บทที่ 688 ต่างก็พูดเปิดอกกันแล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้น อ๋องลั่วชินก็เข้าวังไปแล้ว
ฮ่องเต้คังผิงไม่ได้ขึ้นว่าราชการตอนเช้า ดังนั้นจึงพบเขาในห้องทรงพระอักษร
ฮ่องเต้คังผิงนั่งอยู่บนเก้าอี้บัลลังก์ สีหน้าขาวซีด ขันทีหลิวซียืนอยู่ด้านข้างฮ่องเต้คังผิง และในขณะเดียวกัน ท่านย่าฉินก็มาแล้ว นั่งอยู่บนเก้าอี้ถ้ายซือด้านข้าง เห็นอ๋องลั่วชินเข้ามา ก็แค่โน้มตัวลงเล็กน้อย ไม่ได้ลุกขึ้นมาทำความเคารพ
อ๋องลั่วชินก้าวเท้าเดินเข้าไป คุกเข่าลง “กระหม่อมฉู่ฉวนถวายพระพรฮ่องเต้”
ฮ่องเต้คังผิงมองดูเขา ดวงตาประกายความเกลียดชัง แตกก็กลับพูดเพียงว่า “เสด็จลุงตามสบาย”
ตั้งแต่ฉินโจวติดคุก เขาก็ไม่เคยได้เจอกับบุคคลภายนอก ทุกอย่างมีฉู่จิ้งคอยจับตามอง กีดกัน เขาจึงต้องทำตามคำสั่งของฉู่จิ้งเท่านั้น
เขายิ่งรู้ว่า อ๋องลั่วชินกับฉู่จิ้งสนิทสนมกันดีแค่ไหน ขอเพียงฉู่จิ้งพูดคำเดียว อ๋องลั่วชินก็จะยอมทำเพื่อเขาทุกอย่างแม้ต้องบุกน้ำลุยไฟ
“เสด็จลุงเดินทางมาลำบากแล้ว เชิญนั่ง” ฮ่องเต้คังผิงพูดอย่างเรียบเฉย
“ขอบพระทัยฮ่องเต้” อ๋องลั่วชินสะบัดชุดคลุม นั่งลงตรงข้ามกับท่านย่าฉิน ยกมือประสานให้ท่านย่าฉิน ท่านย่าฉินก็ยังคงไม่ลุกขึ้น ยังคงแต่โน้มตัวเล็กน้อย
หลังจากที่อ๋องลั่วชินนั่งลงแล้ว มองดูฮ่องเต้คังผิง “ครั้งนี้ที่เสด็จลุงกลับมาเมืองหลวง อย่างแรกก็คือเอามาอวยพรที่ฮ่องเต้ขึ้นของราชย์ อย่างที่สองคืออยากจะขอทวงบุญคุณอย่างหนึ่งจากฮ่องเต้”
ฮ่องเต้คังผิงอมยิ้มอย่างเย็นชาที่มุมปาก “เชิญเสด็จลุงพูด”
ถึงแม้เขาจะไม่รู้ แต่ก็สามารถเดาได้ว่าเมื่อคืนฉู่จิ้งได้เคยไปพบอ๋องลั่วชิน เพราะเมื่อคืนฉู่จิ้งออกจากวังไป ไม่มีจับตามองดูเขาอยู่ข้างกาย
ส่วนที่ว่าบุญคุณนี้ ก็ไม่รู้ว่าทั้งสองคนปรึกษาแผนการอะไรกัน
อ๋องลั่วชินพูดขึ้นว่า “ฮ่องเต้ ค่ะกลับพระชายาไม่มีบุตรร่วมกัน แต่เมื่อก่อนจักรพรรดิองค์เดิมพระราชทานรองพระสนมให้กับข้า รองพระสนมคนนี้มีลูกชายหนึ่งคน ชื่อโห่เอ๋อ ถ้าอยากรับเขาเข้าในทะเบียนหลัก และบันทึกบนตราหยกว่าเป็นบุตรสืบตระกูล”
ฮ่องเต้คังผิงพูดขึ้นว่า “ได้”
นี่เท่ากับว่าต่อไปจะไม่สู่ขอพระชายาอีก เรื่องพวกนี้ เขาไม่สนใจ เป็นเพียงแค่ทำตามความต้องการของคน ยอมไปเถอะก็จบ
อ๋องลั่วชินพูดอย่างโศกเศร้าว่า “ตอนที่พระชายาตาย ในครรภ์กำลังมีลูกอยู่ ถึงลูกคนนี้จะไม่ได้คลอดออกมา แต่ ข้าก็หวังอยากให้ทะเบียนในราชวงศ์มีตำแหน่งของเขาอยู่”
คังผิลเซี่ยนขมวดคิ้ว “แต่ว่า เสด็จลุงยังไม่รู้เลยว่าเด็กคนนี้เป็นหญิงหรือชาย”
อ๋องลั่วชินหัวเราะ มองดูฉู่จิ้ง “หลิวกงกง เจ้าคิดว่าลูกของข้านี้น่าจะเป็นชายหรือหญิง?”
ฉู่จิ้งยิ้มพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋อง เรื่องพวกนี้ จะรู้ได้อย่างไรล่ะ? ยังไง เด็กก็ยังไม่คลอดออกมา”
“ใช่ ยังไม่ได้คลอดออกมา น่าเสียดายจริงๆ” อ๋องลั่วชินมองดูฉู่จิ้งออย่างตั้งใจและไม่ตั้งใจ แน่นอนว่า ไม่สามารถที่จะมองเห็นอะไรภายใต้หนังหน้าปลอมของเขา เพียงแต่ ดวงตาคู่นั้นยังคงมั่นใจยิ่งนัก เหมือนดั่งไม่รู้เรื่องอะไรเลย
ท่านย่าฉินพูดอย่างเรียบเฉยว่า “ท่านอ๋อง ในเมื่อไม่ได้คลอดออกมา แสดงว่าไม่มีวาสนากับท่านอ๋อง ทำไมยังต้องเดือดร้อนอีก?”
นางไม่สบายใจ อ๋องลั่วชินคนนี้พูดเมื่อคืนว่าให้นางเข้าวังมา บอกว่าจะปรึกษาเรื่องแผนการต่อไปนี้ กลับมัวแต่พูดกับฮ่องเต้คังผิงแต่เรื่องไม่มีประโยชน์พวกนี้
“หากไม่มีวาสนา พระชายาก็คงไม่ตั้งครรภ์เด็กคนนี้ เรื่องราวมากมาย ไม่ใช่ลิขิตสวรรค์ แต่เป็นฝีมือคน” อ๋องลั่วชินพูดคำว่าฝีมือคนอย่างหนักแน่น และมองดูฉู่จิ้งอย่างมีเลศนัย
ในใจฉู่จิ้งเต้นกระตุก คิดถึงองค์หญิงอาน ยัยคนนี้ก่อนนับว่าตายยาก ส่งคนไปสังหารตั้งมากมายนางก็ยังสามารถเอาตัวรอดได้
หรือว่า ตอนนั้นนางอยู่ในตำหนักกงเฟยจริงๆ เห็นทุกอย่างแล้วก็ไปเล่าให้ฉู่ฉวนฟัง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...