บทที่ 707 ชอบกับรัก
หลีโม่เพิ่งคิดขึ้นมาได้ว่าพรุ่งนี้ต้องเข้าวังไปถวายพระพร จึงพูดว่า “ข้าถวายพระพรเสร็จกลับมาถึงจวนก็เที่ยงแล้ว งั้นเราไปทานข้าวเที่ยวกับฉินโจวเลยไหม”
“อืม ตามใจเจ้า” ซือถูเย้นไม่คัดค้าน
หลีโม่คิดถึงก่อนหน้านี้ที่พวกเขาคุยกันเรื่องที่ฉินโจวชอบนาง ยังไงก็ยังรู้สึกไม่อยากเชื่อ ฉินโจวมีท่าทีเฉยเมยกับนางมาตลอด ดูจากตรงไหน ว่าฉินโจวชอบนาง?
"ไอ้เจ็ด” หลีโม่มองดูเขา ถามอย่างเอียงอายว่า “เจ้าคิดว่าฉินโจวชอบข้าจริงๆหรือ?”
ซือถูเย้นขมวดคิ้ว “จะถามไปทำไม? นางก็เป็นผู้หญิง หรือว่าเจ้ายังจะหนีไปกับนาง?”
“ไม่ใช่ ข้าแค่คิดว่าเป็นไปไม่ได้”หลีโม่พูดพร้อมหัวเราะ
หนีไปกับผู้หญิงคนหนึ่ง? ไม่
ซือถูเย้นพูดขึ้นว่า “สายตาที่นางมองเจ้า มีความรู้สึกเหมือนพังพอนกำลังจะจับไก่”
“อ๋า?” หลีโม่ไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะดี “ทำไมถึงมองไม่ออก? อีกอย่าง พังพอนจับไก่ ทำไมถึงกลายเป็นชอบล่ะ?”
“ทำไมจะไม่ชอบ? เจ้าไปล่าสัตว์ เวลามองเห็นเหยื่อของตัวเอง ดวงตาจะเป็นประกายไหมแวววาวไหม?”
"คำเปรียบเทียบของเจ้า ช่างไร้สาระมาก” หลีโม่ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้
นางค่อยโล่งอก หากไม่ใช่ ค่อยยังดีหน่อย หากเป็นความจริง นางก็ไม่รู้จะสู้หน้าฉินโจวยังไง
แต่แล้วก็คิดถึง ฉินโจวถามนางอยู่หลายครั้งเกี่ยวกับผู้หญิงไม่แต่งงานหรือว่านางจะเป็น เลสเบี้ยน?
แต่ ในสมัยนี้ หากนางชอบผู้หญิงขึ้นมาจริงๆ เกรงว่าจะถูกคนอื่นประณามหรือเปล่า?
นี่เป็นยุคสมัยที่น้ำลายสามารถทำให้คนตายได้นะ
คิดถึงเช่นนี้แล้ว นางจึงถามซือถูเย้น “หากฉินโจวชอบผู้หญิงจริงๆ เจ้าจะมีความคิดเห็นต่อนางยังไง?
ซือถูเย้นมองดูนางอย่างแปลกใจ “นางชอบหรือไม่ชอบผู้หญิงแล้วเกี่ยวข้องอะไรกับข้า? ทำไมข้าต้องมีความคิดเห็น?”
"แต่ในยุคสมัยนี้ของพวกเจ้า…ต้าโจวของเราก็ดี เป่ยม่อก็ดี ยังไงผู้หญิงก็ต้องแต่งงาน แต่นางไม่ชอบผู้ชาย ชอบเพียงผู้หญิง จึงจะแต่งงานไม่ได้ เจ้าก็ไม่มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างหรือ?”
ซือถูเย้นตอบอย่างสิ้นเชิงว่า “จะไปยุ่งเรื่องของคนอื่นมากมายทำไม? ขอเพียงไม่มายุ่งกับพระชายาของข้าก็พอ ไม่สนว่านางจะชอบผู้หญิงหรือชอบสุนัข ชอบพังพอนก็ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า”
จ้าวคนนี้ ยอมรับได้กับการรักร่วมเพศ
หลีโม่รู้สึกภูมิใจ ถึงแม้จะได้แต่งงานกับคนในยุคโบราณ แต่ความคิดไม่ได้โบราณไปด้วย
ที่จริงนางก็คิดว่า การชอบใครสักคน มันเป็นเรื่องของคนอื่น ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับตัวเองเลย ทำไมต้องเอาไปนินทาล่ะ?
แต่ก็ช่างเถอะ เดิมยังไงก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรใส่ใจ
คนเราต่างก็มีความคิดที่ไม่เหมือนกัน
"ทำไมเจ้าถึงเป็นห่วงฉินโจวขนาดนั้น?” ซือถูเย้นหรี่ตาลง “แม่นาง เจ้าเป็นคนที่มีสามีแล้วนะ หรือว่าเจ้าก็ชอบผู้หญิง?”
"เปล่า เปล่า แค่แปลกใจเฉยๆ” หลีโม่ยกมือทั้งคู่จับให้หน้าเขาไว้ ท่าทางหลงใหล “ดูสิท่านอ๋องของข้าหล่อขนาดนี้ มีเจ้าแล้ว ใจของข้านี้ยังจะชอบคนอื่นได้อีกหรือ? เป็นไปไม่ได้?”
“จริงหรือ?” สีหน้าซือถูเย้นยิ้มอย่างพอใจ
“จริงแท้แน่นอน”
ซือถูเย้นเงียบสักพัก แล้วก็พูดขึ้นว่า “เช่นนี้แล้ว ก็แสดงว่าเจ้ารักข้า?”
หลีโม่อึ้งไปประเดี๋ยว รัก? ฉลาดขึ้นมาแล้วหรือ? รู้จักคำว่ารักคำนี้ด้วย?
“งั้นเจ้า”…...หลีโม่ลองถามว่า “เจ้ารักข้าไหม?”
เอาเถอะ ยอมรับก็ค่อนข้างเขิน แต่หลังจากที่ถามออกไปแล้ว ในใจกลับสบายขึ้นเยอะเลย
นางยังคงยืนหยัด พวกเขาแต่งงานกันบนพื้นฐานความรัก ไม่ใช่การคลุมถุงชน
โดยเฉพาะหลังจากที่นางรู้ว่าตัวเองมีความรู้สึกต่อเขา นางหวังว่า จะได้รับการตอบกลับเหมือนกัน
ใครบอกว่า ความรักไม่ต้องการการตอบแทน?
ขอให้อยู่ฝ่ายเดียว อดทนได้ไม่นาน
ซือถูเย้นมองดูนางอยู่อย่างนิ่ง ๆ ดวงตาลึกซึ้ง มองไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่
เนิ่นนาน หลีโม่ก็ไม่ได้ยินเขาพูดอะไร
แววตาของนาง ค่อยๆหม่นหมองลง
“ข้าไม่ดีกับเจ้าหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...