บทที่ 615 เจ้าจะทำยังไง
หลีโม่แทบหยุดหายใจ หัวสมองเสียงดังก้อง นางยื่นมือออกมา ด้วยอาการที่สั่นเทา รับเอาหยกบนมือฉินโจว นั่นคือของโหรวเหยา
นี่เป็นท่านย่าของโหรวเหยามอบให้นาง นางพกติดตัวไว้ตลอด
“ขอโทษ ข้าพวกนางไว้ไม่ได้” น้ำเสียงของฉินโจวคลุมเครือไม่ชัดถ้อยชัดคำ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความโกรธและความโศกเศร้าที่นางเองก็ไม่สามารถกลั้นไว้ได้
บนภูเขาหางหมาป่า มีลูกน้องและทหารเก่าที่ติดตามนางมานานหลายปี
ปากหลีโม่ขยับหนึ่งที น้ำตาไหลกลิ้งลง นางตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ทั้งตะโกนทั้งร้องไห้ ทั้งเศร้าโศกและเสียใจ
ในใจฉินโจวก็ทรมานมาก เห็นหลีโม่สติพังทลาย ความโกรธในใจของนางก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น นางพยายามหายใจเข้าอยู่ตลอด ถึงค่อยสามารถรักษาสติไว้ได้อย่างปกติ
“เจ้าไม่ต้องร้องไห้ ยังมีคนอีกสามร้อยคนมีชีวิตรอด” ฉินโจวก็ไม่รู้ว่าจะปลอบอย่างไง แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งเศร้าโศกเสียใจ จะต้องรีบตามหาคนสามร้อยคนนั่น ปกป้องคุ้มครองให้พวกเขาปลอดภัย
หลีโม่ได้ยินว่ายังมีคนอีกสามร้อยคนยังมีชีวิตอยู่ จึงเช็ดน้ำตา ล้วงเข็มออกมาจากกระเป๋า ฝังเข็มอยู่ตรงจุดใกล้ๆบาดแผล
“เล่าให้ข้าฟัง สถานการณ์บนเขาเป็นอย่างไร” สีหน้าหลีโม่เคร่งขรึมอย่างน่ากลัว
ฉินโจวพูดด้วยเสียงเบาว่า “ทุกอย่างถูกเผาหมดแล้ว ตอนที่ข้าไปถึง ผู้นำหมู่บ้านยังเหลือลมหายใจสุดท้าย เขาบอกว่ามีคนสามร้อยคนหนีไปแล้ว เจ้าเมืองโหรวเหยาตายเพื่อช่วยคน ตรงหน้าอกยังถูกแทงด้วยมีดสั้น มีดสั้นเล่มนั้นไม่ได้ถูกดึงออก แสดงว่าคนที่ฆ่านางในตอนนั้นรีบตามไปฆ่าคนอื่น”
เสียงของฉินโจวเบามาก แต่กัดฟันพูดออกมาทุกคำ อย่างเคียดแค้นมาก
หลีโม่จ้องมองดูนาง ดวงตาประกายแววแดงอย่างกับเลือด ทุกคำพูดเหมือนถูกบดขยี้ที่รากฟันอย่างนับครั้งไม่ถ้วน “ฉินโจว เจ้าบอกข้า เจ้าจะทำยังไง?”
ฉินโจวถึงขั้นทนไม่ได้ที่จะมองดวงตาที่บวมแดงและเต็มไปด้วยความโกรธกับความเศร้าในดวงตาของนาง นางแทบไม่ต้องคิด พูดขึ้นว่า “ข้าจะฆ่าฉู่จิ้งกับฉาวสู้ด้วยมือของข้าเอง”
ฉู่จิ้งก็คือฮ่องเต้เป่ยม่อในปัจจุบัน ฉาวสู้ก็คือฉาวฮองเฮา
นางจะเอาเลือดของฮ่องเต้กับฮ่องเต้ ให้ตายไปพร้อมกับคนนับพันเหล่านี้
หลีโม่พูดอย่างเงียบสงบว่า “เจ้าจำคำพูดของเจ้าไว้ เจ้าติดหนี้ชีวิตบุญคุณข้าไว้ หากเจ้าไม่ฆ่าพวกเขา ข้าจะกลับมาทวงคืนชีวิตของเจ้า”
ฉินโจวพูดต่อว่า “ข้าขอสัญญาด้วยชีวิต”
บนใบหน้าที่ขาวซีดของหลีโม่ ฉายแววแห่งความเหี้ยมโหด “ข้าจะทำทุกอย่าง เพื่อช่วยเจ้า”
ฉินโจวพูดว่า “ได้”
แต่นางจ้องมองดูหลีโม่ ในใจกลับพูดว่า ไม่ต้องให้เจ้าช่วย ขอให้เจ้าสุขสบายดีก็พอ
ทั้งสองคนร่วมปรึกษากันถึงเส้นทางที่พวกเขาใช้หนีเอาตัวรอด แล้วก็ควบขี่ม้าเดินทางต่อไป
เส้นทางหนีเอาชีวิตรอด มีเพียงสามเส้นทาง แต่ฉินโจวรู้สึกว่าจิ่งยังไม่ตาย ถึงแม้ว่าศพจะไม่สามารถดูรู้ว่าใครเป็นใคร แต่นางรู้สึกว่า จิ่งน่าจะยังมีชีวิตอยู่
ขอเพียงจิ่งยังมีชีวิตอยู่ ก็จะทิ้งร่องรอยให้นางหาเจอ ร่วมเป็นร่วมตายมาด้วยกันหลายปี ระหว่างพวกเขามีความเข้าใจโดยปริยาย
ตลอดทางที่นางขึ้นเขามา ผ่านภูเขาหางหมาป่า หลีโม่มองเห็นซากศพเหล่านั้น ร่างกายสั่นเทาอย่างรุนแรง
“หยกชิ้นนั้น เจ้าหาเจอตรงไหน?” หลีโม่มองดูกองเพลิงไฟ ทุกอย่างมอดไหม้จนเห็นแต่ความมืดมิด จนไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้หน้าตาเป็นอย่างไร
ฉินโจวพาไปยังตรงหน้าศพร่างหนึ่ง นั่นคือศพที่ถูกไฟไหม้จนไม่มีชิ้นดี นางพูดว่า “คือร่างนี้”
หลีโม่ล้มคุกเข่าลง ยื่นมือดึงมีดสั้นออกจากหน้าอกของนาง แล้วโยนทิ้งไปด้านข้าง นางยื่นมือลูบใบหน้าของโหรวเหยา ใบหน้านั้น ยังเหลือความเป็นหน้าที่ไหน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...