บทที่ 617 จำนางได้ – ตอนที่ต้องอ่านของ พิษรักองค์ชายโฉมงาม
ตอนนี้ของ พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 617 จำนางได้ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 617 จำนางได้
หลีโม่รู้สึกได้ถึงความอันตรายที่อยู่ด้านหลัง นางรู้ว่าตัวเองโกหกไม่รอด หันตัวไปด้วยดวงตาที่เย็นชา
แสงคมดาบสั่นไหวอยู่ตรงหน้านาง ทหารคนที่ตัวสูงพุ่งตัวมา แล้วใช้ดาบจ่อนางถามด้วยเสียงเฉียบคมว่า “คนที่เหลืออยู่ที่ไหน?”
หลีโม่หัวเราะอย่างเยาะเย้ย คิดถึงคนในหมู่บ้านที่ตายไป แล้วก็อดทนต่ออีกไม่ไหว ใช้สายเชือกเตาปาลงมือทันที สายเชือกเตาปาตรงเข้าไปม้วนดาบเล่มยาวของทหารคนนั้น นางใช้แรงสะบัด ดาบยาวลอยออกไป ตกลงบนหญ้าไม่ไกล
“เจ้าไม่ใช่คนในหมู่บ้านมู่จ้าย เจ้าเป็นคนต้าโจว” ทหารทั้งสองคนดีใจขึ้นมาทันที จับตัวหรือฆ่าคนต้าโจวตาย ฮ่องเต้จะมีรางวัลตอบแทนอย่างงาม
หลีโม่ไม่สิ้นเปลืองเวลาพูดคุยกับพวกเขา ลงมือทันที สายเชือกเตาปาผ่านทะลุทรวงอกทหารคนเตี้ยคนนั้น เปื้อนเลือด แล้วก็ลอยกลับมา
การกระทำนี้ ทำให้ทหารคนตัวสูงตกใจ เขาตะโกนพูดขึ้นว่า “พวกเรา คนของต้าโจว...”
เขายังไม่ทันพูดจบ สายเชือกเตาปาก็เจาะผ่านทะลุคอของเขาแล้ว เขาแทบไม่อยากเชื่อ เบิกตาโต จ้องเพ่งมองดูหลีโม่
เลือดไหลพุ่งออกมาจากตรงคอของเขา หลีโม่ดึงสายเชือกเตาปากลับมา เห็นสะเทือนไปถึงทหารตรงข้ามภูเขาแล้ว กำลังวิ่งมาทางนี้อย่างดุเดือด
หลีโม่หยิบจับดาบของทหารขึ้นมา กรีดนิ้วให้เป็นแผล ป้ายไปที่สายเชือกเตาปา พร้อมพูดว่า “หากเจ้ามีญาณทิพย์ ให้เรียกงูพิษของเจ้าออกมา”
สายเชือกเตาปาเปื้อนไปด้วยเลือดของทหารสองคนนั้น จนแดงไปทั้งตัว แต่พูดไปก็น่าแปลก เลือดพวกนั้นถูกดูดซึมเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่เลือดของหลีโม่ที่ป้ายไปยังอยู่
หลีโม่ไม่ได้วิ่งหนี สายตาประกายแววความเคียดแค้น
นางวิ่งหนีไปไม่พ้น หากงูพิษไม่ออกมา อาศัยเพียงสายเชือกเตาปา นางสามารถรับมือได้สิบกว่าคน แบบนั้น ต่อให้ตัวเองตาย ก็ยังนับว่าเป็นการช่วยแก้แค้นให้กับโหรวเหยาอยู่นิดหนึ่ง มีมารพวกนี้ตายไปเป็นเพื่อน นางพอใจแล้ว
พวกทหารล้อมเข้ามาอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดเต็มไปด้วยแววตาอาฆาต โหดเหี้ยมอำมหิต นางถือสายเชือกเตาปาไว้ในมือ ภายในใจทั้งเกลียดทั้งหวาดกลัว
ไม่มีงูพิษปรากฏ นี่แสดงว่า นางตัวคนเดียวกับสายเชือกเตาปาจะต้องรับมือทหารสามร้อยกว่าคนพวกนี้
“เจ้าเป็นใคร?” ผู้ชายสวมชุดแม่ทัพสีม่วงคนหนึ่งเดินออกมาจากท่ามกลางเหล่าทหาร ดวงตาเฉียบคมเพ่งมองดูหลีโม่ พิจารณาตั้งแต่หัวจรดเท้า
เขามองพิจารณาดูหลีโม่ แล้วก็มองดูศพบนพื้น พูดขึ้นอย่างโกรธจัดว่า “เจ้าฆ่าพวกเขา?”
หลีโม่ยืนตัวตรง มองดูเขา รูปร่างหน้าตาของเขาคล้ายฉางฮองเฮา “เจ้าชื่ออะไร?”
“อย่างเจ้าก็กล้ามาถามชื่อของแม่ทัพ? พูดมา เจ้าฆ่าพวกเขาใช่ไหม?” ทหารคนหนึ่งถามขึ้นด้วยเสียงแหลม
หลีโม่หัวเราะ หัวเราะพร้อมพูดขึ้นอย่างประชดประชันว่า “นี่ยังไม่เห็นชัดเจนอีกหรือ? ไม่ใช่ข้าฆ่าพวกเขา แล้วพวกเขาฆ่าตัวตายหรือ?”
ทหารคนนั้นโกรธมาก กำลังอยากที่จะชักดาบ แม่ทัพชุดม่วงคนนั้นกลับยื่นมือมาห้ามไว้ สายตาเป็นประกายเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ และก็มีความตื่นเต้นแฝงอยู่ด้วย หากเป็นพระชายาซื่อเจิ้ง งั้นก็จะดีมากเลย จะได้ไม่เสียทีที่พี่สาวคอยสนับสนุน นี่จะถือเป็นการได้ผลงานชิ้นใหญ่
“เจ้าเป็นใคร?” เขาถาม
หลีโม่ไม่ตอบ แต่กลับถามเขาว่า “แล้วเจ้าเป็นใคร?”
แม่ทัพชุดม่วงพูดว่า “ข้าชื่อฉาวเล่อ”
“ฉาวจี๋เป็นอะไรกับเจ้า?” หลีโม่เอียงหัว แล้วก็หัวเราะออกมา เสียงหัวเราะหวานหูมาก หวานเหมือนกระดิ่งลม
“เจ้ารู้จักพี่ใหญ่ของข้า?” ฉาวเล่ออึ้งไปแปบหนึ่ง
ฉาวเล่อโบกมือ บ่งบอกให้พวกทหารถอยออกไป
พวกทหารอึ้ง ยังคิดว่าฉาวเล่อหลงใหลในความสวยของผู้หญิงคนนี้ จึงรีบพูดขึ้นว่า “ไต้เท้า ผู้หญิงคนนี้จะต้องเป็นคนในหมู่บ้านมู่จ้ายแน่ จะต้องฆ่านางทิ้ง”
ฉาวเล่อส่ายหัว น้ำเสียงเฉียบคม “นางไม่ใช่คนในหมู่บ้านมู่จ้าย พวกเจ้าไม่รู้จักนางหรือ? นางเคยเข้าวัง เคยเข้าเฝ้าฮ่องเต้กับฮองเฮา พวกเจ้าต่างก็เคยทำงานในวัง ไม่มีใครจำนางได้สักคน?”
ทุกคนได้ฟังเช่นนี้แล้ว ต่างก็มองดูหลีโม่
เพียงแต่ คนมากมายขนาดนี้ ต่างก็ไม่เคยเห็นหลีโม่ คนที่เคยเห็นนาง ก็แค่เพียงไม่กี่คน วันนั้นหลีโม่สวมชุดหรูหราสง่างาม สูงส่งงดงาม ท่าทางมีน้ำใจ พวกเขาครุ่นคิดอยู่ตั้งนาน ในที่สุดก็จำผู้หญิงหัวเทาหน้าตามอมแมมตรงหน้าคนนี้ก็คือพระชายาซื่อเจิ้งที่เข้าวังมาพร้อมกับอ๋องซื่อเจิ้งของต้าโจว
“เจ้าเป็นเสี้ยหลีโม่พระชายาซื่อเจิ้งประเทศต้าโจว” มีคนจำได้แล้ว ตะโกนพูดเสียงดัง
พวกทหารที่ได้ยินต่างก็อึ้ง พระชายาซื่อเจิ้งประเทศต้าโจว? นาง? เห็นแล้วเหมือนตรงไหน?
แต่ไม่ว่าจะเหมือนหรือไม่ หากเป็นนาง งั้นพวกเขาก็ถือว่าได้ผลงานใหญ่แล้ว
ทันใดนั้นพวกทหารต่างก็ตื่นเต้นกันขึ้นมาทันที พวกเขาใช้สายตาที่มีเลือดฝาดมองดูหลีโม่ อย่างดุร้ายและตื่นเต้นราวกับหมาป่าหิวโหยที่เห็นอาหาร
หลีโม่หัวเราะเย้ย กำลังจะพูดอะไร กลับเห็นภูเขาตรงข้าม ปรากฏเงาของคนหลายคนขึ้นมาทันใด ถึงแม้หลีโม่จะไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่กลับมองจากท่าทางการวิ่งแล้วสามารถรู้ได้ว่าเป็นพวกเย็นเอ๋อร์กับหลิ่วหลิ่ว คิดว่าคงเป็นเพราะทหารคนเมื่อกี้ตะโกน ทำให้พวกหลิ่วหลิ่วที่ซ่อนตัวอยู่ได้ยินเข้าแล้ว
ในใจนางหวาดกลัวขึ้นมาทันที หากนางคนเดียวยังดี ถึงแม้สายเชือกเตาปาจะไม่ได้เรียกงูพิษออกมา ลำพังปกป้องนาง ยังสามารถยื้อเวลาได้ถึงตอนที่ฉินโจวมา
แต่หากพวกเขาออกมา ทหารสามร้อยคน เพียงแปบเดียวก็จะสามารถหั่นพวกเขากลายเป็นเนื้อแน่ สายเชือกเตาปาไม่สามารถช่วยได้ทั้งหมด
นางไม่กล้าหันไปมองอีก กลัวว่าพวกเขาจะมองตามสายตานางไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...