พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 666

ตอนที่ 666 ข้าเชื่อในตัวเขา

หลังจากฉินเหลาไท่ไท่กลับไปที่จวน นางก็จะคอยจับตาความเคลื่อนไหวของสิงปู้ตลอด นางมั่นใจว่า เพื่อให้นางลดโทษให้ฉินโจว จะต้องทุกวิถีทางแน่นอน

เพราะ ตอนนี้ฉินโจวคิดว่า ใต้หล้านี้มันสงบมาก

เด็กคนนั้น ในหลายปีที่ผ่านมาถือเป็นผู้เสียสละของตระกูลฉิน ต่อให้ต้องสละชีวิตในท้ายที่สุด ก็ถือว่าทำเพื่อตระกูลฉินแล้ว

แต่ว่า นางรอถึงสองวัน ก็ยังไม่มีข่าวอะไรเลย

นางเริ่มร้อนใจ เพราะ วันมะรืนก็จะเริ่มการไต่สวนแล้ว ตอนที่ไต่สวน หากฉินโจวเห็นว่านางไม่ได้รับโทษแทน ในใจของนางจะคิดยังไงนะ?

นางจะเปลี่ยนความตั้งใจเดิมไหม?

ถึงแม้นางจะร้อนใจ แต่ก็ไม่ได้แสดงออก

“ท่านแม่ ท่านแน่ใจนะว่า ฉินโจว จะฆ่าตัวตาย?” แม่ทัพฉินทนไม่ไหว เหมือนเริ่มไม่สบายใจ

“ไม่ต้องกังวล นางเป็นคนกตัญญู”

ฉินเหลาไท่ไท่นิ่ง มองไปที่ลูกชายอย่างไม่พอใจ “ว่าแต่เจ้าเถอะ ก่อนหน้านี้เจ้าไม่ควรพูดกับนางเยอะแบบนั้น ที่ว่าต้องเสียสละเพื่อครอบครัววงศ์ตระกูลอะไรนั่น มันจะทำให้นางรู้สึกไม่เคารพตระกูลขึ้นมา”

แม่ทัพฉินพูดว่า “นี่มันเกี่ยวข้องกับชะตาชีวิตของตระกูลฉิน นางน่าจะเข้าใจดี อีกทั้งน่าจะยอมรับได้ ต่อให้เปลี่ยนเป็นลูกชาย ลูกชายก็ต้องเสียสละชีวิตไปโดยไม่ลังเลอยู่ดี”

“นั่นมันเจ้า อย่าเอาความคิดของตัวเองไปยัดเยียดให้คนอื่น ฉินโจว เก่งกว่าเจ้ามากแค่ไหน อีกทั้งนางยังร้ายกาจกว่าบรรพบุรุษของเราแทบทุกคนด้วย คิดว่าจะบังคับอะไรนางได้หรือยังไง เป็นเพราะข้าอบรมสั่งสอนมาดี หากเป็นคนอื่น มีอำนาจมากขนาดนี้ก่อกบฏไปนานแล้ว”

แม่ทัพฉินถอนหายใจ “หากนางเป็นผู้ชาย เป่ยม่อ ก็ถือว่าเป็นของตระกูลฉิน ......ไม่ ไม่สิ” เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจังขึ้นมา “ท่านแม่ ต่อให้นางไม่ใช่ผู้ชาย แต่ว่าในมือของนางมีอำนาจการทหารอยู่ หากนางก่อกบฏ บัลลังก์ก็เป็นของตระกูลเราไม่ใช่เหรอ?”

ฉินเหลาไท่ไท่หน้าถอดสี เหมือนถูกอะไรทุบลงมามที่หัวนางด่าว่า “พูดเหลวไหลอะไรกัน? บรรพบุรุษของตระกูลฉิน ไม่มีทางทำเรื่องเลวทรามแบบนั้นแน่อนอน ต่อไปเจ้าอย่าได้พูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก”

แม่ทัพฉินยำเกรงเหลาไท่ไท่มาก เห็นนางโกรธ ก็เริ่มกลัว แต่ก็อดพูดไม่ได้ว่า “ต่อให้สนิทแค่ไหน แต่ก็เป็นหลานสายนอก แต่ข้าเป็นลูกชายแท้ ๆ ของท่านนะ ท่านจะคิดเผื่ออนาคตลูกชายคนนี้หน่อยเหรอ?”

“เจ้า ......” ฉินเหลาไท่ไท่โกรธจนอึ้งไป “เจ้านี่มันเลอะเลือนใหญ่แล้วนะ เจ้าคิดว่าใต้หล้านี้มันแค่เนื้อก้อนหนึ่งเหรอ ใครมีความสามารถแย่งชิงไปก็ชิงไป?ท แผ่นดินนี้ตอนนี้แซ่ฉู่ หากสุดท้ายตกมาอยู่ในมือของตระกูลฉิน บรรพชนของตระกูลฉินต้องด่ากราดแล้วแน่ เจ้าคิดอยากเป็นฮ่องเต้จนบ้าไปแล้วหรือยังไง? แม้แต่บรรพบุรุษก็ไม่เอาแล้วว?”

แม่ทัพฉินถูกนางตำหนิ ก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก เพียงแต่ ในใจลึก ๆ เขาคิดแบบนี้ไปแล้ว เขาจะยอมเลิกราได้ยังไงกัน?

โจรกบฏ? ต่อไปหากเขาเป็นฮ่องเต้แล้ว จะมีใครกล้าบอกว่าเขาเป็นโจรกบฏ?

ปีนี้เขาเพิ่งจะอายุหกสิบ หากชิงบัลลังก์มาได้ อย่างน้อยก็ยังเป็นฮ่องเต้ได้อีกสักยี่สิบปี ต่อไปตระกูลฉิน ก็จะเป็นราชวงศ์ในการปกครองที่ถูกต้องสมบูรณ์ บรรพชนก็มีหน้ามีตา

ฉินเหลาไท่ไท่รู้ความคิดของเขาอยู่แล้ว เห็นสีหน้าท่าทางเขาเหมือนตกอยู่ในห้วงความฝัน แล้วตะคอกว่า “ข้าขอเตือนเจ้าไว้ก่อนนะ เจ้าเลิกคิดไปได้เลยนะ วันนี้ข้าสละ ฉินโจว ได้ ก็สละเจ้าได้เหมือนกัน”

แม่ทัพฉินท่าทางจริงจังแล้วพูดว่า “ท่านแม่วางใจได้ ลูกแค่พูดไปอย่างนั้น ไม่กล้าคิดทำเรื่องต่ำทรามแบบนั้นจริง ๆ หรอก”

“อย่างนั้นก็ดี” ฉินเหลาไท่ไท่หงุดหงิดว้าวุ่นใจ “ไป ไปสืบข่าวที่สิบปู้”

“ขอรับ” แม่ทัพฉินขอตัวกลับ

หนานจุ้น จวนอ๋องลั่วชิน

“ท่านอ๋อง องค์หญิงอานเข้ามายังเส้นเขตแดน หนานจุ้น แล้ว”

“อานหราน?” ชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่มีเคราทั่วสีหน้าจริงจัง “แต่ก่อนข้าเชิญนางมา นางไม่เคยมาเลย แต่ทำไมครั้งนี้ถึงมาได้ล่ะ?”

“ข้าน้อยไม่ทราบ เพียงแต่หลังจากที่องค์หญิงอานเข้ามายังเส้นเขตแดน หนานจุ้น กลับถูกลอบสังหารสามครั้ง โชคยังดีที่นางพาองครักษ์ลับมาด้วย ถึงแม้จะได้รับบาดเจ็บนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก” ทหารองครักษ์ตอบ

“ลอบสังหาร?” อ๋องลั่วชิน ลุกขึ้นมา “ใครกันที่จะลอบสังหารนาง? ตรวจสอบรู้หรือยังว่านักฆ่าเป็นใคร?”

“ทูลท่านอ๋อง ถึงแม้เราจะตามนักฆ่าไป แต่ว่าเราก็ไม่รู้เลยว่าพวกนั้นเป็นใคร”

อ๋องลั่วชิน แอบสงสัย “อานหรานไม่เคยมีปัญหากับใคร แล้วใครกันที่คิดจะฆ่านาง?”

เขาโบกมือ “เอาล่ะ เจ้าส่งคนไปรับตัวองค์หญิงมา จะต้องคุ้มครองให้นางปลอดภัย”

“ขอรับ ข้าน้อยขอตัวก่อน” ทหารองครักษ์แล้วออกไป

อ๋องลั่วชิน มองไปที่บัณฑิตที่นั่งอยู่ข้าง ๆ คนหนึ่ง “อาจารย์ ท่านว่าอานหรานมาที่นี่เพราะเหตุใด?”

เขาเป็นผู้ช่วยของ อ๋องลั่วชิน มีชื่อว่า เทียนจีจื่อ

เทียนจีจื่อ ยิ้ม “ท่านอ๋อง เกรงว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับฮ่องเต้”

“ฝ่าบาท? เจ้าหมายถึงเสด็จพี่หรือว่าเจ้าโจรชั่วฉู่โยว่?”

“ไม่น่าจะใช่ฮ่องเต้คังผิง”

อ๋องลั่วชิน “ขอให้เป็นเช่นนั้นเถอะ”

เทียนจีจื่อ พูดว่า “ในการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้องค์หญิงอาน ถึงแม้จะไม่ได้เข้าร่วมโดยตรง แต่ว่านางก็ยินดีมากที่ฮ่องเต้คังผิงขึ้นครองราชย์ นั่นก็หมายความว่า องค์หญิงน่าจะได้ข่าวมาแล้วว่าฝ่าบาทน่าจะทรงยังไม่ตาย แล้วก็รู้ว่าฝ่าบาทน่าจะทรงส่งจดหมายมาให้ท่านอ๋อง เพื่อให้ท่านอ๋องทรงช่วยเหลือ องค์หญิงน่าจะมาห้ามท่านอ๋อง”

“เหลวไหล” อ๋องลั่วชิน สีหน้าไม่สู้ดี “นางเป็นถึงองค์หญิงเป็นเชื้อพระวงศ์ ได้รับพระกรุณา ทำไมถึงได้ไปช่วยพวกกบฏนั่นล่ะ? แล้วนางมีสิทธิอะไรมาห้ามข้า? คิดว่าข้าจะเชื่อนางเหรอ?”

“ท่านอ๋องอย่าเพิ่งร้อนใจไป” เทียนจีจื่อ ยกน้ำชาขึ้นดื่ม แล้วพูดต่อว่า “องค์หญิงอานเป็นคนทำอะไรรอบคอบ อีกทั้งเป็นคนที่มองการณ์ไกลมาก นางสนับสนุนฮ่องเต้คังผิง แสดงว่านางทบทวนอย่างถี่ถ้วนแล้ว คิดว่า ฝ่าบาทก็น่าจะมีจุดที่ทำให้องค์หญิงอานไม่พอใจแน่ ไม่อย่างนั้น ด้วยความสามารถและอำนาจของนาง ถึงแม้จะไม่สามารถหยุดฉินโจวกับฮ่องเต้คังผิงได้ แต่ก็พอจะทำอะไรได้บ้าง แต่ว่า นางก็ไม่ได้ทำแบบนั้น”

อ๋องลั่วชิน พยักหน้า “อือ ท่านอาจารย์พูดต่อไป”

“องค์หญิงอานสนับสนุนฮ่องเต้คังผิง น่าจะมีอยู่สองเหตุผล ข้อแรก ทนไม่ได้กับการกระทำของฝ่าบาทต่อชาวบ้านผู้ประสบภัย ข้อที่สอง ก็เพราะนโยบายการรบของฝ่าบาท ในหลายปีที่ผ่านมาองค์หญิงอานพยายามผลักดันตัวเองออกจากราชวงศ์ ไม่ยอมรับสิทธิพิเศษขององค์หญิง อยากได้ชีวิตแบบชาวบ้านธรรมดา พยายามสะสมเงินทองมากมาย แต่ว่าเงินทองเหล่านี้ นางใช้ไปกับชาวบ้านทั้งหมด ทำไมนางถึงได้ทำแบบนี้? ท่านอ๋องทรงเข้าใจหรือเปล่า?”

อ๋องลั่วชิน โบกมือ แล้วพูดด้วยความโกรธว่า “นางทำแบบนี้ไร้สาระมาก คิดว่าอยากได้ชื่อเสียงล่ะมั้ง เสด็จพี่ครองราชย์มาจนถึงวันนี้ ถึงแม้จะไม่ใช่ฮ่องเต้ที่ดีนัก แต่ว่า แต่อย่างน้อยเขาก็ดีกับชาวบ้านมาก ส่วนข่าวลือด้านนอก ที่บอกว่าสังหารชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ มันก็เป็นคนปล่อยข่าวมาจากต้าโจว ซือถูเย้นของต้าโจวคิดร้าย ฉินโจวกับฉู่โยว่ทะเยอทะยาน คำพูดของพวกเขา ท่านอ๋องจะเชื่อไม่ได้”

เทียนจีจื่อ ถอนหายใจ “ท่านอ๋อง ชาวต้าโจวมาอยู่ในเป่ยม่อ ไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากมาย เรื่องนี้อาจเป็นไปอย่างที่ภายนอกที่เขาลือกัน แต่ว่า ฝ่าบาทอาจจะทำผิดต่อชาวบ้านผู้ประสบภัยจริงก็ได้”

“ข้าไม่เชื่อ” อ๋องลั่วชิน ส่ายหน้า สีหน้าของเขาไม่พอใจมาก “สิ่งที่ท่านพูดในวันนี้ เหลวไหลเกินไป มันผิดกับความฉลาดที่ท่านมีเลยนะ ดูท่าทางแล้ว ข่าวลือพวกนั้นมีผลกระทบไม่น้อยเลย เมืองหลวงอยู่ห่าง หนานจุ้น เป็นร้อยลี้ ข่าวลือนั่นมาไกลถึงที่นี่ มันเพี้ยนจากความเป็นจริงไปมาก อีกทั้งตามข่าวลือ เสด็จพี่เองก็ได้ช่วยผู้ประสบภัยเต็มที่แล้ว ข้าเชื่อใจเขา เขาเป็นคนตรงไปตรงมานะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม