บทที่ 620 ทหารช่วยเหลือ
หลีโม่มองดูฉาวเล่อ ขาฉาวเล่อขาดไปแล้วข้างหนึ่ง เลือดไหลนองเต็มพื้น จะตายหรือไม่ไม่รู้ แต่อย่างน้อยเขาก็ต่อสู้ไม่ได้แล้ว
“ฆ่านาง” ฉาวเล่อตะโกนออกคำสั่งอย่างโกรธจัด
ถึงแม้งูจะเคลื่อนไหวได้ว่องไว แต่พวกทหารก็รู้จักป้องกัน ฟาดฟันฆ่าทำลายอย่างสิ้นเชิง และคนที่นำน้ำมันก๊าดก็เทน้ำมันก๊าดลงบนพื้นแล้วจุดไฟ ทำให้งูต่างก็กลัวจนถอยหนี
ทหารที่รอดพ้นจากอันตราย ต่างก็มาไล่ตามหลีโม่
หลีโม่จึงต้องปล่อยสายเชือกเตาปาออกไปอีกครั้ง ตัวเองถือมีดสั้นคอยปกป้องตัวเอง แต่นางรู้ว่าตัวเองฆ่าคนได้เพียงไม่กี่คน วันนี้คงต้องตายอยู่ที่นี่แน่
ภายในใจโศกเศร้าเสียใจ ก่อนตาย ก็ไม่สามารถได้เห็นหน้าไอ้เจ็ดเป็นครั้งสุดท้าย
ในขณะที่กำลังหมดหวัง นางได้ยินเสียงเกือกม้าดังกึกก้องมา
และในทันใดนั้น ก็มีลูกธนูลอยมาดั่งฝน ทหารที่โจมตีเข้ามา ต่างก็ถูกลูกธนูทำร้าย
หลายคนที่ล้อมรอบหลีโม่อยู่นั้น ก็ถูกสายเชือกเตาปากลับมาจัดการ
หลีโม่รีบหันไปมอง เห็นกลุ่มทหารม้าอยู่บนเนินเขา ผู้นำกองกำลังคือฉินโจว
“ฉินโจว” หลีโม่ดีใจมาก รีบวิ่งไปอย่างสุดชีวิต แต่ก็ยังมีทหารไล่ตามมา
ฉินโจวควบม้าบินลอยมา ลมพัดชายเสื้อคลุมของนางปลิวไหว สีหน้านางเยือกเย็น เหมือนดั่งยมทูตมาจากนรก นางขี่อยู่บนหลังม้า ดึงคันธนู ทหารด้านข้างหลีโม่ต่างก็ถูกธนูยิงล้มลงพื้น
หลีโม่ก็ล้มลง นางวิ่งไม่ไหวแล้ว ระยะเวลาในการฝังเข็มหมดฤทธิ์แล้ว บาดแผลเก่าบาดแผลใหม่ เจ็บปวดจนนางต้องกัดฟัน หมดสิ้นเรี่ยวแรงสุดท้ายของนาง
ฉินโจวรีบมาอย่างรวดเร็ว พลิกตัวโดดลงม้า ใบหน้าที่วิตกกังวลขยับเคลื่อนไหวอยู่บนหน้าผากหลีโม่ “เสี้ยหลีโม่ เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?”
หลีโม่หมดสติ สลบไปแล้ว
ฉินโจวกลับตกใจจนแทบขาดใจ ยื่นมือไปที่จมูกของหลีโม่อย่างสั่นเทา รู้สึกได้ถึงยังมีลมหายใจ ค่อยโล่งอก
การต่อสู้ในเวลาต่อมา หลีโม่ก็ไม่รู้เรื่องแล้ว
หลังจากที่ตื่นมาแล้วฉินโจวบอกว่านางสลบไปสองวัน ฝั่งศัตรูถูกสังหารหมดสิ้น ส่วนสามร้อยคนที่หนีกระจัดการจายไป ก็ตามหามาได้หมดแล้ว
หลีโม่โล่งอก กลับคิดถึงการตายของโหรวเหยา ในใจก็ทุกข์ทรมานขึ้นมาอีก
“ที่นี่ที่ไหน?” หลีโม่มองดูห้องในบ้านหลังนี้ แล้วถาม
“เมืองอาวุธ” ฉินโจวมองดูนางแว๊บหนึ่ง แล้วก็พูดอีกว่า “ที่นี่เป็นบ้านของตระกูลฉินในเมืองอาวุธ เจ้าวางใจได้ ด้านนอกวางกำลังทหารไว้อย่างแน่นหนา ไม่มีใครสามารถบุกเข้ามาได้”
“ข้าวางใจอยู่แล้ว” หลีโม่อยากลุกขึ้นนั่ง ฉินโจวกดไหล่นางไว้ “เจ้ายังเดินเหินไม่ได้ นอนก่อนเถอะ”
“หลิ่วหลิ่วกับหลิงลี่ต่างก็ได้รับบาดเจ็บ พวกนางเป็นอย่างไรบ้าง?”
“พวกนางสองคนกำลังรักษาบาดแผลอยู่ ส่วนสาวใช้คนนั้นของเจ้ากับมามา เฝ้าเจ้ามาสองวันแล้ว ข้าเพิ่งไล่พวกนางไปพัก” ฉินโจวพูด
หลีโม่พูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “ขอบใจเจ้านะ”
วันนี้ฉินโจวสวมเสื้อคลุมงูเหลือมสีดำ นี่เป็นชุดเครื่องแบบประจำตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ของนาง วงแขนกว้างปกคอประสานกัน ขอบตั้งแต่หน้าอกไปจนถึงชายขอบประดับไปด้วยสีทอง เย็บปักได้อย่างประณีตสวยงาม
ผมรวบมัดเกล้าไว้ แต่งตัวอร่ามวิจิตรสวยงามเช่นนี้ทำให้รู้สึกว่าเป็นผู้ชายที่หล่อเหลา
“ใช่” อยู่ๆฉินโจวก็พูดขึ้นมาว่า “เจ้าเมืองโหรวเหยาอาจจะยังไม่ตาย”
หลีโม่รีบเงยหัวขึ้น “เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”
“ข้าถามหลิงลี่ นางบอกว่าตอนที่เกิดเรื่อง เดิมทีเจ้าเมืองโหรวเหยาหนีออกไปแล้ว หลังมาเห็นอาโม่สองพ่อลูกถูกทหารจับตัวไป นางจึงวิ่งกลับไปช่วย ทหารทำร้ายนาง แต่ยังไม่ตาย แต่คว้าข้าวของของนางไป ต่อมาจิ่งมาถึง ฆ่าทหารนั่นตาย แล้วพาโหรวเหยาหนีไปแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...