พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 49

ตอนที่ 49 หลี่โม่เข้าตำหนัก

เมื่อหมุยเฟยเห็นเฉิงเสี้ยงเสี้ยแสดงอารมณ์โกรธเคืองต่อหน้าพระพักตร์ฮองไทเฮา ในใจจึงรู้ได้ว่าต้องไม่ดีเป็นแน่ จึงได้รีบพูดขึ้นว่า “เด็กน้อยผู้นี้จะไปรู้อะไร? นางอยู่เคียงข้างหลี่ซื่อ ย่อมบอกความดีของหลี่ซื่อ ยิ่งได้ช่วยหลี่ซื่อพูดด้วย ย่อมทำให้ต้นสายปลายเหตุของการถอนหมั้น ไม่ต้องยืดเยื้ออกไปเป็นแน่”

ฮองเฮาจึงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “จะไม่ยืดเยื้อได้อย่างไรกัน?”

จริงๆแล้วฮองเฮาไม่อยากถ่วงรั้งพวกเขาให้อยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ ความโกรธที่ทะลักออกมาทำให้อยากจะรีบจัดการเรื่องนี้ แล้วเข้าไปพูคุยกับหลีโม่อีกครั้ง แต่เมื่อเห็นหมุยเฟยกระตือรือร้นกับคำพูดของเฉิงเสี้ยงเสี้ย นางจึงได้เกิดความรู้สึกตื่นตัวขึ้นมา

เรื่องนี้ ไม่ง่ายขนาดนั้นซะแล้วสิ

หมุยเฟยผู้นี้นางเองก็รู้ดี คนที่ชอบจัดแจงธุระกงการของผู้อื่นประเภทนี้ ไม่ว่าใครจะวิงวอนนางให้พูดอะไรก็ตาม นางก็จะไม่สนใจ

ขัดขวางแม้กระทั่งไมตรีของญาติพี่น้อง วันนี้นางถึงได้มาช่วยเฉิงเสี้ยงเสี้ยจัดการ แต่การวางตัวของนาง ไม่สามารถพยายามได้อย่างเต็มที่เหมือนวันนี้ ยกเว้นเสียแต่ว่า นางได้รับผลตอบแทนที่มากพอ

ไม่ผิดแน่ หมุยเฟยเป็นคนที่เห็นแก่เงินมากคนหนึ่ง

ใช้เงินจำนวนมหาศาลซื้อหมุยเฟย งั้นวันนี้ก็ไม่ได้มาเพื่อแค่แสดงความบริสุทธิ์ในการ “ลงโทษ” ง่ายๆเท่านั้นแล้ว

ฮองเฮาใช้กลอุบายมาหลายปี เมื่อเห็นสภาพการณ์ตรงหน้าจึงย่อมวิเคราะห์ออกได้อย่างแน่นอน

เมื่อซือถูเย้นแพร่งพรายเรื่องที่เสี้ยหลีโม่ถูกคนบุกเข้าไปตีออกไปแก่โลกภายนอก การที่เสี้ยหลีโม่ถูกบุกเข้าไปตีถึงในห้อง เหตุผลเดียวที่คนภายนอกจะเดาได้คือ เรื่องการถอนหมั้น

เฉิงเสี้ยงเสี้ยจึงได้มาเพราะเรื่องนี้ อีกทั้งยังกล่าวหาว่าหลี่ซื่อ เป็นคนโหดร้ายมากอีกด้วย เพื่อให้หลี่ซื่อเป็นแพะรับบาปเรื่องนี้

แต่ว่า ทำไมถึงต้องหาคนมาเป็นแพะรับบาปด้วย? ไม่มีใครในราชสำนักลงโทษพวกเขาอย่างแน่นอน แต่ทำไมพวกเขาถึงได้เข้าวังมาเพื่อขอรับโทษ? เพราะเขารู้ว่าเสี้ยหลีโม่ไร้เดียงสา ผู้ที่ริเริ่มกระทำเรื่องนี้เป็นคนแรกก็คือเขาและภรรยาผู้นี้ ดังนั้น เขาจึงต้องการหาคนมาแบกรับความผิดทั้งหมดนี้หรือที่เรียกว่าผู้บงการอยู่เบื้องหลัง พวกเขาจึงคิดอยากเป็นคนที่ลงมือก่อน ก่อนที่จวนเฉิงเสี้ยงจะต้องโทษ จะต้องผลักดันหลี่ซื่อออกมาให้ได้

จากนั้นยิงธนูดอกเดียวได้เหยี่ยวสองตัว ยืมมือของนาง มากำจัดหลี่ซื่อ

ฮองเฮาไม่ใช่คนที่โง่เขลา เพื่อกำจัดหลี่ซื่อ? ตอนนี้ใครจะกล้าลงมือกัน?

หลี่ซื่อผู้นี้ ฮ่องเต้ก็เคยชอบนางมาก่อน นางเป็นแม่นางที่มีความฉลาดคนแรก คนที่ตามจีบนางจึงเป็นเด็กนักเรียก ปัญญาชน ผู้ประพันธ์ครึ่งหนึ่งซะส่วนใหญ่ ต่างไม่กล้าล่วงเกิน เมื่อเห็นแล้วก็อยากจะฆ่าจะแกงกันทุกที

ปัญญาชนไม่เท่าไหร่ ขุนนางทหารในวัง หลี่ซือผู้มีจิตใจเลื่อมใส ในกรณีที่หลี่ซื่อตายในมือของนาง ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร จุดจบของไท่จื่อจะเป็นอย่างไร?

ฮองเฮาเชื่อว่า เฉิงเสี้ยงเสี้ยแค่ต้องการผลักดันหลี่ซื่อออกไป แต่การคิดจะกำจัดหลี่ซื่อด้วยการยืมมือของนางมาฆ่าหลี่ซื่อ กลับเป็นหมุยเฟย

เพราะพระราชบุตรคนที่สามของหมุยเฟย ก็อายุสิบสามขวบแล้ว รอแค่ถึงสิบหกปีบริบูรณ์ก็จะสามารถขึ้นครองราชย์ได้แล้ว

เพียงแค่ต้องการไท่จื่อละวางจากคำครหาที่ถูกประชาราษฎร์กล่าวหาว่าฆ่าหลี่ซื่อ ลูกชายของนางก็จะมีโอกาสขึ้นครองราชย์มากที่สุด

ดังนั้น ผู้ที่ยิ่งธนูดอกเดี่ยวได้เหยี่ยวสองตัวไม่ใช่เฉิงเสี้ยงเสี้ย แต่เป็นหมุยเฟย เพื่อให้ได้ผลประโยชน์จากเฉิงเสี้ยงเสี้ย และก็เพื่อปูทางให้ลูกชายของตัวเองได้ขึ้นครองราชย์ด้วย

แต่ละขั้นตอนในวัง หลีโม่เองก็นึกไม่ถึงเรื่องนี้

หมุยเฟยรู้จักมักจี่กับฮองเฮาเป็นอย่างดี เมื่อเห็นสีหน้าเรียบเฉย ดวงตาเย็นชา เหมือนกับท่าทางการโกรธที่พบเห็นอยู่บ่อยครั้ง ในใจจึงย่อมรู้ดี แต่นี้เป็นโอกาสที่ดี ดังนั้น รู้ว่าไม่สมควรพูด กลับเคราะห์ดี “การวางตัวของหลี่ซื่อ หม่อมฉันรับรู้ได้อย่างชัดเจน เพราะเมื่อหลายปีก่อน นางเองก็มักจะเข้าวังมาน้อมทักทายหม่อมฉันอยู่บ่อยครั้ง จำได้ว่าตอนนั้นหม่อมฉันยังเป็นแค่นางใน มีครั้งหนึ่งที่นางเข้าวังมาน้อมทักทายหม่อมฉัน เมื่อยกชาเสิร์ฟพร้อมกับขนมอบ ข้าหลวงนางหนึ่งได้ปัดชาจนหกใส่ภาพวาดที่นางวาดขึ้นมา นางได้ระเบิดความโกรธเคืองออกมา ใบหน้าโกรธเคืองนั้นหม่อมฉันยังจำได้อย่างชัดเจน มันช่างโหดร้ายมาก ใบหน้าช่างไม่เหมือนกับเวินหวันแต่อย่างใด อีกทั้งนางยังให้หม่อมฉันส่งข้าหลวงผู้นั้นไปตายอีก หม่อมฉันไม่ได้ทำตามคำพูดของนาง ข้าหลวงผู้นี้เป็นคนที่หม่อมฉันเชื่อใจมาก ออกแรงตี หม่อมฉันก็ไม่อาจทำลงได้ ไม่สามารถตีได้ หม่อมฉันจึงให้ข้าหลวงผู้นั้นออกไปแล้วเข้าไปปลอบประโลมหลี่ซื่อถึงเรื่องนี้ แต่เรื่องนี้ก็ถูกมองออก แต่หลี่ซื่อก็วางตัวดี เจ้าเลห์เพทุบายเพคะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม