ตอนที่ 756 ตั้งครรภ์
หยางมามายิ้มแล้วเดินเข้ามา “เอะ ข้าน้อยโดนรังเกียจแล้วเหรอเนี้ย?”
หลี่โม่รีบกลืนขนมลงไป แล้วพูดว่า “ไม่ได้รังเกียจนะ ไม่ได้รังเกียจเลย ชมว่าท่านฝีมือดีมากต่างหาก”
เห็นนางยกชามเจ็ดสีมา ก็ถามว่า “นี่อะไร? บัวลอยใช่ไหม?”
“เทศกาลหยวนเซียว” หยางมามาวางถ้วยลงที่โต๊ะ “ข้าน้อยเพิ่งทำมาใหม่ ๆ พระชายาลองชิมดูหน่อยไหม?”
หลี่โม่เคยกินบัวลอยห้าสีที่ซูโจวตอนอยู่ในโลกปัจจุบัน นางจำได้ว่ามันมีไส้ฟักทอง งาดำ มันม่วง ข้าวเหนียว ผัก แล้วก็อื่น ๆ อีก
นางชิมไปคำหนึ่ง รู้สึกว่าในโลกปัจจุบันก็อร่อยอยู่ เลยถามว่า “มามา ข้าได้กลิ่นของดอกหอมหมื่นลี้ ท่านใส่มันด้วยเหรอ?”
“ถูกต้อง” มามายิ้มแล้วพูดว่า “บัวลอยห้าสี แต่ละสีจะทำจากวัตถุดิบที่แตกต่างกัน แต่ว่า วัตถุดิบหลักเหมือนกัน ข้าน้อยใส่ดอกหอมหมื่นลี้ทั้งหมด รู้ว่าพระชายาท่านเก่งมาก”
ซือถูจิ้งขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “เอาล่ะ เจ้าอย่ากินอีกเลย เมื่อกี้เจ้าเพิ่งกินขนมไปตั้งหลายชิ้น ตอนที่ข้ามา เห็นเจ้าเพิ่งยัดขนมมะพร้าวเข้าไปตั้งหลายชิ้น ถ้าเจ้ากินอีก มันจะจุกได้นะ”
หลี่โม่อิ่มแล้วจริง ๆ “ข้าขอกินคำหนึ่ง”
หยางมามายิ้มแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร กินเยอะ ๆ ให้อ้วนอีกหน่อยถึงจะดี กินให้อ้วน ๆ แล้วจะได้ท้องง่าย ๆ”
ฉินโจวอึ้งไป “ท้อง? เจ้าจะมีลูกเหรอ?”
“ยังไงก็ต้องมี” หยางมามาตอบแทนหลี่โม่ “ผู้หญิง ต้องมีลูกสิถึงจะสมบูรณ์แบบ”
“มามาก็ยังไม่มีลูกไม่ใช่เหรอ” ฉินโจวไม่เห็นด้วย
“ข้าน้อยไม่มี แต่ว่า หากข้าน้อยได้อุ้มได้เลี้ยงลูกของพระชายา ข้าน้อยก็ไม่เสียใจแล้วชาตินี้” หยางมามาถอนหายใจ
หลี่โม่รู้ว่านางยังมีปมอยู่ เลยตบมือของนางเบา ๆ “เด็กจะมาต้องมีวาสนาต่อกัน ฝืนไม่ได้ เวลาที่ควรมา ก็ต้องมาแน่ หากยังไม่ถึงเวลา ฝืนไปก็ไม่มีประโยชน์”
ซือถูจิ้งถามว่า “หลี่โม่ หากเจ้าท้องจริง ๆ เจ้าคิดอยากได้ลูกชายหรือลูกสาว?”
หลี่โม่ยิ้มแล้วพูดว่า “ข้ายังไม่เคยคิดเลย ที่จริงลูกชายกับลูกสาวก็เหมือนกัน เป็นลูกข้าด้วยกันทั้งนั้น จะไม่รักได้ยังไงล่ะ?”
ฉินโจวพูดออกมาว่า “ถ้าได้ลูกสาว ข้าจะเป็นแม่บุญธรรมของเขา”
ซือถูจิ้งยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ เจ้าอย่ามาแย่งข้าสิ ลูกของหลี่โม่ แม่บุญธรรมต้องเป็นข้าสิ”
ฉินโจวอึ้งไป “เจ้าจะเป็นแม่บุญธรรมของเด็กได้ยังไงกัน? ตามลำดับญาติแล้ว เจ้าควรจะเป็น ......”
ฉินโจวเรียงลำดับญาติของพวกเขาไม่ถูกเลย นางคิด แล้วพูดว่า “องค์หญิงท่านเป็นท่านอาของซือถูเย้นใช่ไหม? เด็กคนนั้นต่อไปต้องเรียกท่านว่าท่านย่านะ”
ซือถูจิ้งงอน “ข้ารู้ แต่ข้าไม่อยากเป็นรุ่นปู่รุ่นย่านี่นา”
นางอายุยังน้อยอยู่เลย
“จะให้วุ่นวายไม่ได้ ลำดับมันเรียงอยู่ตรงหน้านะ” ฉินโจวพูดอย่างจริงจัง
หลี่โม่หัวเราะ แล้วพูดอย่างไม่เข้าใจว่ากับซือถูจิ้งว่า “ใช่ หากเจ้าจะมาเป็นแม่บุญธรรมของเด็ก ๆ ต้องผ่านด่านพี่สามไปก่อนนะ”
เจ้าสามเจ้าหัวโบราณ
ซือถูจิ้งไม่ได้พูดดีด้วย “เอาล่ะ ทำอย่างกะเจ้าตั้งท้องแล้วอย่างนั้นแหละ”
“ต่อให้ตอนนี้ยังไม่ท้อง แต่ก็น่าจะเร็ว ๆ นี้แล้ว” หยางมามาพูดอย่างมั่นใจ
“มันก็ไม่แน่หรอก”
หยางมามารีบพูดว่า “องค์หญิงห้ามพูดเหลวไหลเลย เร็ว ๆ นี้แน่นอน”
ฉินโจวมองออกไปด้านนอก ในใจรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมา
ลูกของหลีโม่ เรียกนางว่าแม่บุญธรรม
เด็กคนนี้ ก็เท่ากับเป็นลูกของพวกนางล่ะสิ?
แสงมันลอดเข้ามาในใจของนาง เหมือนกับแสงอาทิตย์ที่ทแยงส่อง ถึงมันจะไม่ได้ร้อน แต่มันก็อุ่น
นางเงยหน้าไปมองหลีโม่ ฉินโจวพูดอย่างจริงจังว่า “เจ้ารีบ ๆ ท้องเลย”
“เรื่องแบบนี้ ข้าจะตัดสินใจได้ยังไงกันล่ะ” หลีโม่หัวเราะ
“ของข้า ของข้า” ฉินโจวทำอะไรไม่ถูกเลย “เด็กคนนี้ เป็นของข้า”
ซือถูจิ้งหัวเราะออกมา “คำพูดของเจ้าจะทำให้คนเข้าใจผิดได้นะ”
“ไม่ เด็กคนนี้ จะเป็นลูกชายหรือลูกสาวบุญธรรมของข้า” ฉินโจวดึงมือหลีโม่ แล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ต่อไปเด็กคนนี้ข้าจะดูแลเอง จะไม่ให้ข้ารังแกเขาได้เด็ดขาด”
คำพูดของฉินโจว พูดอย่างมั่นใจ
เด็กคนนี้ มีราชินีของเป่ยม่อเป็นแม่บุญธรรม ใครจะไปกล้ารังแกเขาได้ แม้แต่พ่อแม่ของเขา ยังไม่กล้าต่อว่านางเลย หากมีเขาไม่พอใจ เขียนจดหมายส่งไปให้แม่บุญธรรมก็ได้แล้ว
ฉินโจวเอ็นดูเด็กคนนี้เข้ากระดูกดำ แต่มันก็เป็นเรื่องในอนาคต
โหรวเหยาเหมือนจะถูกหยางมามาลากมามากกว่า มามารู้สึกว่าโหรวเหยาช้ามาก อยากจะแบกนางมาเลยด้วยซ้ำ
ตอนที่มามาไปหาโหรวเหยา แทบจะหยุดหายใจแล้ว เพราะ นางวิ่งไปหลายที่แล้ว ในที่สุดก็ไปพบนางที่จวนโหวเฉินหลิ่วหลิ่วกำลังคุยกับโหรวเหยาอยู่ แต่โหรวเหยากลับรอเฉินหลิ่วหลิ่วก่อนแล้วมาพร้อมกัน เฉินหลิ่วหลิ่วต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน เปลี่ยนเสื้อผ้าก็ต้องใช้เวลา มามาอยากจะพังประตูเข้าไปลากนางออกมาด้วยซ้ำ
ตอนที่โหรวเหยามาถึงตำหนักซีย่วน ผมยุ่งมาก เสื้อผ้าถูกหยางมามาดึงจนไม่เรียบร้อย
โหรวเหยาเหมือนไม่เคยเจอหยางมามาเป็นแบบนี้มาก่อน
“เร็ว ตรวจชีพจรเร็วเข้า” มามาร้อนใจมาก
โหรวเหยายิ้มแล้วพูดว่า “นางท้องหรือเปล่า ตัวนางไม่รู้เลยหรือยังไง?”
พูดถึงตรงนี้ แต่นางก็ดึงมือของหลีโม่มาวางบนโต๊ะ แล้วเริ่มตรวจชีพจร
“เป็นไงบ้าง?” มามาถามอย่างร้อนใจ
โหรวเหยาค่อย ๆ ปล่อยมือ แล้วมองไปที่หลีโม่ “ชีพจรลื่น”
“หมายความว่ายังไง?” มามาถาม
“ชีพจรลื่น ก็หมายความว่าท้อง”
มามาล้มตึงไปเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...