พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 686

บทที่ 686 เจ้าเป็นปีศาจ

ตอนกลางคืนเวลาเที่ยงคืน เทียนจีจื่อมาที่จาวเหวินก่วน และส่งโหรวเหยากับจิ่งมาด้วยตัวเอง

โหรวเหยาเห็นซือถูเย้น ก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ขึ้นมา

ซือถูเย้นก็นับว่ารู้จักเป็นห่วงน้องสาวคนนี้สักครั้ง พูดปลอกว่า “ไม่ต้องร้อง ปกติก็อัปลักษณ์อยู่แล้ว ยิ่งร้องไห้ก็ยิ่งอัปลักษณ์”

เดิมโหรวเหยากำลังร้องไห้อย่างเจ็บปวด เมื่อฟังคำพูดของเขาแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองดูเขาอย่างเหยียดๆแว้บหนึ่ง “ปลอบคนอื่นเป็นบ้างไหมเนี่ย? ก็คงมีแค่หลีโม่แหละที่ทนกับนิสัยแบบนี้ของเจ้าได้”

“เจ้ากำลังร้องไห้อยู่ หากข้าพูดปลอบแล้วเจ้าจะไม่ร้องไห้หรือ เจ้าไม่ต้องสนใจว่าข้าพูดอะไร ไม่ว่ายังไงได้ผลก็พอ”

ฉินโจวได้เจอจิ่ง ก็รู้สึกดีใจมาก

จิ่งติดตามนางมานานหลายปี หลังจากที่เกิดเรื่องกับเขา ฉินโจวก็เป็นห่วงมาตลอด ตอนนี้เห็นเขาปลอดภัยกลับมา ก็ค่อยวางใจหน่อย

ซือถูเย้นประกาศว่า “เอาล่ะ วันมะรืน พวกเราออกเดินทางกลับประเทศ”

ฉินโจวพูดว่า “แต่ว่า ข้ายังคงไม่ค่อยวางใจฮ่องเต้”

ซือถูเย้นพูดว่า “เจ้าน่ะ เดิมไม่มีความผิด แต่เพราะมีหยกกับตัวจึงมีความผิด ในมือเจ้ากุมอำนาจสั่งการทหาร และมีความผิดฐานฆ่าคน เจ้าอยู่ที่นี่สามารถทำอะไรได้? ก่อกบฏหรือ? กบฏใคร? ปล่อยให้อ๋องลั่วชินไปจัดการไม่ดีหรือ?”

“แต่ ท่านอ๋องก็สามารถช่วยได้บ้างไม่ใช่หรือ?” เทียนจีจื่อพูด

ซือถูเย้นโบกมือ “ไม่ นี่เป็นเรื่องของเป่ยม่อพวกเจ้า พวกเจ้าเป็นคนเป่ยม่อก็ต้องไปจัดการเอง ข้าไม่เกี่ยวข้องยุ่งเกี่ยวกับการเมืองของพวกเจ้า ข้ามาเพื่อสงบศึกของทั้งสองประเทศเท่านั้น”

เป่ยม่อวุ่นวาย นั่นก็เป็นความวุ่นวายภายในของพวกเขา เกี่ยวอะไรกับเขาล่ะ? ต้าโจวยังวุ่นวายยิ่งกว่าอีก

สงบศึกได้ก็พอแล้ว ฉินโจวก็ตกอยู่ในกำมือของเขาแล้ว หนังสือสัญญาสงบศึกนี้ ในที่สุดก็สามารถส่งไปถวายฮ่องเต้ได้เสียที

หากยังไม่สามารถจัดการให้สงบได้ เซียวเซียวคงจะมากัดกินหัวใจเขาแล้ว กว่าที่จะหายดีกลับมา คนอื่นเขายังรอที่จะได้อยู่กับท่านอาเล็ก สุดท้ายกลับเกิดเรื่องราววุ่นวายซ้ำแล้วซ้ำอีก ทำให้เขามีบ้านก็กลับไม่ได้ มีคนรักก็ไม่ได้แต่งงาน มีห้องก็ไม่ได้เข้านอน

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พรุ่งนี้กลับไปเลยก็ได้ไม่ใช่หรือ? ทำไมยังต้องรอถึงวันมะรืนนี้?”

โหรวเหยาอยากที่จะกลับบ้านเต็มทนแล้ว

ซือถูเย้นยิ้มอย่างมีเลศนัย “พรุ่งนี้ อ๋องลั่วชินเข้าวัง บางทีจะมีเรื่องดีๆให้ดู? ในเมื่อมาแล้ว ยังไงก็ต้องได้รู้เรื่องดีๆก่อนค่อยกลับประเทศ”

ไม่อย่างนั้น จะสมกับที่เขาอุตส่าห์วิจัยทดลองดินประสิวกำมะถันตั้งหลายวันนี้อย่างไม่ได้หลับไม่ได้นอนหรือ?

และจะสมที่หลีโม่อุตส่าห์เฝ้าห้องคนเดียวอย่างโดดเดี่ยวตั้งหลายวันหรือ?

ก่อนที่เทียนจีจื่อจะกลับ ซือถูเย้นคิดถึงคำพูดของกาวเฟิ่งเทียน และคิดถึงก่อนหน้านี้ที่กาวเฟิ่งเทียนให้ความช่วยเหลือ จึงพูดขึ้นว่า “น้องชายของเจ้าให้เจ้าไปจุดธูปไหว้ศพท่านพ่อของเจ้า”

สีหน้าเทียนจีจื่อเปลี่ยนเป็นขาวซีดขึ้นมาทันที “ป้ายศพ?”

“เขาตายแล้ว เจ้าไม่รู้หรือ?” ซือถูเย้นอึ้ง

เทียนจีจื่อดูตื่นตระหนกตกตะลึงขึ้นมาทันที ส่ายหัวพูดว่า “ข้าไม่รู้”

“อ่อ” ซือถูเย้นเห็นเขาเสียใจมาก จึงไม่พูดอะไรอีก เขารู้ตัวเองดี การพูดปลอบคนอื่นไม่ใช่สิ่งที่เขาถนัด

มองดูเทียนจีจื่อเดินออกไปอย่างกับท่อนไม้ ซือถูเย้นไม่ค่อยวางใจ จึงพูดกับเซียวโธ่ว่า “เจ้าตามไปส่งเขาหน่อย”

เซียวโธ่รับคำ แล้วก็ตามไป

หลังจากที่ซือถูเย้นกลับห้องแล้ว มองดูฉินโจวแล้วพูดว่า “เจ้าจะไปเจอย่าทวดของเจ้าหน่อยไหม?”

ท่าทีฉินโจวเยือกเย็นขึ้นมาทันที “ต้องไปกราบลาอยู่แล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม