บทที่601 เชื่อในหลีโม่
ฉินโจวพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนนุ่มลง “ใบสั่งยา เอามาให้ข้า ข้าจะต้องพิจารณา”
หลีโม่พูด “ใบสั่งยาข้าให้เจ้าได้ ข้าไม่ได้คิดจะใช้ใบสั่งยาบีบบังคับ แต่ว่ามียาในใบสั่งยาที่แคว้นเป่ยม่อไม่มีหรือมีน้อย ซึ่งจะต้องนำเข้ามาจากแคว้นต้าเหลียงหรือแคว้นต้าโจว”
หลีโม่หยิบใบสั่งยาที่ซ่อนไว้ในแขนเสื้อออกแล้วมาส่งให้นาง “สิ่งที่เจ้าถืออยู่ในมือคือชีวิตของผู้ป่วยกาฬโรค ถึงแม้เจ้าจะไม่สามารถพวกเราได้ แต่ข้าหวังว่า เจ้าจะสามารถเผยแพร่ใบสั่งยาและนำสมุนไพรและยาเม็ดมาในทันทีโดยไม่รอช้า ข้าได้เขียนจดหมายไปหาอ๋องอานหรานแล้ว ข้าหวังว่าเขาจะมีวิธีที่ดี เมื่อถึงเวลาเจ้าจะเห็นประสิทธิภาพของการรักษา”
ฉินโจวคิดไม่ถึงว่าหลีโม่จะส่งใบสั่งยาให้อย่างสบายอกสบายใจ นางไม่เชื่อเลยสักนิด เริ่มจากตอนที่หลีโม่บอกว่ามีใบสั่งยา นางก็เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้กับเสี้ยหลีโม่และต้องเอาใบสั่งยามาอยู่ในมือให้ได้
นางหยิบมันมาด้วยความรู้สึกมากมายผสมปนเปอยู่ข้างใน
“ข้าไปล่ะ ใบสั่งยานี้สามารถรักษาท่านปู่ของเจ้าได้” หลีโม่ทำความเคารพฉินโจวแล้วหันหลังกลับไป เมื่อถึงหน้าประตู หลีโม่ก็หยุดนิ่งสักครู่แล้วหันกลับมามองฉินโจว ในสายตาของนางมีแสงอันรุ่งโรจน์ “ฉินโจว เจ้าคือพวกยึดมั่นทำสงครามและยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับฉาวฮองเฮา รู้ไหมเพราะอะไร ข้าจึงยอมมาหาเจ้าและไม่ลังเลที่จะบอกเจ้าเรื่องที่ไอ้เจ็ดกำลังทำในตอนนี้”
ฉินโจวโพล่งออกมาว่า “เพราะอะไร?”
นี่เป็นคำถามของนางด้วยเหตุผลที่ว่าเสี้ยหลีโม่ไม่ควรจะมาหานางอย่างโง่เขลาเพราะนางคือพวกยึดมั่นทำสงคราม
หลีโม่พูดเสียงเบา “เพราะว่า ข้าเชื่อว่าเจ้าไม่เหมือนกับฉาวฮองเฮาและฮ่องเต้ ในใจของเจ้ายังคงมีประชาชนอยู่”
หลังจากพูดเสร็จ หลีโม่ก็มองลึกลงไปในดวงตาของนาง แล้วเดินจากไป
ครั้งนี้ฉินโจวไม่มีเวลาไล่ตามนาง ได้แต่นั่งลง ในมือถือใบสั่งยาแล้วคิดเกี่ยวกับคำพูดของหลีโม่ซ้ำไปซ้ำมา
หลีโม่กลับถึงภูเขาหางหมาป่า หลิงลี่ไปรับนางที่กลางภูเขา
“พระชายาเป็นอย่างไรบ้าง?” หลิงลี่ถาม
หลีโม่ส่ายหัวเบาๆ “เจ้าคอยดูจวนแม่ทัพใหญ่อย่างใกล้ชิด หากฉินโจวไม่ได้มีเจตนาจะช่วยเหลือ จงฆ่านางซะ เจ้าสวมรอยเป็นนางแทนที่แม่ทัพใหญ่ชั่วคราว”
หลีโม่พูดเสร็จก็มอบสายเชือกเตาปาให้นาง
“ค่ะ!” หลิงลี่รับสายเชือกเตาปาไว้
ฆ่าฉินโจวมันไม่ง่าย พวกนางมีคนไม่มากและจวนแม่ทัพใหญ่ก็ได้รับการป้องกันอย่างเข้มงวด ฉินโจวมีศิลปะการต่อสู้ที่
ยอดเยี่ยม หลิงลี่ไม่ใช่คู่แข่งของนางจึงต้องเอาสายเชือกเปาตาไปด้วยตัวเอง
หลิงลี่เปลี่ยนตำแหน่งแล้วลงจากเขา แล้วหลีโม่ก็เดินกลับ
จวนแม่ทัพใหญ่ฉิน
ในเวลาพลบค่ำ องครักษ์จิ่ง กลับมาที่จวนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เขาเดินตรงไปที่ลานบ้านของฉินโจวและถอยให้ผู้ติดตามออกไปก่อน แล้วพูดว่า “แม่ทัพใหญ่ เช่นเดียวกับที่อ๋องซื่อเจิ้งกล่าว ฉาวจี๋เพียงแค่ให้ประชาชนเข้าไปแต่ไม่ส่งอาหารและยา อีกทั้งยังตั้งรับการป้องกันรอบๆเมืองอานและตั้งด่านปิดล้อมเพื่อป้องกันไม่ให้ใครเข้าออก”
“ถามฉาวจี๋หรือยัง?” ฉินโจวถามด้วยแววตาเย็นชา
“ถามแล้ว ข้าน้อยและใต้เท้าฉาว คุยกันแล้วนิดหน่อย ใต้เท้าฉาวมีความหยิ่งผยองมากไม่ค่อยให้ความสนใจข้าน้อย แต่เมื่อ
ข้าน้อยบอกว่าจะเข้าไปหาใครสักคน ใต้เท้าฉาวก็ไม่อนุญาตให้ข้าน้อยเข้าไป อีกทั้งยังบอกข้าน้อยคราวหลังไม่ต้องมาอีกและส่งเขาออกไป ข้าน้อยจึงหาข้ออ้างที่จะห่างออกไปเพื่อกลับไปแอบฟังและได้ยินคำสั่งของใต้เท้าฉาวบอกว่าจะไปหมู่บ้านมู่จ้ายใน วันพรุ่งนี้และยังให้คนเตรียมน้ำมันก๊าดอีก30ถัง”
“น้ำมันก๊าด?” ฉินโจวโมโห “เขาจะเผาหมู่บ้านรึ?”
“ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเช่นนั้น ยิ่งไปกว่าเมื่อข้าน้อยเห็นผู้ประสบภัยในเมืองอาน ก็เริ่มเกิดความสงสัยและเมื่อไปถามฉาวจี๋ ผู้ประสบภัยก็ถูกลากออกไปตามคำสั่งของฉาวจี๋ ข้าน้อยเห็นคนของฉาวจี๋กลับมาพร้อมกับรอยเลือดบนดาบ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...