พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 755

ตอนที่ 755 เลี้ยงหมู

ตั้งแต่กุ้ยไท่เฟยถูกใจนาง และเลือกให้นางเข้าวังมา เชื้อพระวงศ์เซียนเป้ยรู้ว่านางเป็นใครในเซียนเป้ย แต่ละปีก็ส่งของเข้ามาในวังให้ เพื่อเลี้ยงดูนางอย่างดี

ดังนั้น เวลาที่นางอยู่ในวังเมื่อผ่านไประยะหนึ่ง ก็จะมีคนกลุ่มหนึ่งที่ถูกนางไล่ออกไป คนพวกนี้ จะแฝงตัวไปอยู่ในแต่ละวัง แม้แต่ตำหนักซีเวยก็มีคนของนางด้วย

ตอนนี้นางเก็บแค่ ชิงฟู กับ จิ้งหลัน ไว้รับใช้เท่านั้น แต่ก็ต่างเป็นคนที่ผ่านการฝึกฝนแล้วส่งมาทั้งนั้น

“เพคะ” ชิงฟู ถอนสายบัว

หลายคนยินดีช่วยนาง เพียงแค่ลูกชายของนางได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ มันก็ดีต่อเซียนเป้ยมาก เพราะ แม่แท้ ๆ ของนางเป็นชาวเซียนเป้ย บนตัวของเขามีเลือดของเซียนเป้ยครึ่งหนึ่ง

โดยเฉพาะตอนนี้เซียนเป้ยพ่ายแพ้ ทุกคนเลยฝากความหวังไว้บนตัวนาง

ไม่ขอต่อไปจะเป็นยังไง ขอแค่เซียนเป้ยไม่ต้องส่งบรรณาการมาให้ทุกปีก็พอ

หลังจากที่หมุยเฟยรู้กำหนดการออกจากวังหลวงของซุนฟางเอ้อร์ ก็หาโอกาสไปถวายพระพรอีกครั้ง แล้วแอบบอกเรื่องนี้กับซือถูจิ้ง จะได้ให้คนนอกวังเตรียมตัวให้พร้อม

ใกล้วันไหว้พระจันทร์แล้ว ในวังหลวงเริ่มคึกคักกันครึ่งมาแล้ว

เทศกาลไหว้พระจันทร์ สนมหลายคนจะมีการให้เงินรางวัล หูฮวนหลิงอยู่ฉลองเทศกาลนี้เป็นครั้งแรก เลยมีการแจกเงินรางวัลไปไม่นาน แค่ฮองไทเฮาที่เดียว ก็ให้เครื่องประดับรวมแล้วกว่าพันตำลึง แล้วยังให้เงินฉลองเทศกาลอีกห้าร้อยตำลึง

เพราะหูฮวนหลิงเริ่มก่อนคนแรก แต่ละตำลึงก็เลยส่งของไปให้นางฮองไทเฮาเหมือนกัน

ค่าใช้จ่ายในตำหนักของหมุยเฟยปกติก็มากอยู่แล้ว อีกทั้งก็ไม่มีเงินจากทางบ้านคอยสนับสนุนด้วย ดังนั้น บางทีก็ต้องประหยัดมาก

ดังนั้น นางเลยไปที่ตำหนักอี๋หลาน เพื่อขอหยิบยืมจากอี๋กุ้ยเฟย

อี๋กุ้ยเฟยไม่ใช่คนขี้เหนียว แต่อะไรที่ควรจ่ายก็จ่าย ไม่ควรจ่ายนางก็ไม่ออกเลยแม้แต่สลึงเดียว

หมุยเฟยเป็นคนไม่มีทรัพย์สินเลย เงินที่ให้ยืม ไม่มีทางได้คืน ดังนั้น นางเองก็บอกว่านางเองก็ไม่มี ให้เงินนางไปสิบตำลึง เพื่อไล่ให้นางกลับ

หมุยเฟยโมโหมาก นี่เป็นครั้งแรกที่นางทะเลาะกับนางขึ้นมาทันที

อี๋กุ้ยฟเฟยไล่นางออกไปทันที แล้วบอกนางว่าต่อไปไม่ต้องมาหานางอีก

เรื่องที่หมุยเฟยไปยืมเงินอี๋กุ้ยเฟยไม่สำเร็จ ถูกแพร่ออกไปทั่ววังหลัง ใครก็ดูถูกหมุยเฟยกันหมด ไม่มีใครดูถูกอี๋กุ้ยเฟยเลย

คนที่แข็งแกร่งกว่า ทำอะไรก็มีเหตุผล

หลังจากที่หมุยเฟยกลับตำหนักไปแล้ว ด้วยความโกรธ ทำให้นางล้มป่วยลง และได้เรียกหมอหลวงมาตรวจอาการ หมอหลวงบอกว่านางตั้งครรภ์

ข่าวนี้ มันเหมือนเป็นระเบิดลูกใหญ่ ที่ตกลงมาในวังหลัง

หมุยเฟย เดือนหนึ่งยังไม่ได้ปรนนิบัติฮ่องเต้สักครั้ง แล้วนางท้องได้ยังไงกัน? อีกทั้งหลังคลอดองค์ชายสาม ในหลายปีที่ผ่านมา ได้ยินมาว่า มีแค่เดือนที่แล้วที่ฝ่าบาทเรียกนางไปปรนนิบัติแค่ครั้งเดียว แค่ครั้งเดียวก็โชคดีขนาดนี้เลย

อิจฉาก็ส่วนอิจฉา แต่แต่ละตำหนักก็ยังส่งของขวัญไปให้อยู่

ฮ่องเต้อารมณ์ดีมาก สนมมีครรภ์ แสดงว่าเขายังมีกำลังมากพออยู่

แต่เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด ดังนั้น ฮ่องเต้เลยสั่งให้หมอหลวงหลายคนมาตรวจให้แน่ใจอีก หมอหลวงพวกนั้นยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นการตั้งครรภ์จริง ฮ่องเต้ถึงได้วางใจ จากนั้นก็ให้รางวัล จากนั้นก็อยู่ค้างที่ตำหนักเล่อชิงสามวันสามคืน

หมุยเฟยที่ไม่ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้มานาน จู่ ๆ ฮ่องเต้ก็ให้ความสำคัญมากขนาดนี้ นางรู้สึกดีใจมาก แต่ว่านางก็ไม่ได้เหลิง แต่ทำทุกอย่างอย่างระวัง มีแค่ครั้งเดียวที่ไปถวายพระพรฮองไทเฮาแล้วได้พบกับอึ๋กุ้ยเฟย เลยมีการพูดจาประชดประชันไปบ้าง ทำให้อี๋กุ้ยเฟยเสียหน้ามาก เมื่อได้ยินว่าอี๋กุ้ยเฟยกลับแล้ว ยังตั้งใจผลักนางอีกที ทำให้นางเกือบจะล้ม

พระชายาอ๋องซื่อเจิ้งคนที่เหมือนกับโพธิสัตว์ จู่ ๆ กลายมาเป็นปีศาจ การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ขนาดนี้ มันทำให้ประเด็นของนางไม่ได้ลดลงไปเลย

แต่ว่าคนที่เป็นประเด็น กลับเหมือนคนที่ไม่รู้อะไรเลย กินดื่มอย่างมีความสุขทุกวันเลย

หากใช้คำพูดของเฉินหลิ่วหลิ่ว ก็คือเหมือนหมู

ฉินโจวเอ็นดูนางมาก นางชอบกินอะไร ก็ให้คนหาคนทำมาให้

ก่อนหน้านี้หลี่โม่ไม่ค่อยชอบกินของว่าง แต่ว่า ช่วงนี้นางชอบมันมาก ฉินโจวก็สั่งให้ห้องเครื่อง ทำขนมหอมหมื่นลี้ ขนมพุทรา ขนมมะพร้าว หลี่โม่กินมันทุกวัน ไม่มีเลี่ยนไม่มีเบื่อเลย หลบเรื่องมากว่าสิบวัน นางอ้วนขึ้นมากทีเดียว

ซือถูจิ้งมาหา เห็นใบหน้าของนางเต็มไปด้วยเลือดฝาด ก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ที่จวนอ๋องอาหารไม่อร่อยหรือไง หรือว่าอาหารที่ตำหนักซีย่วนมันอร่อยมากกว่า”

หลี่โม่ยิ้มแล้วพูดว่า “ใช่สิ ยกตัวอย่างขนมนี่ มามาชอบทำมากที่จวน แต่ข้ากินไม่ได้มากเลย แต่ที่ตำหนักซีย่วน ข้ากินทุกวันกินยังไงก็ไม่เบื่อ”

ซือถูจิ้งมองไปที่ฉินโจวแล้วพูดว่า “เจ้าเนี้ยนะ อย่าเลี้ยงนางเหมือนเลี้ยงหมูสิ ไม่งั้นจะมีคนหึงเอานะ”

“เขาเลี้ยงดูพระชายาของเขาไม่ดีเอง เพราะเขาไม่เอาไหน” ฉินโจวพูด จากนั้นก็มองไปที่หน้าของหลี่โม่ เหมือนหน้าของนางจะมีเลือดฝาดขึ้นเยอะจริง ๆ เทียบกับคนที่มาใหม่ ๆ เหมือนเป็นคนละคนเลย

หลี่โม่กินขนมเต็มปากไปหมด วันนี้ขนมมะพร้าวทำได้อร่อยมาก หวานหอม กินลงไปแล้ว ปากมีแต่กลิ่นหอม

“เจ้าบอกให้ห้องเครื่องซ่อนมามาทำด้วยนะ กลับไปที่จวนแล้วข้ายังอยากกินอีก” หลี่โม่กินไปพูดกับฉินโจวไปด้วย

ฉินโจวยิ้มแล้วพูดว่า “นี่ก็หยางมามาเป็นคนทำ”

“หะ?” หลี่โม่แปลกใจมาก “ทำไมเมื่อก่อนไม่ได้รู้สึกว่ามันอร่อยขนาดนี้ล่ะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม