บทที่608 แอบเข้าไปในสวนสัตว์หยู้ซื่อ
หลีโม่กลับพูดว่า “ไม่ ไม่ใช่เรื่องนั้น ข้าอยากถามเจ้าว่าคนที่เทียวไปเทียวมาระหว่างแคว้นต้าโจวกับฉาวฮองเฮาคือใคร? ใช่ไม่ใช่อี๋กุ้ยเฟย?”
ฉินโจวพูด “เจ้ารู้แล้วจะถามทำไม?”
“ข้าแค่ต้องการยืนยัน!” หลีโม่สาปแช่งนางในใจ เลวจริงๆ
ฉินโจวเหลือบมองมาที่นางและเห็นว่าดวงตาของนางเต็มไปด้วยความโกรธ แต่กลับเก็บไว้ในใจไม่ได้พูดอะไร เดิมทีนางไม่ชอบพูดเรื่องของคนอื่นอยู่แล้ว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “อี๋กุ้ยเฟยเป็นศัตรูกับเจ้ารึ?”
หลีโม่เหลือบมองนาง แปลกใจที่นางถามเช่นนี้
นางถามเช่นนี้หมายความว่านางมีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก มิฉะนั้นคงไม่พูดว่าศัตรู
หลีโม่ไม่อยากจะบอกนางเกี่ยวกับงานบ้านของแคว้นต้าโจว จึงพูดเบาๆว่า “คนมีความสามารถ อาจจะทำให้มีคนอิจฉา”
ฉินโจวหัวเราะ ในตอนแรกนางหัวเราะเบาๆ จากนั้นนางก็หัวเราะเสียงดังแล้วก็ดังขึ้นอีก
หลีโม่ถูกนางหัวเราะใส่อย่างไม่มีเหตุผล “พอได้แล้ว เจ้าหัวเราะอะไร?”
ในที่สุดฉินโจวก็หยุดหัวเราะ “ข้าไม่รู้ว่าปกติเจ้าก็เป็นคนอวดดี”
หลีโม่ไม่อยากจะพูดแล้ว ที่บอกว่าตนเองมีความสามารถก็เพียงแค่พูดแบบขอไปที เพราะไม่อยากตอบคำถามของนาง แต่นางก็ไม่เข้าใจ ?
ฉินโจวนางนี้ โง่เง่าจริงๆ
หลีโม่ค้นพบสัจธรรมในทันที นั่นคือผู้ที่มีความสามารถมากขึ้น ในความจริงแล้ว พวกเขาไม่ฉลาดในการใช้ชีวิตหรือการจัดการกับผู้อื่น
อย่างไรก็ตาม ฉินโจวผู้ที่เคยมีใบหน้าเคร่งเครียดและเคร่งขรึม ทันใดนั้นก็ได้เห็นรอยยิ้มของนาง รอยยิ้มนี้ช่างเข้ากับเสื้อคลุมผ้าไหมแขนยาวของวันนี้ ทำให้รู้สึกถึงบรรยากาศของคนชั้นสูงของเสื้อที่หรูหรา
เอาล่ะ นางรู้สึกว่ามีความผิดปกตินิดหน่อยกับคุณศัพท์ของตัวเอง แต่มันก็เป็นผลที่ขัดแย้งกันที่ทำให้นางรู้สึกว่าฉินโจวนั้นแตกต่างจากในอดีตเล็กน้อย
ในขณะที่ฉินโจวหัวเราะอยู่ ทันใดนั้นก็เห็นนางจ้องมาที่ตนเอง จึงถามว่า “มองอะไร?”
นางยืนขึ้นและลงจากม้า แล้วนั่งใต้ต้นไม้ จากนั้นก็เอาอาหารแห้งออกมา
หลีโม่ก็ลงจากม้าแล้วเดินไปนั่งข้างๆนาง และโอบไหล่ของนางแสร้งทำเป็นคุ้นเคย แล้วพูดว่า “แม่ทัพใหญ่ เจ้ามีใครในใจไหม?”
ฉินโจวเป็นคนมีเสน่ห์ คำพูดของโหรวเหยายังคงดังก้องอยู่ในใจของนาง เป็นครั้งแรกที่หลีโม่ใช้กลยุทธ์สร้างความสัมพันธ์กับคู่ต่อสู้ในความรักเพื่อการสอดแนมศัตรู
จู่ๆฉินโจวก็เปลี่ยนสีหน้า นางหักข้อมือของหลีโม่ด้วยมือเดียว แล้วบิดอย่างแรงด้วยใบหน้าอันดุร้าย แล้วพูดว่า “ปล่อยข้า เจ้าคิดจะพูดอะไร?”
หลีโม่ตกใจกับการกระทำของนางและสลัดมือของนางออก “ไม่ใช่แค่การพูดคุยหรือ? ทำไมเจ้าต้องมีท่าทีใหญ่โตถึงเพียงนี้? ไม่มีก็ไม่มีสิ”
ฉินโจวพูดอย่างดุร้าย “เจ้าคิดว่าในฐานะที่ข้าเป็นผู้หญิงก็ควรจะแต่งงานใช่หรือไม่? ถ้าหากข้าไม่แต่งงานก็กลายเป็นสัตว์ประหลาด?”
หลีโม่ลูบข้อมือของนาง “มีคนพูดกับเจ้าแบบนั้นรึ? เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น”
ผู้หญิงคนนี้มีเงามืดในจิตใจที่ยิ่งใหญ่นัก กลัวว่าจะถูกผู้อื่นพูดเรื่องนี้ตลอด?
ฉินโจวกัดริมฝีปากเรียวเล็กของนาง ใบหน้าของนางดูเยือกเย็น อาหารแห้งก็ไม่กิน แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “เร็วเข้า!”
หลังจากพูดเสร็จ นางก็หันกลับมาขี่ม้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...