บทที่602 ฆ่าอย่างไร้ความปราณี
จิ่งตกใจ “ให้ของกำนัลรึ? ของกำนัลอะไร?”
ฉินโจวยิ้ม “ส่งสาวงามให้เขาสองคน บอกว่าข้าส่งให้เขา หากเขาไม่ต้องการ นั่นหมายความว่า เขาไม่ยินดีที่จะร่วมมือกับข้า ข้าจะดูว่าความรู้สึกระหว่างสามีภรรยาจะสามารถทนต่อบททดสอบได้หรือไม่และเสี้ยหลีโม่เป็นคนชอบธรรมอย่างที่นางพูดหรือไม่”
จิ่งมองไปที่ฉินโจวอย่างแปลกใจ แม่ทัพใหญ่ไม่เคยทำเช่นนี้มาก่อน ในสายตาของนางเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องไร้สาระ
วันถัดไป ฉินโจวพาผู้คนไปที่ภูเขาหางหมาป่า
พระราชวังเป่ยม่อ
ห้องทรงพระอักษร
“ฮ่องเต้ เมื่อวานนี้เสี้ยหลีโม่ไปที่จวนแม่ทัพใหญ่และพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับแม่ทัพใหญ่เป็นเวลานาน หลังจากพูดคุยเสร็จแล้ว วันนี้แม่ทัพใหญ่ได้ออกจากเมือง”
ชายคนหนึ่งคุกเข่าต่อหน้าฮ่องเต้และฉาวฮองเฮาแล้วรายงาน
ฉาวฮองเฮาขมวดคิ้ว “นางกับเสี้ยหลีโม่คุยอะไรกัน?เจ้ารู้หรือไม่?”
“พวกนางปิดประตูคุยกัน ทาสรับใช้ไม่สามารถเข้าไปได้ จึงไม่รู้ว่าพวกนางคุยอะไรกัน แต่หลังจากที่เสี้ยหลีโม่ออกไป
องครักษ์จิ่งก็กลับมารายงานเรื่องของเมืองอาน หลังจากที่แม่ทัพใหญ่ได้ฟัง นางก็ออกจากเมืองไป”
“ออกจากเมืองงั้นรึ?” ฮ่องเต้ทรงเหล่ตาและยกมือเรียกคนต่อไปแล้วพูดว่า “ฉินโจวนะฉินโจว อย่าทำให้ข้าผิดหวัง”
ฉาวฮองเฮานึกถึงคำกบฏก่อนหน้านี้ของนาง แล้วพูดว่า “ฮ่องเต้ ฉินโจวนางนี้ ข้ากลัวว่าจะควบคุมนางไม่ได้”
“ก่อนหน้านี้ที่ข้าให้เจ้า ขอให้คุณย่าของตระกูลฉินคุยกับนาง เจ้าไม่ได้ไปรึ?” ฮ่องเต้ถาม
“ไปแล้วเพคะ แต่คุณย่าบอกว่านางแก่แล้ว ไม่อยากถามเรื่องของเด็กๆ ฉินโจวก็โตแล้วนางมีความคิดเป็นของตัวเอง”
ฮ่องเต้ยิ้มเยาะ “ ดูเหมือนว่าตระกูลฉินจะทรยศ”
“ตอนนี้นายท่านฉินและอ๋องเจิ้นโก๋ที่สามารถช่วยได้ก็ป่วย มันช่างหน้าปวดหัวจริงๆ” ฉาวฮองเฮาพูด
ฮ่องเต้หลับตาและใช้นิ้วเคาะที่เก้าอี้ราวกับกำลังใช้ความคิด
ฉาวฮองเฮาไม่กล้ารบกวน เขาจะทำเช่นนี้ก็ต่อเมื่อมีการตัดสินใจครั้งสำคัญเท่านั้น
ความชั่วร้ายพุ่งทะลุหัวใจของนาง นางหวังว่าฮ่องเต้จะเป็นผู้ชี้ขาดได้มากขึ้น และเมื่อตระกูลฉินล่มสลาย ตระกูลฉาวของนางจะขึ้นมาแทนที่
ตระกูลฉินก็โชคร้ายมาหลายปีแล้ว ถึงทีของตระกูลฉาวบ้าง
เป็นเวลานาน ทันทีที่ฮ่องเต้ลืมตา “มานี่สิ!”
คนคนหนึ่งก้าวเข้ามา คุกเข่าแล้วทำมือทำความเคารพ “ฮ่องเต้ ทาสรับใช้อยู่นี่เจ้าค่ะ”
“เจ้าไปบอกใต้เท้าฉาวจี๋ให้หยุดเรื่องที่เขาทำก่อน ให้เขาติดตามฉินโจวดูว่านางไปที่ไหน ถ้าหากพบว่านางติดต่อกับเสี้ยหลีโม่หรือซือถูเย้นโดยส่วนตัว...”
มือของเขายกสูงขึ้นเล็กน้อยแล้วปล่อยลงอย่างช้าๆ “จงฆ่าอย่างไร้ความปราณี!”
การฆ่านายพลเป็นข้อห้ามก่อนสงคราม โดยเฉพาะฉินโจวเป็นนายพลคนโปรดของเขา
แต่ว่า เมื่อเป็นฮ่องเต้ก็ควรจะเด็ดขาด และเมื่อฉินโจวไม่เชื่อฟังเขา เขาก็เก็บนางไว้ไม่ได้ ฉกฉวยโอกาสในตอนที่นางยังไม่ได้เตรียมการป้องกันและรีบลงมือ ไม่เช่นนั้นหากรอนางเตรียมการเสร็จสิ้นแล้วจะเป็นเรื่องยากที่จะจัดการกับนาง
การแสดงออกของฉาวฮองเฮาผ่อนคลายลงในทันที ดี ก็ดีที่ฮ่องเต้เต็มใจที่จะเสียสละหัวใจดวงนี้ นางกลัวว่าฮ่องเต้จะไม่โหดร้ายและไม่เต็มใจที่จะทำ
ฉินโจวนางผู้นี้ ถึงแม้ว่าจะไม่กำเริบเสิบสานใช้อำนาจบาตรใหญ่ก็ตาม แต่อิทธิพลการจัดการทั้งหมดก็อยู่ที่นาง ยิ่งตอนนี้นาง ก่อกบฏ หากนางจะกลับไปพวกยึดมั่นสันติภาพ แคว้นเป่ยม่อทั้งหมดก็จะเปลี่ยนไป
เมื่อฮ่องเต้ทำการตัดสินใจ จากนั้นเขาก็นิ่งเงียบไม่พูดอะไร
ฉาวฮองเฮาปลอบ “ฮ่องเต้ มันไม่มีวิธีอื่นสำหรับเรื่องนี้แล้ว ตระกูลฉินได้รับการสนับสนุนจากฮ่องเต้ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาและนางก็เติบโตขึ้นทุกวัน หากไม่รีบยับยั้งนางก็อาจจะคุกคามอำนาจของฮ่องเต้”
ฮ่องเต้มองไปที่นาง “ฮองเฮา ตั้งแต่เริ่มราชวงศ์เป่ยม่อมา ตำแหน่งแม่ทัพใหญ่นั้นหาที่เปรียบไม่ได้เลย ณ จุดนี้ เจ้ารู้หรือไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...