สรุปตอน ตอนที่ 695 แกล้งวางมาด – จากเรื่อง พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง
ตอน ตอนที่ 695 แกล้งวางมาด ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดยนักเขียน ใบไม้แดง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ตอนที่ 695 แกล้งวางมาด
ซุนฟางเอ้อร์มองนางเดินจากไป แล้วก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “คนโง่ๆ ก็ยังมีคนยื่นมีเข้าช่วยเหลือ แล้วใครจะช่วยข้า มีใครคิดจะช่วยข้าบ้าง?”
เดิมทีเสียงของนั้นเบามาก แต่หลีโม่ก็ได้ยินทั้งหมด อาจจะเป็นเพราะในป่ามันเงียบมาก
นางก็เดินออกมา ทำท่าเหมือนไม่ได้ยินอะไร แล้วก็เดินกลับไปพูดว่า “แล้วยังมีอีกเรื่องลืมคุยกับเจ้า ข้าหาโหรวเหยาเจอแล้ว วันพรุ่งนี้หรือมะรืนจะถึงเมืองหลวง”
ซุนฟางเอ้อร์มองนางนิ่งๆ ทำปากขมุบขมิบพูดว่า “จริงหรือ?”
“จริงสิ ไอ้เจ็ดจะพาเขากลับมา” หลีโม่มองนาง เห็นสายตานางตื่นเต้นจนน้ำตาไหล
ซุนฟางเอ้อร์คนนี้ หลีโม่ไม่รู้จะอธิบายความเป็นนางอย่างไรดี ทั้งเห็นแก่ตัว ทั้งน่าสงสาร
“ขอบคุณมาก ขอบคุณ” ซุนฟางเอ้อร์โค้งคำนับพูด
หลีโม่มองนางอยู่ครู่หนึ่ง ก็ไม่พูดอะไร แล้วก็เดินจากไป
อ๋องเหลียงและหลิงลี่เดินออกมา ตามหลังนางกลับไป อ๋องเหลียงถามว่า “นางพูดหรือไม่?”
หลีโม่กล่าว “พูดแล้ว พวกเรารีบไปเก็บของลงเขาก่อน เดี๋ยวคุยกันตอนเดินทาง”
รีบลงเขา แล้วก็เล่าเรื่องที่ซุนฟางเอ้อร์พูดออกมาให้ทั้งสองคนฟัง สุดท้าย ก็พูดประโยคที่ซุนฟางเอ้อร์น้อยใจด้วย
อ๋องเหลียงก็ทำสีหน้าหลายอารมณ์ “จริงๆ แล้วซุนฟางเอ้อร์ก็ไม่ได้ร้ายมาก ไม่เช่นนั้นแม่ของโหรวเหยาก็ยังไม่เป็นห่วงนาง เพียงแต่ ถ้าช่วยนาง พวกเราไม่มีกำลังไปทำ”
หลีโม่รู้ดี ว่าจะช่วยซุนฟางเอ้อร์มันยากกว่าช่วยเสี้ยฮ่าวหรานอีก
แต่ว่า ที่ซุนฟางเอ้อร์พูด ก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวนาง
วันต่อมา อ๋องเหลียงสืบได้ว่าซุนฟางเอ้อร์กลับเข้าวังในตอนบ่าย
หลีโม่ก็รีบเข้าวังตามไป เพราะว่าซุนฟางเอ้อร์ออกวังมาไหว้พระ ตามระเบียบแล้ว หลังจากเข้าวัง จะต้องไปเข้าเฝ้าฮองไทเฮาก่อน
ถ้าไปตอนนี้ด้วยเลย ก็จะได้พบกับซุนฟางเอ้อร์เข้าพอดี
ฮองไทเฮาก็รู้แปลกใจว่าทำไมหลีโม่เข้าวังมา แต่ว่า เมื่อได้ยินคนบอกว่านางเข้ามาทำอะไรนั้น ฮองไทเฮาก็ยิ้ม แล้วพูดกับสาวใช้ข้างๆ ว่า “คนต่างบอกว่าเสี้ยหลีโม่คนนี้ทำงานอะไรก็เป็นระเบียบเรียบร้อย แต่วันนี้เหมือนจะไม่ใช่แบบนั้นเสียแล้ว แสดงว่าก็เป็นคนใจแคบอยู่เหมือนกัน ความอิจฉานี่ไม่เข้าใครออกใครจริงๆ”
“ไทเฮาเหนียงเหนียงจะพบนางไหมเพคะ?” หรูหรงถาม
ฮองไทเฮาพูดเบาๆ ว่า “จะรีบร้อนทำไม? ให้นางรอด้านนอกก่อน ครึ่งชั่วยามค่อยเรียกเข้ามา ให้นางสงบสติอารมณ์ก่อน”
“ทราบเพคะ เพียงแต่ จาวกุ้ยเฟยก็อยู่ด้านนอกเช่นกัน หรือจะให้รอเหมือนกัน?” หรูหรงถามอีก
ฮองไทเฮาหัวเราะออกมา “ยัยบ้ายาพิษนั่น ตอนนี้มีฮ่องเต้คอยหนุนหลัง แกล้งนางไม่ได้ แต่ว่า ให้นางกลับไปเถอะ บอกว่าข้ารู้ความหวังดีของนางแล้ว นางเดินทางมาเหนื่อย ให้นางกลับไปพักเถอะ”
ครู่เดียว นางก็พูดอีกว่า “ตอนที่เจ้าออกไปบอกนาง พูดให้หลีโม่ได้ยินด้วย แกล้งนางนิดหน่อย”
“ทราบเพคะ!” หรูหรงพูดจบ ก็เดินออกไป
ด้านนอกตำหนัก หลีโม่และซุนฟางเอ้อร์รอด้านนอก ตอนที่ทั้งสองเจอหน้ากัน ก็ทำความเคารพกัน ซุนฟางเอ้อร์อาจจะเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทาง ตอนเดินขึ้นบันไดก็เลยเซนิดหน่อย หลีโม่ก็ช่วยพยุงนาง
เพียงแต่ ซุนฟางเอ้อร์เหมือนจะไม่รับความช่วยเหลือจากหลีโม่ หลังจากยืนตรงแล้ว ก็สะบัดมือหลีโม่ออก แล้วหลีโม่ก็ถอยออกมา
แล้วนางก็กลับเข้าตำหนัก ฮองไทเฮาก็กำลังส่องกระจกแต่งตัว และไม่พอใจกับเครื่องสำอาง พอหรูหรงเข้ามา ก็รายงานว่า “เรียนฮองไทเฮา พระชายากลับไปแล้ว”
นางก็รีบเงยหน้าขึ้น แล้วก็ทำหน้าโกรธ “กลับไปแล้วหรือ?”
“ใช่เพคะ ปากยังบอกว่ากลัวจะรบกวนท่าน เห็นได้ชัดว่าไม่อยากรอ” หรูหรงกล่าว
ฮองไทเฮาเอามือตบโต๊ะ จนกระจกสั่นเกือบจะตกลงมา หรูหรงรีบพยุงนางงไว้ “ฮองไทเฮาอย่าทรงกริ้ว”
“จะให้ไม่โมโหได้อย่างไร?” ฮองไทเฮารีบลุกขึ้น “นางช่างกล้าดีนัก ข้าให้นางรอ แต่นางกลับไม่รอ คิดว่าข้าไม่กล้าส่งคนไปอยู่ในจวนอ๋องของนางรึไง?”
หรูหรงกล่าว “วันนี้นางเข้าวังมา บอกว่าจะคุยเรื่องนี้ แต่ว่า ไม่อยากรอ นางช่างวางมาดจริงๆ”
ฮองไทเฮาโกรธมาก ยิ่งคิดยิ่งโกรธ “ดูเหมือนว่า ถ้าข้าไม่สั่งสอนนางหน่อย นางก็คงไม่เห็นหัวข้า”
หรูหรงพูดต่อว่า “ฮองไทเฮาเพคะ พระชายาเสียมารยาทต่อท่าน ตอนที่มาถวายพระพรก็จองหอง ตั้งแต่นางกลับมา ไม่ว่าจะเป็นสนมหรือมิ่งฝู ก็ห่างเหินท่านมาก เหลาไท่จุนตระกูลเฉินก็เหมือนกัน ไม่เคยเข้าวังมาเลย แสดงว่าจะต้องกูกนางไปเป่าหู”
ฮองไทเฮาโมโหหนักกว่าเดิม “ใช่ หลังจากนางกลับมา คนพวกนั้นก็เปลี่ยนไป ยัยแก่ตระกูลเฉินนั่น คิดว่าตัวเองเป็นใคร ถ้าข้าให้ใครเข้าวังมาถวายพระพรก็แสดงว่าข้าชื่นชมคนนั้น แต่นางกลับคิดว่าหลงไทเฮาเชิดชูนาง ก็เลยไม่เห็นหัวข้า นางช่างไม่ดูสถานการณ์บ้างเลยว่า ตอนนี้ในวังหลังใครเป็นใหญ่ ข้าหรือหลงไทเฮา”
หรูหรงถือโอกาสพูดเสี้ยม “ฮองไทเฮาเพคะ ถึงเวลาที่ท่านจะต้องแสดงอำนาจบ้างแล้ว ถ้ายังเป็นเหมือนเมื่อก่อน เกรงว่าจะไม่มีใครเคารพท่าน”
ฮองไทเฮาพยักหน้า แล้วก็ครุ่นคิด “เจ้าไปเรียกหัวหน้าคนดูแลตำหนักนางในมา”
ก่อนหน้านี้อ๋องซื่อเจิ้งเคยจับขุนนางโกงกิน หลังจากพวกนั้นถูกตัดหัว พวกผู้หญิงในตระกูลก็ตกมาเป็นนางใน บางคนไม่ได้ถูกลดเป็นทาส แต่รอเข้าวัง
ไปเลือกมาหลายๆ คน แล้วส่งไปจวนอ๋องซื่อเจิ้ง เพื่อเป็นรางวัลให้แก่ท่านอ๋อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...