พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 497

ตอนที่ 497 องค์ชายเจ็ด

หลีโม่จะเอาชีวิตของเหล่าชีมาเสี่ยงไม่ได้ ต่อให้ครั้งนี้จะเป็นการเข้าใจผิดก็ตาม แต่โอกาสในการฆ่าอ๋องหนานหวยยังมีอีกมาก

“อ๋องเย่ ตอนนี้เจ้ายังสามารถเรียกตัวพวกองครักษ์กลับมาหรือไม่?” หลีโม่ถาม

อ๋องเย่ลองนับคำนวณระยะทาง แล้วส่ายหัวเบาๆ “น่าจะไม่ทันแล้ว คืนนี้เหล่าปาอยู่ที่เย่เจิน พรุ่งนี้เช้าเดินทางไปถึงซูเจียงเฉิง นี้ตอนกลางคืนก็จะลงมือ ต่อให้ตอนนี้ข้าส่งคนไป วิ่งด้วยม้าเร็วแค่ไหนก็ต้องใช้เวลาหนึ่งวันครึ่งถึงจะถึงเย่เจิน พยายามจะตามทัน แต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ เพราะไม่รู้ว่าองครักษ์จะลงมือตอนกลางคืนหรือว่าหาจังหวะได้ในตอนกลางวัน”

หลีโม่ก็ลองคำนวณเองดู อ๋องหนานหวยเดินทางจากเมืองหลังไปตั้งสามวันกว่าจะถึงเย่เจิน เดินทางค่อนข้างช้า ดังนั้นใช้เวลาสามวันก็มีความเป็นไปได้ หากระหว่างทางไม่มีการพัก วิ่งด้วยมาเร็วใช้เวลาหนึ่งวันครึ่ง ในหนึ่งวันครึ่งนี้สามารถตามไปถึง ต่อให้องครักษ์ลงมือพรุ่งนี้ตอนกลางคืน ก็ไม่ทันแล้ว

ภายในใจนางคิดอยู่อย่างวุ่นวาย รู้สึกเหมือนว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้น

“เจ้าคิดมากไปหรือเปล่า?” อ๋องเย่เห็นท่าทางของนางเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา คิดว่าคงมีเรื่องในใจ

หลีโม่พูดความในใจที่ตัวเองสงสัยออกมาให้อ๋องเย่กับอ๋องเหลียงช่วยกันวิเคราะห์ เมื่อทั้งสองคนฟังแล้ว ท่าทีก็ดูหนักใจขึ้นมา

เมื่อหลีโม่พูดแบบนี้ เรื่องราวก็ดูผิดปกติจริงๆ

อีกอย่าง หากอ๋องหนานหวยจะฆ่ากุ้ยไท่เฟยจริงๆ และถูกกุ้ยไท่เฟยซ้อนแผน คนที่จะต้องเสียสละที่สุดคือใคร?

จะต้องเป็นซือถูเย้นสองสามีภรรยา

ตอนนี้คนร้ายให้การสารภาพว่าหลีโม่เป็นคนบ่งการอยู่เบื้องหลัง นี่ก็เท่ากับว่ามีปัญหาแล้ว

“ยอมปล่อยเขาไปสักครั้ง ก็จะให้เหล่าชีตกอยู่ในอันตรายไม่ได้” อ๋องเย่ตักสินใจ แล้วรีบออกไป

อ๋องเย่ไปแล้ว ซุนกงกงก็มาแล้ว “พระฉายา เปากงกงไปหาท่านที่พระราชวังฮุยชิง บอกว่าฮ่องเต้มีรับสั่งให้เข้าเฝ้า”

หลีโม่ตอบว่า “ข้ารู้แล้ว”

อ๋องเหลียงมองนางแล้วพูดว่า “ข้าไปเป็นเพื่อนเจ้า”

หลีโม่ส่ายหัว “ไม่ ข้าไปคนเดียว เจ้าไม่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง ฮ่องเต้เป็นคนขี้ระแวง หากเจ้าช่วยข้าพูด ยิ่งไม่เป็นการดี”

ตอนนี้เป็นช่วงแย่งชิงอำนาจ ถึงแม้อ๋องเหลียงไม่มีความตั้งใจ แต่ใจคนเราอยู่ตรงข้ามกับหนังท้อง ฮ่องเต้ไม่ได้มั่นใจเลยว่าเขาไม่มีความตั้งใจจริงๆไหม หากสงสัยว่าเขาวางแผนชั่วร้ายแย่งชิงอำนาจ สมรู้ร่วมคิดกับพระฉายาซื่อเจิ้งจ้างคนร้ายเข้ามาลอบสังหารถึงในวัง เขาจะเดือดร้อนไม่น้อย

ในระหว่างทางไปตำหนักซีเวย ซุนกงกงพูดเตือนหลีโม่ว่า “พระฉายา ตอนที่ฮ่องเต้ถามท่าน ท่านไม่ต้องรีบตอบ ไม่ต้องรีบแก้ตัว ไม่ต้องพูดอะไรเยอะ พูดเพียงว่าตัวเองไม่ได้ทำก็พอ ฮ่องเต้เป็นคนขี้ระแวง ยิ่งพูดก็ยิ่งผิด มากที่สุดหากมีโอกาส ให้พูดความน่าสงสารของตัวเอง แต่อย่างอื่นไม่ต้องพูดเยอะ จะพูดก็ต้องเป็นตอนที่ห้องแต่พูดขึ้นมาก่อน ให้ท่านพูดสิ่งสำคัญที่สุดออกมา ไม่ต้องพูดเยอะ แต่ต้องละเอียดประณีต”

หลีโม่รู้ว่าซุนกงกงเคยอยู่รับใช้บรรพบุรุษมาก่อน ถือเป็นคนอาวุโสคนหนึ่งในวังแล้ว ฮ่องเต้เป็นคนที่เขาเห็นมาตั้งแต่เล็กจนโต และเป็นคนที่รู้จักนิสัยของฮ่องเต้ดีที่สุด

ดังนั้น หลีโม่จดจำขึ้นใจ “ขอบคุณซุนกงกงที่ตักเตือน”

ซุนกงกงถอนหายใจเบาๆ “ทวนเปิดเผย หลบหลีกง่าย เกาทัณฑ์ลับ ยากระวัง บางทีคนที่พวกเราคิดว่ารับมือง่ายที่สุด ที่จริงเป็นคนที่ยากต่อการรับมือที่สุด”

หลีโม่รู้สึกว่าคำพูดนี้ของซุนกงกงมีความหมายลึกซึ้ง “กงกง มีอะไรก็พูดมาตรงๆได้”

ซุนกงกงพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “ฮ่องเต้ดูเหมือนเชื่อใจท่านอ๋องมาก เชื่อใจหวังเฟย ถึงขั้นสามารถยกอำนาจทั้งหมดให้กับท่านอ๋อง ความเชื่อใจนี้กลับสามารถเป็นอาวุธสำคัญที่จะทำร้ายท่านอ๋องได้ การตัดสินใจของฮ่องเต้ จะทำให้ท่านอ๋องตกอยู่ในความลำบาก พระฉายา ท่านลองคิดใคร่ครวญดูคำพูดของบ่าวให้ดี ครั้งนี้จะทำให้ฮ่องเต้ระแวงในตัวท่านไม่ได้ หากเกิดคิดระแวงกับท่านแล้ว จะทำให้ความเชื่อใจที่มีกับท่านอ๋องมีความเสี่ยง ตอนนี้ท่านอ๋องอยู่ในสนามรบ จะให้ราชสำนักกับฮ่องเต้ระแวงเขาไม่ได้ นั่นหมายถึงความเป็นความตายง่ายเหมือนเป็นเพียงเส้นด้ายเส้นเดียว”

หลีโม่รู้ถึงความร้ายแรงนั้นดี “ข้ารู้แล้ว”

เมื่อมาถึงตำหนักซีเวย มองดูประตูสีแดงที่ปิดสนิทอยู่ ตรงประตูตำหนักมีกุญแจสองอันแขวนอยู่เป็นรูปพระจันทร์สว่างไสวภายใต้แสงอาทิตย์ หลีโม่เข้าออกตำหนักซีเวยหลายครั้ง ไม่มีครั้งไหน ที่หนักใจเท่าครั้งนี้

มีคนร้ายบุกรุกพระราชวังซีอาน ค่ำคืนนี้ จะทำให้คนมากมายนอนไม่หลับ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม