ตอนที่ 490 นักฆ่าเข้าจู่โจม
เช้าวันรุ่งขึ้น มีคนเข้าวังมาส่งสาร บอกว่าอ๋องซื่อเจิ้งถูกซุ่มโจมตี ตอนนี้กำลังบาดเจ็บหนัก เกรงว่าหากนานวันเข้าจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ข่าวนี้ ได้ยินมาจากอ๋องเย่ จึงเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
ที่พระราชวังซีอาน ย่อมได้รับข่าวนี้ ในต้อนเที่ยง จึงเห็นอาฝู ออกจากวังไปอย่างกะทันหัน ตอนที่กลับมา ก็พาซุนฟางเอ๋อร์เข้าวังมาด้วย
ซุนฟางเอ๋อร์อยู่ในตำหนักประมาณหนึ่งชั่วยามเห็นจะได้ จากนั้นนางก็ถูกส่งตัวกลับโดยอาฝู แต่ตอนค่ำ อาฝูไม่ได้กลับมา
เช่าวันที่สอง หลีโม่ไปที่พระราชวังซีอาน เพื่อจุดธูปเคารพฮองไทเฮา
ทั่วทั้ง พระราชวังซีอาน เต็มไปด้วยกลิ่นที่ทำให้นางรู้สึกสะอิดสะเอียนบางกลิ่น
นั่นก็คือกลิ่นน้ำส้มสายชู
ทั้งตำหนักล้วนมีกลิ่นเช่นนี้ตลบอบอวลอยู่ ตั้งแต่เปิดประตูจนถึงเข้ามาในตำหนัก ล้วนอบอวลไปด้วยกลิ่นน้ำส้มสายชู
หลีโม่คิดถึตอนที่เหล่าชีให้นางดื่มน้ำส้มสายชู อาซื๋อกูกูก็บอกให้นางดื่มน้ำส้มสายชู หรือว่าหนอนยาพิษจะมีความสัมพันธ์บางอย่างกับน้ำส้มสายชู?
หลังจากที่นางจุดธูปบูชาเสร็จแล้ว จึงขอพบกุ้ยไท่เฟย
แต่กุ้ยไท่เฟยไม่ยอมให้นางเข้าพบ อยู่แต่ในห้องนอนตลอดเวลา
เมื่อหลีโม่ไม่ได้พบนาง ย่อมไม่มีทางยอมแพ้ นางพุ่งเข้าไปในนอนทันที
“เสี้ยหลีโม่ เจ้าบังอาจมาก!” กุ้ยไท่เฟยเดิมทีก็นั่งไม่ติดอยู่แล้ว พอเห็นเสี้ยหลีโม่พุ่งเข้ามา สีหน้าของนางก็เกรี้ยวกราดขึ้นมาทันที
“กุ้ยไท่เฟย!” หลีโม่มองไปที่นาง “ข้ามาที่เนี่ยเพราะมีเรื่องจริงอยากจะบอกท่าน”
“เรื่องของเจ้า ข้าไม่อยากฟัง ออกไป!” กุ้ยไท่เฟยพูดด้วยความโมโห
หลีโม่พบว่ากลิ่นน้ำส้มสายชูในห้องนอนนี้มันรุนแรงมาก นางมองไปที่โต๊ะ ก็พบว่าบนโต๊ะมีถ้วยใบหนึ่งวางอยู่ น่าจะเป็นน้ำส้มสายชูเก่า
อีกทั้งด้านข้างยังมีถ้วยเล็กๆ วางอยู่ บนถ้วยนั้นเหมือนจะมีหยดเลือดที่แข็งตัวแล้วหลายหยด
แม่พิษคือนางจริงๆ หรือ?
แต่ว่า การแก้หวูกูมันง่ายดายขนาดนี้เชียวหรือ? แค่ดื่มเลือดของซุนฟางเอ๋อร์เพิ่มน้ำส้มสายชูก็พอแล้วหรือ?
เมื่อกุ้ยไท่เฟยเห็นนางมองไปรอบๆ จึงรีบเรียกทหารองครักษ์ “เอาตัวนางออกไป”
หลีโม่กล่าวว่า “ในเมื่อกุ้ยไท่เฟยไม่ยอมพูดกับข้า ข้าก็จะไป”
ที่นางดูร้อนรนและเกรี้ยวกราดเช่นนี้ ดูเหมือนว่าที่ซุนฟางเอ๋อร์พูดมานั้นจะไม่ใช่เรื่องเท็จ นางคือแม่พิษ
ในขณะเดียวกัน ก็ได้ข่าวว่าซือถูเย้นถูกลอบทำร้ายจนบาดเจ็บ และยังถูก “มีคนตั้งใจ” ส่งข่าวไปให้อ๋องหนานหวย ตอนนี้เขา
เพิ่งจะไปถึงเย่เจิน เมื่อได้ยินข่าว จึงรีบสั่งคนให้ไปตรวจสอบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ และ ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดอีก
ทหารลับนำการเคลื่อนไหวของอ๋องหนานหวยมาบอกเสี้ยหลีโม่ เรื่องนี้หลีโม่คิดเอาไว้ในใจแล้ว
นางออกจากวังไป เพื่อไปพบเสี้ยฮ่าวหราน
พออ๋องหนานหวยออกจากวังได้สามวัน กุ้ยไท่เฟยก็เรียซุนฟางเอ๋อร์เข้าวัง เหล่าไท่จูนก็เข้าวังมาตั้งแต่เช้าเหมือนเช่นเคย วัน
นี้กุ้ยไท่เฟยทำตัวปกติเช่นเดิม ไม่ได้มีสีหน้าสะอิดสะเอียนออกมา แต่กลับให้เปลี่ยนอาหารเหมือนกับพระราชวังซีอาน
การพูดคุยเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีตรงไหนที่ไม่มีความสุข
หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว เหล่าไท่จูนกำลังจะกลับ กุ้ยไท่เฟยลุกขึ้นมาพยุงเหล่าไท่จูนไปที่ประตู ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ “วันนี้ฟังที่เหล่าไท่จูนพูดมา ทำให้ข้าเหมือนพบทางสว่าง ชีวิตคนผู้หนึ่ง จะต้องการอะไรมากมายล่ะ? ช่างเถอะ เมื่อก่อนข้าหน้ามืดตาบอด ตอนนี้เหล่าปากลับแคว้นหนานก็ดีแล้ว ข้าจะได้เชื่อมความสัมพันธ์แม่ลูกกับเหล่าชีให้ดี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...