พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 642

สรุปบท บทที่ 642 ต้องเป็นฝ่ายเริ่มลงมือก่อน: พิษรักองค์ชายโฉมงาม

บทที่ 642 ต้องเป็นฝ่ายเริ่มลงมือก่อน – ตอนที่ต้องอ่านของ พิษรักองค์ชายโฉมงาม

ตอนนี้ของ พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 642 ต้องเป็นฝ่ายเริ่มลงมือก่อน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 642 ต้องเป็นฝ่ายเริ่มลงมือก่อน

ในระหว่างที่กำลังพูดคุยอยู่นั้นเอง หลิงลี่ก็ได้เข้ามายังห้องโถงใหญ่ พยักหน้าลงเล็กน้อยให้กับหลีโม่

หยางมามาเดินขึ้นมาพูดว่า “พระชายา ในเมื่อไม่ยอมรับ ก็ไปค้นหาตามแต่ละบ้านเลยดีกว่า พอถึงเวลานั้น ก็ให้ไปพูดต่อหน้าของที่ขโมยไป”

หลีโม่กล่าวว่า “เช่นนั้นก็ดี พูดเปล่าๆ โดยไม่มีหลักฐาน กลัวว่าจะเป็นการใส่ร้ายแต่ทุกท่าน ในเมื่อ พวกเจ้าได้รับคำสั่งจากตำหนัก ข้าเองจะว่าร้ายให้พวกเจ้าก็คงไม่ได้”

เหลียงมามาพลันก็รู้สึกตื่นตัวขึ้น ครึ่งตัวของนางเอนพิงอยู่ที่ร่างของหวงมามา แต่กลับยังเลิกคิ้วขึ้น “ข้าน้อยคิดว่าไม่จำเป็น ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วพระชายาเชิญรับสั่งมาก่อนเถอะว่าทำสิ่งของอะไรหาย?พวกข้าน้อยจะไปหาดูให้ทั่ว บางทีอาจจะหากลับมาได้”

หยางมามาเดินออกมา พูดขึ้นว่า “พระชายาทรงทำสร้อยข้อมือสีแดงปะการังหาย สร้อยลูกปะคำไม้กฤษณา ปิ่นปักผมหยกฝังอัญมณีสองชิ้น ปิ่นปักผมชิ้นหนึ่ง กำไลหยกสองชิ้น”

เหลียงมามาพูดขึ้นว่า “ก็ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าน้อยจะไปหากันให้ทั่ว ”

ในใจของนางมีลางสังหรณ์ ว่าของเหล่านี้จะต้องอยู่ในห้องของพวกนาง พระชายาคิดอยากจะโยนความผิดของตัวเองไปให้คนอื่น หลีโม่เองก็ไม่ได้คัดค้าน พูดขึ้นว่า “หลิงลี่ ตามพวกนางไปหาให้ทั่ว หากหาไม่เจอละก็ ก็ให้ค้นแต่ละห้อง”

“เพคะ!” หลิงลี่ตอบรับ

เหลียงมามาเห็นเข้าดังนั้นแล้วก็ได้กำชับให้หญิงรับใช้นางหนึ่งติดตามพวกนางไปด้วย ถึงจะได้วางใจได้ เมื่อคิดว่าพวกนางมีคนตั้งมากมายขนาดนี้ จะทำอะไรกับหญิงรับใช้คนนึงไม่ได้หรือไง?

หลีโม่จ้องมองดูพวกนางที่พากันออกไป ที่มุมปากก็ฉีกรอยยิ้มจาง ๆ ขึ้น แล้วก็ยกชาขึ้น แล้วถามว่า “อาหารเสร็จหรือยัง?”“พระชายา เสร็จตั้งนานแล้วเพคะ รอให้พระองค์มีเวลาเสวยก็เท่านั้น” หวังจุ้นพูดแล้วพลางยิ้มไปด้วย

“หิวแล้ว รีบยกมาเสีย”หลี่โม่เบิกตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

กินอิ่มแล้ว ถึงจะมีแรงไปสู้รบกับฮองไทเฮาต่อ

ฮองไทเฮาเรียกให้คนทั้งแปดคนนี้มา นับว่าเป็นการสำแดงอำนาจให้เห็น ยังไม่ทันได้พบตัวเป็น ๆ ก็ได้ยินเสียงร่ำลือ ช่างเขย่าขวัญสั่นประสาทยิ่งนัก

นางก็ต้องเขียนเสือให้วัวกลัวเป็นการกำราบ จากนั้นก็ค่อย ๆ ส่งให้กลับไป

สถานที่ในแคว้นเป่ยม่อมีอากาศหนาวเย็น พวกอาหารต่าง ๆ ถึงได้ใส่พริก ถึงแม้ว่าหลีโม่จะพูดว่าชอบกินเผ็ด ก็ยังเลือกกินบ้าง แต่ว่าถ้าจะให้ทุกมื้อต้องเผ็ดท้องไส้ก็จะพลอยรับไม่ไหว

บัดนี้เมื่อได้กลับมากินอาหารที่บ้าน ก็รู้สึกพึงพอใจมากกว่าอะไรทั้งนั้น

ความต้องการของคน ก็ไม่ได้เยอะเท่าไหร่

ในตอนที่กำลังกิน หลิงลี่ก็พาคนกลับมา เพียงแค่ครั้งนี้เท่านั้น ที่เหล่าบรรดาหญิงมีอายุพวกนี้บนใบหน้ามีรอยนิ้วมือประทับ

หลิงลี่ออกแรงผลัก ลักษณะก็เหมือนกับไพ่นกกระจอกที่ถูกล้มลง หลิงลี่ตะโกนออกมา “คุกเข่าลง!”

เหลียงมามาคุกเข่าลง แต่นางได้เงยหน้าที่เต็มไปด้วยความคั่งแค้นดูไม่จืด พร้อมพูดว่า “พระชายาจำต้องล้อข้าน้อยเล่นเช่นนี้หรือ?ถ้าจะต้องจัดการ พระองค์เป็นพระชายา ถึงแม้ต่อให้จัดการ เรียกให้พวกข้าน้อยไปตายเสีย พวกข้าก็หาได้กล้าไปไม่ จัดฉากเยี่ยงนี้ขึ้น ช่างเป็นเรื่องตลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”

หลิงลี่เอาเท้าเหยียบเข้าไป พูดด้วยความชิงชังว่า “ขโมยเอาของไปเจ้ายังกล้ามากำเริบเสิบสานอีกรึ?ของพวกนี้ ล้วนแล้วแต่ค้นเจอจากใต้เตียงของพวกเจ้า พระชายาเพิ่งเสด็จกลับมาถึงตำหนัก แม้กระทั่งว่าเรื่องที่พวกเจ้าอยู่ที่ไหนก็ยังไม่รู้ จะไปใส่ร้ายพวกเจ้าได้อย่างไร?เป็นถึงทาสรับใช้ในตำหนัก เมื่อครู่ตัวเจ้าเองก็ไม่ได้เห็นหรอกหรือว่ามันอยู่ที่นี่?”

เหลียงมามาที่โดนหลิงลี่เหยียบเข้าให้ ในจังหวะนั้นก็ได้กุมท้องแล้วกลิ้งตัวอยู่บนพื้น ร่ำร้องด้วยเสียงดังลั่น “ไทเฮา ข้าน้อยละอายต่อพระองค์ พระองค์ให้ข้าน้อยมาดูแลรับใช้พระชายา แต่ข้าน้อยทำให้พระชายาชอบไม่ได้ เป็นความผิดของข้าน้อย! ” หลิงลี่แสดงความเหี้ยมโหด ทรุดกายยองตัวลงแล้วก็ตบนางเข้าไปอีกหลายที “ร้องไห้ ต่อให้เจ้าร้องไห้ ดูซิว่าฮองไทเฮาจะมาช่วยเจ้าได้ไหม?ข้าไม่เชื่อ ว่าฮองไทเฮาจะมาเอาเรื่องเอาราวกับพระชายาเพื่อสุนัขรับใช้เยี่ยงเจ้า”

เหลียงมามาที่โดนตบเสียจนมึนหัวไปหมด นอนแผ่หลาลงบนพื้น แล้วก็สลบไป

หลิงลี่มีหรือจะปล่อยนางไป?มือข้างหนึ่งกระชากผมนางขึ้นมา “แกล้งสลบ?ป้าของเจ้าและตัวข้าผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายปี มีหรือที่ข้ารับใช้แก่ ๆ อย่างเจ้าที่หมกตัวอยู่ในวังจะมาปิดบังข้าได้?”

“เจ้าเรียกให้เขามาสักหน่อย ทรัพย์สมบัติของตำหนักนี้จะให้ไปตกอยู่ในมือคนอื่นไม่ได้ เมื่อก่อนมีเรื่องราวมากมาย ดูแลไม่ทั่วถึง อีกทั้งเมื่อตอนที่คนนั้นอยู่ ควบคุมทุกอย่างเอาไว้ ข้ายื่นมือเข้ามาไม่ใช่เรื่องง่าย บัดนี้ถึงเวลาที่จะตัดมาจัดการให้เรียบร้อย”

หยางมามาได้เรียกให้ หวังจุ้น เข้ามา เขาเป็นผู้จัดการดูแลในตำหนัก อยู่ในตำหนักมาหลายปี ก่อนหน้านี้กุ้ยไท่เฟยอยู่ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าไหร่ ต่อมาคนของกุ้ยไท่เฟยล้วนขายออกไปหมด ก็เลยได้ยกย่องเขาเข้ามา

“กราบทูลพระชายา ลานจวงจือทั้งสี่ที่นั้นเมื่อรวมที่เข้าไปอีกหกพันกว่าแปลง ในนั้นมีที่อุดมสมบูรณ์อีกสามพันกว่าแปลง รวมถึงที่ดินของกุ้ยไท่เฟยก็อยู่ที่นี่ เดิมทีไม่ได้มีเพียงเท่านี้ แต่ว่าหลายปีมานี้กุ้ยไท่เฟยปิดบังท่านอ๋องแอบขายออกไปเจ็ดร้อยกว่าแปลง บัญชีเมื่อครั้งก่อนก็อยู่ในกำมือของนาง เมื่อได้ตบแต่งเอาตำหนักหลังมาแล้วก็ล้วนจัดแจงเรื่องในตำหนัก บัญชีได้เอาส่งคืนมาแล้ว แต่ผู้ดูแลก็ยังเป็นคนที่กุ้ยไท่เฟยไว้ใจได้ อีกทั้งพระชายาเองก็ไม่เคยได้ถามถึงเรื่องภายในลานจวงจือ ในระหว่างนั้น เกรงว่าจะมีคนตักตวงเอาผลประโยชน์ไปตั้งเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ”

หลีโม่นิ่งเฉย “ตักตวงผลประโยชน์ หวังว่าจะมีคนมารับมือกับข้าอย่างแน่ ๆ หาไม่เช่นนั้นแล้วข้าจะหาบัญชีไม่ได้”

นางคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็พูดกับหวังจุ้นว่า “บัดนี้กุ้ยหยวนอยู่ในลานจวงจือ เจ้าเอาเรื่องนี้ไปบอกต่อ บอกว่าข้าจะเอาเขากลับมา แต่ต้องรอให้หลังจากนี้ไม่กี่วันไปก่อน ให้เขาได้เข้าใจเรื่องราวภายในลานจวงจือสักหน่อย”

“พะย่ะค่ะ!”หวังจุ้นตอบรับ

สั่งหวังจุ้นไปแล้ว หลีโม่พลางก็ครุ่นคิดถึงเรื่องในวันพรุ่งที่ต้องเข้าวังไปถวายความเคารพ

เรื่องนี้ยังคิดไม่ทันได้ความ พลันก็เห็นเย็นเอ๋อร์รีบสาวเท้าเข้ามา “พระชายา องค์หญิงเสด็จแล้ว”

หลีโม่ถอนหายใจ “วันนี้ที่ตำหนักนี่มันช่างวุ่นวายเสียจริง”

ถึงแม้ว่าพูดแบบนี้ออกไป แต่กลับรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ก็ในเมื่อไม่ได้เจอกับซือถูจิ้งมาเป็นเวลานานแล้ว

ไม่ได้มีแค่ซือถูจิ้งที่มาเพียงคนเดียว ยังพาหูฮวนซีให้มาด้วย

เนื่องจากเรื่องทุกข์โศกของฮองไทเฮายังไม่ทันได้ผ่านพ้นไป ดังนั้นซือถูจิ้งถึงสวมใส่ชุดเรียบ ๆทว่าหรูหรา รวบผมขึ้นเอาไว้ แล้วยึดเอาไว้ด้วยปิ่นเงินประดับด้วยหยก นางสวมใส่ไว้ด้วยชุดกระโปรงลายพระจันทร์เมฆสีครึ้ม ที่เอวผูกเอาไว้ด้วยเครื่องประดับสีฟ้าอ่อน สีดำที่อยู่บนพื้นรองเท้าผ้าสีขาวผลุบ ๆ โผล่ ๆ ออกมาจากชายกระโปรง ใบหน้าผุดผาดมีเลือดฝาด เป็นสีชมพูเปล่งปลั่ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม