พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 706

บทที่ 706 คืนของ

ตอนที่นางอยู่ในภพปัจจุบัน ก็ได้เคยเห็นวิธีการส่งของขวัญอย่างมากมาย

โอนเงินเข้าบัญชี เป็นการกระทำอย่างโจ่งแจ้งมาก

ขนมไหว้พระจันทร์ในวันไหว้พระจันทร์ ในกล่องขนมไหว้พระจันทร์ไม่มีขนมไหว้พระจันทร์ ล้วนเป็นเงิน พวกนี้ ก็ไม่ถือว่าเป็นวิธีการที่แปลก

ส่งบุหรี่ ส่งเหล้า ส่งบัตรซื้อของ ถึงแม้จะดูเป็นการประนีประนอมไปบ้าง แต่ยังไงก็เป็นสิ่งของ ถือเอามาให้เป็นกอง ใครๆก็เห็น

ย่อมก็มีความชำนาญอยู่บ้าง ส่งผู้หญิง ซึ่งผู้หญิงคนนี้ก็จะสวมเครื่องประดับที่มีราคา ทิ้งไว้บนเตียงเจ้าของอย่างไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนั้น เจ้าก็หาผู้หญิงคนนี้ไม่เจออีกแล้ว ทำยังไงดี? จึงก็ต้องรับไว้ใช่ไหมล่ะ? รับไว้ทั้งผู้หญิงทั้งสิ่งของ

เวลาเปิดบริษัท ก็จะให้ภรรยาลูกๆ หรือป้าทั้งสามป้าคนโตทั้งหกต่างก็มีหุ้นส่วน ไม่ต้องลงทุนสักบาท แต่มีส่วนในปันผล ดีใจไหม? หลังจากนั้นก็จะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องงานอะไรทั้งสิ้น ได้ทั้งชื่อเสียงได้ทั้งทรัพย์สิน

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการจัดงานแต่งงานเพื่อรับของขวัญเลย มีบริษัทสนับสนุน ไม่ใช่การส่งมอบของขวัญ

ซื้อบ้าน? ได้ ลดราคา จะลดกี่เปอร์เซ็นต์? แทบจะไม่ต้องจ่ายเงินสักบาท

ซื้อรถ? ได้ เอาไปลองขับก่อน เจ้าไม่เอาแล้วก็เอากลับมาคืน แต่ จะคืนไหม?

ตอนที่หลีโม่ต้องเผชิญหน้ากับ “น้ำใจ” ของขุนนางพวกนี้ ถึงค่อยรู้ซึ้งว่าที่บรรพบุรุษทิ้งเทคนิคในการเก็บของขวัญไว้ คนในปัจจุบันเรียนรู้ไว้ได้ไม่ถือว่ามาก

อย่างเช่น ท่านหลี่เอาแพะย่างมาให้หนึ่งตัว บอกว่าให้พระชายาท่านอ๋องบำรุงร่างกาย พอเปิดออก ข้างในล้วนมีแต่ทอง? ไม่ มันจะตื้นขนาดนี้ได้ยังไง? เป็นแพะย่างจริงๆ เพียงแต่คุณภาพเนื้อค่อนข้างดี เพียงแต่จะกินแพะย่าง ก็ต้องมีน้ำจิ้มใช่ไหม? ในกล่องน้ำจิ้มนั้น ใส่อะไรไว้ล่ะ? ทั้งขาวทั้งเหลือง สว่างไสวจนตาแทบบอด

ไอ๊หยา พระชายา กำแพงจวนของท่านสึกหรอแล้ว ไม่เป็นไร กระหม่อมรู้จักพวกซ่อมกำแพงพอดี จะรีบเรียกมาช่วยท่านซ่อมนะ

สิ่งที่ใช้ไม่ใช่กระเบื้องดิน แต่สิ่งที่ใช้ล้วนเป็นกระเบื้องทอง

พระชายา กระหม่อมเพิ่งได้หนังจิ้งจอกชั้นดีมาพอดี เอามาทำเป็นเสื้อคลุม ท่านดูสง่าผ่าเผย มีเพียงท่านเท่านั้นที่เหมาะสมในการใช้หนังจิ้งจอกขาวบริสุทธิ์นี้ ส่งมาให้แล้ว ก่อนไป ยังชำเลืองมองกระเป๋าเสื้อภายในหนังจิ้งจอก ชั้นในนั้น...คือกระดาษชำระ?

พระชายา ต้นไม้ดอกไม้ภายในจวนของท่าน ดูไม่ค่อยสดชื่นนะ แต่ไม่เป็นไร ก่อนที่กระหม่อมจะมารับราชการ เคยเป็นคนดูแลต้นไม้มานานอยู่หลายปี คอยดูฝีมือของกระหม่อมนะ

หลังจากจัดการเรียบร้อยแล้ว โย้ เจ้าเอาดินดอกอะไรมาหรือ? ถึงได้สามารถออกมาเป็นเครื่องประดับล้ำค่ามากมาย?

หลีโม่เหนื่อยใจมาก สิ่งของพวกนี้ล้วนเป็นสิ่งของที่ดี เพียงแต่ นางรับไว้ไม่ได้ ตอนนี้ไอ้เจ็ด กำลังมีชื่อเสียง นางจะกระทำผิดไม่ได้เลย

นี่คนให้ของขวัญก็มีความคิดสร้างสรรค์ขนาดนี้แล้ว จะคืนของก็ต้องคิดให้รอบคอบ จะทำให้เสียหน้าคนอื่นไม่ได้ และต้องดูเป็นการรักษาน้ำใจคนอื่น

ซือถูเย้นหงุดหงิดเสียอารมณ์อยู่ที่วังเหอสวี้ “ต่างก็รู้ว่าข้าต่อต้านการทุจริต พวกเขายังกล้าส่งเงินทองเครื่องประดับมายังจวน ไม่กลัวข้าตรวจสอบอีกรอบหรือ?”

ซูชิงก็ขี้เกียจอยู่ในจวน ฟังแล้วก็ทำให้เขาโกรธ ตอบอย่างเรียบเฉยว่า “ถึงแม้ตอนนี้เจ้ายังเป็นอ๋องซื่อเจิ้ง แต่ยังไงก็ไม่ได้ว่าราชการแทนแล้ว เมื่อก่อนเจ้าไม่รับ คนอื่นเขาก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้าก็ไม่รับ คนมีไมตรีมากเป็นเรื่องปกติ อีกอย่าง คนอื่นเขาก็ไม่ได้พูดว่าได้สิ่งของมาจากการโกง”

คนที่ยังมีตำแหน่งอยู่ ก็ต้องเอาผลงานออกมาบ้าง จัดการกับการทุจริต ถือเป็นการทำผลงานที่ดีที่สุด

แต่ว่าตอนนี้ท่านไม่ได้ว่าราชการแล้ว หรือว่าก็ไม่ใช้ทรัพย์สินแล้วหรือ? คนอื่นเขามีไมตรี ช่วยชีวิตผู้อื่นด้วยตนเอง คิดว่าท่านอ๋องกว่าจะได้ผลงานกลับมา ถือโอกาสสะสมทรัพย์ไว้บ้างหรือ?

ในโลกนี้ ยังมีคนรังเกียจว่าเงินทองเหม็นหรือ?

ซือถูเย้นเหลือกตาโตมองดูซูชิง “หรือว่ามีคนส่งของให้เจ้าด้วย?”

“จะไม่มีได้อย่างไร? ข้าซูชิงทำไมถึงจะมีคนส่งของมาให้ไม่ได้ล่ะ? อย่างน้อยข้าก็ติดตามอ๋องซื่อเจิ้งไปเป่ยม่อ ต่อสู้เอาความสงบสุขนี้กลับมา” ซูชิงพูดขึ้นอย่างเชื่องช้า

“เอาไปคืนแล้ว?”

“คืนแล้ว” ซูชิงฟุบลงบนโต๊ะ แลดูไม่มีเรี่ยวไม่มีแรง “ดูได้กินไม่ได้ เสียอารมณ์อย่างที่สุด”

“ไป เจ้าจะมาอยู่แต่ในจวนของข้าทำไม?” ซือถูเย้นไล่เขาไป แมลงวันด้านนอกพวกนั้นยังไม่มากพอ เขายังจะมาวุ่นวายอีก

ตั้งใจที่จะไม่ให้เขากับหลีโม่ได้มีชีวิตที่สงบสุข

ซูชิงเงยคางขึ้น มองดูเขาอย่างไม่สนใจไยดี “เย็นเอ๋อร์ล่ะ?”

“ตามหลีโม่อยู่ด้านนอกไง”

“อ่อ หยางมามาล่ะ?”

“ยุ่งอยู่ ในจวนมีงานให้ต้องทำเยอะแยะ”

“แล้วหลิงลี่ล่ะ?”

ซือถูเย้นมองดูเขา ไปหน้าแสดงอาการไม่พอใจ “หรือว่าทีเจ้าไปมาวนเวียนอยู่แต่ในจวนอ๋อง ก็เพื่อจะได้เจอหลิงลี่”

“ไม่ใช่ ไหนๆก็มาแล้ว จึงอยากทักทายก็แค่นั้น”

“หลิงลี่ไปหาไอ้เก้า”

ซูชิงค่อยๆลุกขึ้นยืน “อ่อ งั้นไม่รบกวนเวลาของพวกเจ้าสองสามีภรรยาแล้ว ข้าไปเที่ยวหาอ๋องเย่ดีกว่า”

พูดเสร็จ ก็เหลือทิ้งไว้เพียงเงาแสง คนได้ออกไปอย่างรวดเร็วแล้ว

กว่าหลีโม่จะคืนของพวกนั้นกลับไปจนหมด กลับมาถึงวังเหอสวี้ กลับไม่เห็นซือถูเย้นแล้ว

ถามหวังจุ้น แล้วค่อยรู้ว่าซือถูเย้นเพิ่งออกไป

“ไปไหนแล้ว?” หลีโม่นั่งลง กำลังนวดเท้าอยู่ วันนี้เหนื่อยมากจริงๆ ส่งของคืนไปแล้วตั้งหลายบ้าน

“เรียนพระชายา ไม่ได้บอกไว้” หวังจุ้นตอบ

หลีโม่โบกมือ “อืม รู้แล้ว เจ้ากลับไปเถอะ ข้าพักผ่อนก่อน”

ทุ่มหนึ่งแล้วซือถูเย้นค่อยกลับมา

เข้าประตูมาก็พูดกับหลีโม่ว่า “หาคนที่เหมาะสมได้แล้ว”

“ใคร?” หลีโม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร หลายวันมานี้ สองคนต่างก็กำลังคิดหาคนที่เหมาะสม

“ไอ้อ้วน”

“องค์ชายสาม?” หลีโม่อึ้ง

ซือถูเย้นตั้งชื่อเล่นให้เขาว่าไอ้อ้วน ที่จริงตอนนี้องค์ชายสามไม่อ้วน ตอนเป็นเด็กอ้วน ตอนนี้ผอมลงมาเยอะแล้ว

“ใช่ หลายวันนี้ข้าให้คนเฝ้าอยู่ในวังตลอด หากคนของฮ่องเต้มีใครออกมาจากวัง ก็ให้มารายงานข้า เมื่อกี้มีมารายงานว่าลู่กงกงออกจากวัง ข้าก็เลยรีบออกไปดู”

หลีโม่รู้ว่าช่วงนี้ลู่กงกงช่วยพวกเขาไว้มาก แต่ยังไงลู่กงกงก็เป็นคนที่ติดตามฮ่องเต้มานานหลายปี

“ลู่กงกงบอกกับเจ้าว่า องค์ชายสามเชื่อถือได้?” หลีโม่ถาม

ซือถูเย้นหัวเราะพร้อมพูดว่า “เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ ข้าทำเป็นเจอเขาโดยบังเอิญ จึงลากเขาไปคุยด้วยประเดี๋ยว จึงได้รู้ว่าในทุกวันตอนที่องค์ชายสามไปเข้าเฝ้าเพื่อถวายพระพรที่ตำหนักซีเวย ก็จะไปเล่นกับเสี้ยฮ่าวหรานประเดี๋ยว”

“งั้นก็หมายความว่า พวกเราสามารถอาศัยหมุยเฟยเพื่อไปหาซุนฟางเอ้อร์ แล้วก็ในคืนงานเลี้ยงเฉลิมฉลองก็ให้องค์ชายสามไปแจ้งให้กับทุกคนรู้ ใช่ไหม?”

“ใช่ หากเป็นเช่นนี้ ทุกอย่างต้องเป็นไปอย่างรอบคอบ ทุกๆทางต้องมีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะส่วนที่หมุยเฟยติดต่อซุนฟางเอ้อร์นี้ ตอนนี้หมุยเฟยทำอะไรก็ระวังตัวขึ้นมาก น่าจะเชื่อถือได้ ที่จริงวิธีที่ดีที่สุดคือ สามารถให้เสด็จแม่เอาวิธีการวางยาบอกให้กับซุนฟางเอ้อร์ หลังจากนั้น ก็ให้เสี้ยฮ่าวหรานป่วยสักสองวันก่อน แบบนั้น การแกล้งตายก็จะดูสมจริง หมุยเฟย เป็นผู้ที่ถูกเลือกอย่างไม่มีทางเลือก เพราะ ไม่สามารถใกล้ชิดกับท่านแม่ของเจ้าได้”

ใช่ หากเป็นเสด็จแม่ เรื่องก็จะยิ่งน่าไว้วางใจได้

ไม่ใช่ว่าหมุยเฟยไม่ดี ตอนนี้หมุยเฟยก็รู้จักระมัดระวังตัวมากแล้ว แต่บางทีก็เพราะระวังเกินไป พะวงหน้าพะวงหลัง ไม่กล้าลงมือทำ โดยเฉพาะ หากเรื่องนี้ถูกจับได้ ก็จะส่งผลกระทบต่อหมุยเฟยอย่างมาก

มีความหวังนี้แล้ว ในใจหลีโม่ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย สามวันมานี้ นางนอนไม่หลับทานไม่ลง

ซือถูเย้นยื่นมือไปกอดนางไว้ พูดขึ้นอย่างอ่อนโยนว่า “เอาล่ะ พรุ่งนี้เราไปหาฉินโจวกัน หลังจากนั้นก็จะพาเจ้าไปเที่ยวผ่อนคลาย”

“ไปหาฉินโจว?” หลีโม่จำได้ว่าเขาเคยพูดตอนที่เพิ่งกลับมา ว่าอย่าไปมาหาสู่ฉินโจวบ่อย จะได้ไม่เป็นปัญหาในภายหลัง

“ใช่ เมื่อวานนางเข้าวังไปหาฮ่องเต้ ฮ่องเต้พูดว่า ให้ข้าดูแลต้อนรับฉินโจวเป็นอย่างดี แน่นอน การดูแลเป็นอย่างดีนี้ เป็นเพียงแค่คำพูด ยังไงเราก็ไม่ควรไปมาหาสู่ฉินโจวบ่อยๆ แต่ว่าในเมื่อมีคำนี้แล้ว หาไม่ไปถามไถ่ทุกข์สุขเลย ก็ไม่ดี”

“ได้ ทำตามที่เจ้าพูด” หลีโม่พูด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม