ตอนที่ 715 ขึ้นเขา
หลีโม่อารมณ์ดีขึ้นมาก ก็เหมือนเรื่องของอาจิ่งกับโหรวเหยา ที่บอกว่าตอนนี้ไม่รัก ต่อไปก็อาจจะรักได้เหมือนกัน
ชาตินี้ทั้งชาติ เวลายังอีกยาวนาน นางรอได้
อีกทั้ง เจ้าเจ็ดมีใจให้นางจริง ๆ เพียงแต่ มันไม่ได้มากเท่าที่นางคิดเท่านั้นเอง
ตอนประมาณยามเซิน พวกเขาก็ออกนอกเมืองกันไป
หลีโม่สั่งให้เย็นเอ๋อร์รออยู่ในรถม้า นางกับซือถูเย้นจะไปปีนเขา
“ทำไมถึงอยากปีนเขา?” ซือถูเย้นต้องไปกับนางอยู่แล้ว แต่ว่าแค่แปลกใจว่าทำไมนางถึงอยากมาปีนเขา
“กว่าจะได้ออกมาไม่ง่ายเลย ข้าก็อยากจะชมวิวทิวทัศน์ให้เต็มที่ เมืองหลวงเจริญรุ่งเรืองขนาดนี้ ข้าไม่อยากเห็นแล้ว ไม่สู้มาสูดอากาศบริสุทธิ์ดีกว่า”
ซือถูเย้นเห็นนางยิ้ม เขาก็โล่งใจ เขาจับมือของนางแล้วพูดว่า “หากเจ้าอยากเห็นความเจริญรุ่งเรือง ข้าก็จะไปกับเจ้า หากเจ้าอยากจะไปชมธรรมชาติ ข้าก็จะไปกับเจ้า”
หลีโม่ซาบซึ้งใจน้ำตาไหลจากปลายตา คำพูดแบบนี้ใครก็ชอบฟัง โดยเฉพาะผู้หญิง ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ ยังไงฟังแล้วมันก็สบายหู
เจ้าเจ็ดพูดแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องโกหก อย่างน้อย ตอนนี้เขาก็คิดแบบนี้จริง
“ข้าชอบปีนเขา พออายุมาก ปีนไม่ไหวแล้ว ข้าก็ยังอยากจะปีนอยู่” หลีโม่สบายใจ เดินขึ้นหน้าไป ถนนบนเขาถือว่าราบเรียบอยู่ ดังนั้นเวลาเดินถือว่าสบาย ๆ
“ทำไมถึงได้ชอบปีนเขา?” ซือถูเย้นถาม เขายิ้มแล้วพูดว่า “ถ้าแก่แล้ว เจ้ายังอยากปีนอยู่ ข้าจะแบกเจ้าขึ้นมา”
หลีโม่ดีใจมาก “ข้าชอบมาตั้งแต่เด็กแล้ว ข้าคิดว่าความรู้สึกที่อยู่บนยอดเขา มันจะทำให้ข้าเห็นอะไรที่ข้ามองไม่เห็น เมื่อก่อนข้าชอบดูพระอาทิตย์ขึ้น ตั้งแต่ ...... ตั้งแต่หลังแต่งงาน ข้าก็ไม่ได้ขึ้นเขามาดูพระอาทิตย์อีกเลย”
ซือถูเย้นเห็นสายตาที่เศร้าของนาง เขาก็พูดว่า “เจ้าอยากดูพระอาทิตย์ขึ้นเหรอ พรุ่งนี้ข้ามากับเจ้าอีกก็ได้”
“พรุ่งนี้ เราจะรอดูละครไม่ใช่เหรอ?” หลีโม่ยิ้ม
คิดถึงโหรวเหยา นางก็ปวดใจ โหรวเหยาสมควรจะได้รับความรักที่เป็นของนางที่แท้จริง
ซือถูเย้นยิ้ม “เจ้าพูดมาขนาดนี้ข้าก็ชักอยากจะดูแล้วสิ เมื่อก่อน ข้าไม่ค่อยชอบยุ่งเรื่องแบบนี้เลย”
หลีโม่ยืนนิ่ง แล้วมองมาที่เขา
“เป็นอะไรไป? เดินไม่ไหวแล้วเหรอ?” ซือถูเย้นเห็นนางหยุด ก็เลยถาม
หลีโม่ส่ายหน้า เขายิ้มแล้วพูดว่า “วันนี้เจ้าพูดจาแปลก ๆ”
“แปลกตรงไหน?” ซือถูเย้นตะลึงไป
“วันอื่น ๆ เจ้าไม่พูดแทนตัวเองแบบนี้ ทำไมวันนี้พูดจาสนิทสนมแบบนี้ล่ะ?”
ซือถูเย้นตะลึงไป เขายิ้ม แล้วยื่นมือไปโอบนางมาแล้วจูบไปที่หน้าผากของนาง “ไม่รู้ อาจจะเพราะ ข้าอยากเป็นแค่สามีภรรยาธรรมดากับเจ้าก็ได้ เจ้าไม่ใช่พระชายา ข้าเองก็ไม่ใช่ท่านอ๋อง”
เขาปล่อยมือ สายตาของหลีโม่เป็นประกาย นี่คือผลตอบรับสิ่งที่นางพูดวันนี้เหรอ?
“หลีโม่” ซือถูเย้นพูดเสียงจริงจังขึ้นมา
หลีโม่อือ แล้วจับมือเขาเดินต่อไป
ซือถูเย้นพูดว่า “ข้าเป็นผู้ชายที่ไม่อบอุ่นไม่อ่อนโยน ขอบใจเจ้ามากที่เข้าใจข้า”
“เจ้าดีกับข้ามาก” หลีโม่พูด
ถนนบนเขามีแต่ดิน มันเปื้อนรองเท้าสีเขียวของนาง พอหันไปมอง ของเขาก็เป็นเหมือนกัน
นางกลับรู้สึกชอบความรู้สึกแบบนี้ ทั้งสองเดินขึ้นหน้าไป เปื้อนไปด้วยฝุ่น ก็เหมือนชีวิตของคน พวกเขาเจอเรื่องมามากมาย แต่ว่า สุดท้ายแล้วก็ยังไม่ปล่อยมือกัน
ซือถูเย้นขยับปาก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ที่จริงเขาอยากพูดมาก เขารู้สึกว่าเขายังดีกับนางไม่พอ เขาหวังว่าระหว่างพวกเขาสองคน จะดีกว่านี้อีก แต่เขาไม่รู้ว่าต้องทำยังไง
เขาพูดไม่ออก เขารู้สึกว่าชาตินี้เขาไม่มีทางพูดมันได้แน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...