พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 690

บทที่ 690 ใบหน้าของหลิงลี่

และแล้ว ในขณะที่ซือถูเย้นกำลังจะออกจากเมืองหลวง กลับเห็นอ๋องลั่วชินเปลี่ยนแปลงด้วยความรวดเร็วดุจสายฟ้า สับเปลี่ยนองครักษ์ส่วนใหญ่ออกไปให้หมด

ซือถูเย้นได้ข่าวนี้แล้ว ก็พูดขึ้นว่า “ตอนนี้อยากเห็นใบหน้าของฉู่จิ้งและท่านย่าฉินมากที่สุดเลย”

ไม่มีสีหน้าอะไรดีเลย ฉู่จิ้งแทบจะเป็นบ้าแล้ว มาสับเปลี่ยนคนส่วนใหญ่ของเขาออกไป ตอนนี้มีเพียงคนที่คอยรับใช้ข้างกายของฮ่องเต้คังผิงเท่านั้นที่เป็นคนของเขา

แน่นอนอยู่แล้ว ว่าอ๋องลั่วชินไม่กล้าสับเปลี่ยนคนรับใช้ข้างกายของเขา อย่างน้อยตอนนี้ไม่กล้า กดดันมากเกินไป ไม่กลัวว่าเขาจะไปฆ่าฮ่องเต้คังผิงจริงหรือ?

ระหว่างเดินทางไปแคว้นต้าโจว ซือถูเย้นคุยกับฉินโจวว่า “ครั้งนี้อ๋องลั่วชินสับเปลี่ยนองครักษ์จำนวนมาก ก็เพื่อจะให้เจ้าเดินทางได้สบายใจมาก”

ฉินโจวกลอกตาขาว “คำพูดของเจ้าฟังดูเหมือนว่า ข้ากำลังจะตายแบบนั้นแหละ”

“ใครจะไปรู้ล่ะ? แคว้นต้าโจวก็เป็นเขตอันตรายเหมือนกัน เกรงว่ามีผู้คนไม่น้อยที่รอปลิดชีวิตเจ้าอยู่”

นี่คือความจริง

ฉินโจวยักไหล่ “ในเมื่อเลือกที่จะมาแล้ว เขตอันตราย ก็ต้องเสี่ยงดูสักครั้ง”

ครั้งนี้ฉินโจวไม่ใช่ว่าไม่ได้เตรียมตัวมานะ

สามพันคน ใช้สถานะพ่อค้า เข้าไปในแคว้นต้าโจวก่อนแล้ว นอกจากนี้ นางเองก็ยังมีผู้ติดตามข้างกายร้อยกว่าคน เป็นถึงอ๋องจุ้นคนหนึ่ง จะพาคนติดตามรับใช้ร้อยกว่าคน ก็ไม่ถือว่ามากเกินไป

ท้ายที่สุดแล้ว สถานะของเขาก็เทียบได้กับฮ่องเต้แคว้นเป่ยม่อ แค้วนต้าโจวของเจ้าคงไม่ถึงขนาดว่าจะรองรับจำนวนคนนี้ไม่ได้หรอกมั้ง แม้เพียงคนบึกบึนแข็งแรงร้อยกว่าคน”คนรับใช้ผู้น้อย”ก็รองรับไม่ได้

ดังนั้น ทางด้านฉินโจวที่มีรูปลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่ ซือถูเย้นที่เป็นถึงอ๋องซื่อเจิ้งท่านนี้กลับดูทรุดโทรมมาก

ทหารลับไม่ปรากฏ เตาเหล่าต้าก็ตัดสินใจอยู่ต่อ พาเพียงซูชิง เซียวโธ่ โหรวเหยาและสองสามคนเท่านั้น แต่ก็ได้แสดงออกถึงความที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน เพราะว่า อ๋องฉีได้มอบแพะให้พวกเขาไปหนึ่งฝูง ต้อนมาตลอดทาง

เมื่อเทียบกับศักดิ์ศรีของฉินโจวแล้ว อ๋องซื่อเจิ้งเขาคนนี้ หัวของเขาก็ได้แต่ก้มหัวลงเพียงอย่างเดียว

แต่ก็ช่างเถอะ อย่างน้อยก็กลับประเทศ แต่กลับได้นำหนังสือสันติภาพกลับประเทศด้วย ตลอดทางมีราษฎรไม่น้อยวิ่งตามมา

อยู่ที่นี่ต้องคุยกับเตาเหล่าต้าด้วย เมื่อตอนซือถูกเย้นกำลังจะกลับ เขาร้องห่มร้องไห้ แล้วบอกว่าอยากกลับประเทศ กลับไปอยู่รับใช้ข้างกายพระชายา

ซูชิงบอกเขาอย่างจริงจังว่า ภารกิจครั้งนี้สำคัญมาก หลังจากรับบำเหน็จแล้ว กลับถึงแคว้นต้าโจว อยากกินเนื้ออะไรก็กิน ยังสามารถหาเบคอนสำหรับฤดูหนาวได้

ความสำคัญของการกินอย่างไรก็แข็งแกร่งไร้ที่เปรียบ ได้ยินว่ากินเนื้อได้ไม่เลือก เตาเหล่าต้าที่กำลังคิดถึงบ้านเกิดก็ถูกจิตใจที่อยากจะกินเนื้อครองงำแล้ว

เขาโบกมืออันอ้วนๆของเขา อำลาผู้คนแคว้นต้าโจว

เรื่องแคว้นเป่ยม่อนี้ อย่างน้อยต้องรบกวนเป็นครึ่งปี ก็คือว่า เตาเหล่าต้าอย่างน้อยต้องกักตัวอยู่ที่แคว้นเป่ยม่อครึ่งปี

ในตอนแรกหลงจูจูคิดว่าเขาสามารถกลับแคว้นต้าโจวได้ นางก็ได้ตามไปดูคนในดวงใจ แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าเตาเหล่าต้าจะถูกกักตัวไว้ พูดอย่างไรนางก็ไม่ฟัง สำหรับเขาแล้วก็ไม่ได้เกรงใจเตาเหล่าต้าเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

พยายามคิดหาวิธีมากลั่นแกล้งเขา

อย่างเช่น ปล่อยงูพิษเข้าไปในบ้านของเขา พวกงูพิษทั้งหลายสุดท้ายก็ถูกเตาเหล่าต้าจับมาย่างกินหมด

อย่างเช่น ปล่อยกบเข้าไปในน้ำที่ใช้สำหรับอาบ สุดท้ายกบก็ถูกกินเช่นกัน

อย่างเช่น ขณะเขากำลังกินอาหารอยู่ก็เป่าพริกไทยใส่เขา เตาเหล่าต้าจามเสียงดังก้องฟ้า จามจนน้ำมูกออกมาสองเส้นขนาดใหญ่เท่าเส้นหมี่และพ่นละอองน้ำลายไปทั่ว พ่นเต็มหน้านางไปหมด จามละอองน้ำลายฟุ้งกระจายเต็มฟ้า เสียงผายลมก็ดังก้องฟ้าเช่นกัน ท้องร้องเสียงดังออกมา เขาถีบประตูปิดไว้ ดึงมือของหลงจูจูไว้ไม่ให้นางไป ทำให้นางกลัวจนร้องไห้หนักมาก ร้องไห้ไปด้วยอาเจียนไปด้วย

ตั้งแต่นั้นมา นางก็ปฏิบัติต่อลูกพี่ลูกน้องคนนี้ด้วยความ”จริงใจ”แล้ว อย่างน้อย ก็ไม่กล้าที่จะไปแกล้งเขาแล้ว

และความเย่อหยิ่งจองหองของเตาเหล่าต้าก็เริ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยมากที่เรียกตัวเองว่ากู เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก

หยุดซุบซิบนินทา

และทางด้านอ๋องเหลียงก็จัดเตรียมไว้พร้อมแล้ว รอเพียงซุนฟางเอ้อร์ออกจากวังเพื่อไปไหว้พระที่วัดกั๋วอาน

อ๋องเหลียงก็รู้มาว่า วัดกั๋วอานอยู่ในป่าลึกแห่งหนึ่งที่นอกเมือง สถานที่ค่อนข้างห่างไกล ถึงแม้จะบอกว่ามีบันไดหินสามารถขึ้นไปได้ แต่ ด้านหลังวัดกั๋วอาน เป็นป่าเขาลึกต้นไม้แน่นหนา

หากจะหาพิษอะไร สถานที่แบบนี้มีมากที่สุด ดังนั้น อ๋องเหลียงวางแผนให้หลีโม่รออยู่ในป่าลึก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม