไปไว้ที่สนามเรียน วูจวงหยวนเป็นคนของเขา เท่ากับเป็นการควบคุมอี๋เฟย

เรื่องที่สาม วังหลังมีซือถูจิ้งคอยควบคุมดูแล เท่ากับยึดอำนาจอี๋เฟยที่ช่วยดูแลตำหนักทั้งหก

เรื่องที่สี่ เสี้ยหลีโม่ดูแลบัญชีในวังอย่างถูกหลักธรรมนองคลองธรรม อี๋เฟยกับกุ้ยไท่เฟยอยากจะทานอาหารมื้อค่ำเพิ่ม ก็ต้องมองหน้าหลีโม่ก่อน แบบนั้น หลีโม่ก็จะเป็นเหมือนสาวกลางคืน รับมือกับคนมากมายที่จะมาขอสิ่งของอย่างถูกหลักธรรมนองคลองธรรม

เรื่องที่ห้า แยกซุนฟางเอ้อร์กับกุ้ยไท่เฟยอ๋องหนานหวย ราชสำนักออกเงินหาที่พักอาศัยให้กับซุนฟางเอ้อร์ ก็เท่ากับว่าซุนฟางเอ้อร์ก็ต้องอยู่ในการควบคุมของราชสำนัก

หลังจากที่ฮ่องเต้อนุมัติทั้งห้าเรื่องนี้แล้ว กุ้ยไท่เฟยกับอี๋เฟยต่างก็โกรธจนควันออกหู

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม