บทที่603 ชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ของหลีโม่
หลีโม่หยิบเข็มที่ซ่อนไว้ในแขนเสื้อออกมาแล้วเช็ดเบาๆ ก่อนหน้านี้ที่จวนแม่ทัพใหญ่ก็หายไปหนึ่งเล่ม
“เสี้ยหลีโม่!” ฉินโจวยืนอยู่ด้านหน้าของหลีโม่ แสงแดดส่องลงมาจากกิ่งไม้ สาดส่องมาที่ใบหน้าที่นุ่มนวลของหลีโม่ ราวกับว่าใบหน้าของนางถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีทอง
“เชิญแม่ทัพใหญ่พูด” หลีโม่ยังคงเช็ดเข็มโดยไม่สนใจฉินโจว
ฉินโจวตกใจเล็กน้อยกับท่าทางของนาง “ข้ามา เจ้าควรจะดีใจไม่ใช่รึ?”
หลีโม่เงยหน้าขึ้นแล้วยิ้ม “ข้ารู้ว่าเจ้าต้องมา”
ฉินโจวยิ้มหยัน “ทำไมเจ้ามั่นใจในตัวเองนัก?”
“ไม่ใช่ข้ามั่นใจในตัวเอง เพียงแต่ข้าเชื่อในตัวเจ้า” หลีโม่ไม่ลังเลที่จะยกย่องฉินโจว เมื่อเรื่องมาถึงตอนนี้ยิ่งต้องประจบสอพลอนาง แล้วเรื่องทุกอย่างจะราบรื่น
ฉินโจวเอียงหัว “จริงรึ?”
“ยังจำหมอหลินตานที่เจ้าพามาได้หรือไม่?” หลีโม่ถาม
“เกิดอะไรขึ้นกับเขา?” ฉินโจวหันกลีบไปมองหลีโม่
“ครอบครัวของเขาตายจากแผ่นดินไหวและกาฬโรค” หลีโม่พูดเสียงเบา “แต่เขากลับยังอยู่ที่หมู่บ้านมู่จ้ายที่ภูเขาหางหมาป่าแห่งนี้ และเขายังปฏิบัติต่อผู้ป่วยเสมือนคนในครอบครัวของเขา เขาทำให้ข้าตื้นตันใจและทำให้ข้ารู้ว่าจริงๆแล้วผู้คนแคว้นเป่ยม่อและแคว้นต้าโจวก็เหมือนกัน เขายังมีความเมตตาเห็นอกเห็นใจ เจ้าเป็นถึงแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นเป่ยม่อแล้วเหตุใดเจ้าจึงจะไม่มี?”
ฉินโจวรู้สึกประทับใจ ดวงตาของเขาเปล่งประกาย แต่นางกลับไม่พูดอะไร
หลีโม่ก็ไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้นางคิดไปอย่างช้าๆ
นางรู้ว่ามันยากมากที่ฉินโจวจะตัดสินใจเรื่องนี้ ซึ่งมันอาจจะทำลายชีวิตของนาง
หลังจากที่เงียบไปนาน ฉินโจวก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับประกายในดวงตาของนาง “เอาล่ะ ข้ารับปากเจ้า แต่เจ้ากับซือถูเย้นก็ต้องรับปากกับข้าเรื่องหนึ่งก่อน”
“ว่ามา!” หลีโม่พูด
“อันดับแรกถอยทัพ!” นางหวังว่าจะให้โอกาสฮ่องเต้ หากแคว้นต้าโจวถอยทัพ นางจะเกลี้ยกล่อมให้ฮ่องเต้ถอยทัพเช่นกัน
หากแคว้นต้าโจวถอยทัพ แต่ฮ่องเต้ไม่ยอมถอย นางก็จะไม่ลังเลอีกต่อไป
หลีโม่ส่ายหัว “เจ้าก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ แคว้นต้าโจวไม่ได้บุกรุก เพียงแต่ทำการป้องกัน ตอนนี้แคว้นเป่ยม่อกำลังส่องอาหารไปยังชายแดน แล้วแคว้นต้าโจวจะถอยทัพได้อย่างไร?”
“ถ้าเช่นนั้นก็ไม่มีเรื่องต้องคุยแล้ว นี่เป็นเพียงเงื่อนไขเดียว” ฉินโจวพูดอย่างเรียบเฉย
หลีโม่พูด “เจ้าลองพูดมาสักหนึ่งเหตุผลที่จะทำให้ข้าถอยทัพ”
“หากเจ้าถอยทัพ ข้าจะไปเกลี้ยกล่อมให้ฮ่องเต้ถอยทัพเช่นกัน” ฉินโจวพูด
“ถ้าหากเจ้าไม่สามารถเกลี้ยกล่อมฮ่องเต้ของเจ้าได้ล่ะ?”
หลีโม่ไม่สามารถเชื่อฉินโจวได้เลย นางมาจากพวกยึดมั่นทำสงคราม อีกทั้งยังมีความทะเยอทะยานและมีความสามารถเชิงกลยุทธ์ นางผู้นี้สามารถเชื่อถือได้แต่ไม่สามารถเชื่อถือได้ทั้งหมด
“ข้ามั่นใจ เจ้าไม่เชื่อข้ารึ?” ฉินโจวไม่พอใจเล็กน้อย
“แม่ทัพใหญ่ฉิน แม้ว่าข้าจะเห็นด้วย แต่ซือถูเย้นกับเซียวเซียวไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน”
“เป็นไปได้ไหมที่เจ้าจะป้องกันไม่ได้หลังจากถอยทัพ? เจ้าสามารถถอยทัพไปได้ถึง50ลี้”
“50ลี้ กองทัพของข้าก็จะเสียตำแหน่งที่ได้เปรียบไป” หลีโม่จำได้ ก่อนหน้านี้ไอ้เจ็ดได้วิเคราะห์ไว้ หากเดินหน้า30ลี้หรือถอยทัพ ล้วนแต่จะเสียตำแหน่งที่ดีไป
ฉินโจวอดไม่ได้ที่จะมองนางด้วยสายตาที่เย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ธรรมดาและเรื่องทางการทหารเจ้าก็ไม่เข้าใจ ถ้าเช่นนั้น ก็เป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะร่วมมือกับเจ้าโดยไม่มีเงื่อนไข หากเจ้าไม่เห็นด้วยก็ปล่อยเรื่องนี้ไป เหมือนกับว่าข้าไม่เคยมาที่นี่”
หลีโม่ยิ้ม “เมื่อวานนี้แม่ทัพใหญ่บอกข้าว่า ข้าจะไม่สามารถออกจากจวนแม่ทัพใหญ่ได้โดยง่าย แต่ตอนนี้ เกรงว่าเจ้าก็จะไม่สามารถออกจากภูเขาหางหมาป่าแห่งนี้ได้โดยง่ายเช่นกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...