บทที่ 616 พบกันบนทางคับแคบ
ร้องไห้ไปรอบหนึ่งแล้ว หลีโม่ก็เดินทางไปตามหาต่อ
นางไม่ค่อยคุ้นเคยกับภูมิศาสตร์บนภูเขาหางหมาป่านี้ แต่ก่อนหน้านี้ตอนที่มาหายาสมุนไพรเคยเดินผ่านอยู่สองครั้ง พอที่จะเดาทิศทางได้ บวกกับฉินโจวกับนางเคยวิเคราะห์ภูมิศาสตร์ด้วยกัน นางจึงเลือกตามหาไปตามทางเส้นทางที่เปลี่ยวที่สุด หนีตาย จะเลือกเดินทางหลักได้ยังไง ต้องเลือกคิดเพียงเส้นทางที่เปลี่ยวหรือมีที่ถ้ำบนเขาสามารถใช้เป็นสถานที่หลบซ่อน
ตลอดเส้นทางนี้ หลีโม่ไม่กล้าหยุดพัก ในมือนางกำสายเชือกเตาปาไว้ ในใจคิดเพียงอย่างเดียว จะต้องตามหาพวกเขาให้เจอ
มีบ้างสถานที่ ยังมีร่องรอยการต่อสู้ ด้านข้างทางก็มีเลือดสดๆ ร่องรอยการต่อสู้แบบนี้มีอยู่สี่ห้าที่
เดินมาได้ประมาณครึ่งชั่วโมง เดินทั่วหุบเขาสองลูก นางมองไปยังหุบเขาด้านหน้า ดูเหมือนมีเงาของคนเคลื่อนไหว
นางหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่อย่างระมัดระวัง แอบมองไปดู ไม่ผิด ที่นั่นมีคนอยู่มากมาย แต่งกายด้วยชุดทหาร ในมือถือดาบคนละเล่ม ตามหาอยู่ในหุบเขา
หลีโม่มองดูพวกเขา ดวงตาแดงก่ำ อยากที่จะกระโจนเข้าไปฆ่าพวกเขาทั้งหมด
แต่ฝั่งตรงข้ามคนเยอะ นางก็ยังบาดเจ็บอยู่ สายเชือกเตาปาก็ใช่ว่าจะทำได้ทุกอย่าง
หลีโม่พยายามข่มความโกรธแค้นไว้ วิเคราะห์ดูสถานการณ์
พวกเขายังตามหาอยู่ แสดงว่าสามร้อยคนนั้นยังปลอดภัยดีอยู่
แต่บนเขามีคนตายภายใต้คมดาบ แสดงว่าตอนที่พวกเขาวิ่งหนี พวกทหารก็รีบตามทันที ตลอดทางนี้ คนแก่คนอ่อนแอมากมาย ทำไมพวกทหารยังตามไม่ทัน? ทำไมด้านหลังมาถึงไม่พบศพแล้ว?
หลีโม่ครุ่นคิดไปคิดมา นึกว่าบางทีคนของฉินโจวอาจจะจัดคนคุ้มกัน แล้วให้คนในชุมชนวิ่งหนีไป ตลอดทางที่เห็นร่องรอยพวกนั้น สามารถยืนยันจุดนี้ได้
หากเคยมีการสู้รบ งั้นสามร้อยคนนี้น่าจะกระจัดกระจายแล้ว และน่าจะหลบอยู่ไม่ไกล พวกทหารค้นบนเขาตรงข้าม คงเพราะรู้ว่าพวกเขาหลบซ่อนอยู่บนเขาตรงข้าม
ในใจหลีโม่แอบร้อนใจ จะต้องหลบซ่อนไว้ให้ดีนะ อย่างน้อยก็ต้องรอจนกว่าคนของฉินโจวจะมาถึง
หลีโม่แอบชำเลืองมองดู ตอนนี้ที่สามารถมองเห็นน่าจะมีคนประมาณสองร้อยกว่าคน ล้วนเป็นทหารชำนาญที่ผ่านการฝึกฝนมาแล้ว แต่หลีโม่รู้สึกว่านี่ไม่ใช่ทั้งหมด น่าจะยังมีทหารแบ่งแยกกันออกไปตามหาแล้ว
รับมือกับคนหกพันคน หลีโม่คิดว่า อย่างน้อยพวกทหารก็จะต้องมาประมาณพันกว่าคน
เพราะเป็นการลักลอบทำร้ายตอนกลางคืน และยังเป็นการวางเพลิง คนหนึ่งพันคนเพียงพอแล้ว
จากภูเขาหางหมาป่ากลับไปตามคนมา คำนวณด้วยความเร็วของม้าที่วิ่งแทบตาย กลับมาก็ต้องใช้เวลาสามชั่วโมง
ตอนนี้เพิ่งผ่านไปชั่วโมงกว่า อย่างน้อยพวกเขายังต้องอดทนอีกประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่า
หวังเพียงให้ฉินโจวเร็ว เร็ว เร็ว
หลีโม่เดินไปอย่างระมัดระวัง ภูเขาลูกตรงข้ามห่างจากที่นี่พอสมควร หลีโม่แอบหลบไปตลอดทาง ไม่ได้เป็นที่พบเห็นได้ชัด
ทันใดนั้น ทางขวามือมีดาบยาวยื่นมา วางอยู่บนคอของนางในทันที พร้อมด้วยเสียงเข็มว่า “หยุด หันหน้ามา”
ในใจหลีโม่แอบตะโกนว่าแย่แล้ว เมื่อกี้คิดเพียงเดินไปอย่างระมัดระวัง ลืมป้องกันซ้ายขวา คิดไม่ถึงว่าที่นี่จะมีคนแอบซุ่มอยู่
นางหันหน้าไป เห็นทหารสองคนถือดาบจ่อมาหานาง ทั้งสองคนมองพิจารณาดูนาง เห็นรอยเลือดบนตัวนาง จึงถามขึ้นอย่างเยือกเย็นว่า “เจ้าเป็นใคร? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?”
พวกเขาไม่เคยเห็นหลีโม่ ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าหลีโม่เป็นใคร
หลีโม่ดูตกใจมาก พูดขึ้นว่า “ท่านทหาร ข้าเป็นคนในชุมชนด้านล่างหุบเขา เมื่อวานสามมีของข้าขึ้นเขามาตัดฟืน ถึงตอนนี้ยังไม่กลับ ข้าเป็นห่วง จึงขึ้นเขามาตามหาสามี”
“คนในหมู่บ้านด้านล่างตีนเขา?” ทหารทั้งสองคนนั้นมองดูนาง เห็นผมเผ้านางยุ่งเหยิง เสื้อผ้าขาดรุงรัง ถึงแม้จะมอมแมมแต่ก็ยากที่จะซ่อนความงามไว้ไม่ได้ สวมใส่เสื้อผ้าธรรมดาปกติ แต่กลับดูดีมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...