พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 760

สรุปบท ตอนที่ 760 ข้าดูถูกนางมาตลอด: พิษรักองค์ชายโฉมงาม

สรุปตอน ตอนที่ 760 ข้าดูถูกนางมาตลอด – จากเรื่อง พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง

ตอน ตอนที่ 760 ข้าดูถูกนางมาตลอด ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดยนักเขียน ใบไม้แดง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่ 760 ข้าดูถูกนางมาตลอด

อี๋กุ้ยเฟยจ้องไปที่นาง “เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?”

“เจ้าคิดว่ายังไงล่ะ?” หมุยเฟยยิ้มแห้ง “เจ้าคิดว่าข้าอ่อนแอรังแกง่ายนักใช่ไหม? คิดว่าไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องยอมเจ้าทุกเรื่องงั้นเหรอ? เจ้าคิดว่าข้าไม่มีตระกูลคอยหนุนแล้วต้องเชื่อฟังชาวเซียนเป้ยอย่างเจ้าทุกอย่างงั้นเหรอ?”

“เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไรกัน?” อี๋กุ้ยเฟยโมโหมาก นางตะคอก

“ข้าพูดผิดตรงไหน? เจ้าเป็นชาวเซียนเป้ย ตอนนั้น กุ้ยไท่เฟยช่วยเจ้าปกปิดฐานะของเจ้า ส่งเจ้าเข้าวังมาปรนนิบัติฝ่าบาท ทางหนึ่งเจ้าก็คอยทำงานให้กับกุ้ยไท่เฟย อีกทางหนึ่งเจ้าก็คอยสมคบคิดกับชาวเซียนเป้ย อีกทั้งยังสมคบคิดกับแคว้นต้าเหลียงกับเป่ยม่อ เจ้าใช้สิ่งที่เจ้ามีทุกอย่าง เพื่อปูทางให้ลูกชายของเจ้า อีกทั้ง ยังเข้าหาเหลียงไถ้ฝู้ เจ้ายอมสละตัวเองให้กับรัชทายาท ตอนนี้ เจ้าคิดว่าจาวกุ้ยเฟยท้อง คิดอิจฉา กลัวว่านางจะคลอดลูกชาย จะเป็นภัยต่อเจ้า เจ้าเลยสั่งให้คนฆ่านาง แล้วนำศพของนาง ทำให้แตกเป็นละเอียดแล้วฝังไว้ที่สวนด้านหลังตำหนักอี๋หลาน อี๋กุ้ยเฟย อี๋กุ้ยเฟย เจ้าไม่รู้สึกว่าตัวเจ้าสกปรกบ้างเลยเหรอ? เจ้าไม่รู้สึกว่าเจ้าใจดำเลยเหรอ?”

อี๋กุ้ยเฟยสายตาเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร นางพูดว่า “เจ้าพูดเหลวไหลอะไรกัน ต้องการอะไรกันแน่?”

นางรู้สึกได้ว่ามันผิดปกติ ตั้งแต่นางเข้ามา ก็พูดแต่เรื่องเอาตัวซุนฟางเอ้อร์ออกจากวังมาตลอด ตอนนี้ยังบอกอีกว่านางจับนางสลายกระดูกแล้วฝังที่ด้านหลังสวนอีก

หมุยเฟยพูดว่า “เจ้าคิดว่าที่ข้ามาวันนี้คิดจะทำอะไรงั้นเหรอ? เจ้าผิดแล้ว ข้าแค่มาเปิดโปงความจริงของเจ้าเท่านั้น”

อี๋กุ้ยเฟยไม่โกรธแต่กลับหัวเราะ “เจ้าน่ะเหรอ?”

หมุยเฟยเก็บความเป็นศัตรูกลับมา แล้วสายตาแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มแห้ง ๆ ในมือของนางถือปิ่นปักผมเอาไว้ แล้วแทงไปที่ท้องของตัวเอง เลือดพุ่งออกมา จากนั้นก็แทงไปที่นางอกของตัวเองอีกครั้ง แล้วก็ล้มลง แล้วล้มลงใส่ตัวของอี๋กุ้ยเฟย จากนั้นก็ร้องตะโกนว่า “ช่วยด้วย ช่วยด้วย”

อี๋กุ้ยเฟยผลักนางออก สายตาของนางโกรธมาก คิดจะฆ่านางทิ้ง วินาทีที่กำลังยกมือขึ้นมา กงกงก็วิ่งมาถึงที่ปากประตูแล้ว

เช้าวันนี้ เซียนเป้ยได้ส่งเครื่องราชบรรณาการมาให้มากมาย ฮ่องเต้เลยสั่งให้ลู่กงกงกับเปากงกงกระจายของไปให้แต่ละตำหนัก ทางกุ้ยเฟย ลู่กงกงต้องเป็นคนมาส่งเอง

หัวของหมุยเฟย ล้มลงไปกับพื้น ตอนนี้นางถึงได้รู้สึกว่านางเจ็บจากนั้นก็ร้องออกมา เมื่อกี้ตอนที่ยืนอยู่ แทงที่ท้องไปก่อน เลือดมันถึงได้ไหลออกมา นั่นคือสิ่งที่นางต้องการ

ปิ่นของอี๋กุ้ยเฟยถูกหมุยเฟยชิงเอาไว้ ผมเผ้ากระจัดกระจาย เหมือนคนบ้า นางจ้องไปที่หมุยเฟย สายตามีแต่ความต้องการจะฆ่า

“ใครก็ได้ ไปตามหมอหลวงมาเร็วเข้า” ลู่กงกงรีบเดินเข้ามา แล้วอุ้มหมุยเฟยขึ้นมา จากนั้นก็จ้องไปที่อี๋กุ้ยเฟย “พระนางกุ้ยเฟย ท่านทำเกินไปแล้ว”

อี๋กุ้ยเฟยรู้สึกเหมือนจะเลือดจะเป็นของหวาน สายตาของนางเต็มไปด้วยเส้นเลือดสีแดง นางดูเหมือนคนบ้า นางตัวสั่นไปทั้งตัว ทำไมนางถึงได้พ่ายให้กับหมุยเฟยได้? ทำไมถึงได้ตกหลุมพรางของนางได้?

หลังสวน มีฝังเศษกระดูกเอาไว้จริง แต่ อาจจะไม่ใช่แค่ศพเดียว

ในตำหนักของนาง ไม่ใช่ใครก็เป็นคนของนางหมด มีหลายคนที่นางตำหนักในส่งมา ก็แค่ให้รับผิดชอบด้านนอกตำหนัก วันนั้น เมื่อส่งซุนฟางเอ้อร์ออกไปแล้ว ดันไปถูกนางกำนัลคนนั้นเห็นเข้า ตามปกติแล้วนางก็จะสั่งให้คนจัดการแล้วฝังซะ

หลังจากลู่กงกงไปได้ไม่นาน ทหารหลวงก็เข้ามา แล้วล้อมตำหนักอี๋หลานเอาไว้

แต่ว่าไม่มีใครเข้ามาด้านใน รอฮ่องเต้เสด็จมาเท่านั้น

ฮ่องเต้อยู่ที่ตำหนักชิงเล่อ ตั้งแต่ซุนฟางเอ้อร์หายตัวไป หลายวันมานี่เขาเหมือนคนบ้า ตอนนี้เขายังต้องมาตกใจเรื่องที่อี๋กุ้ยเฟยแทงหมุยเฟย ใบหน้าของเขา มีน้ำตาไหลออกมาอย่างมากมาย

ตอนที่เขามาถึง หมุยเฟยสลบไม่ได้สติ ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด

“เด็กเป็นยังไงบ้าง?” ฮ่องเต้มองไปที่หมอหลวง สายตาแทบหลุดออกมา เขากัดฟันพูดมันออกมา

หมอหลวงตัวสั่นขาอ่อน “ฝ่าบาท ...... พระสนมหมุยเฟยบาดเจ็บที่ท้อง ตรวจไม่พบชีพจรการตั้งครรภ์แล้วพะยะค่ะ”

ฮ่องเต้รู้ดีว่า หากตรวจไม่พบชีพจรการตั้งครรภ์ มันก็หมายความว่าเด็กไม่อยู่แล้ว

“หมุยเฟยพูดแบบนี้พะยะค่ะ อี๋กุ้ยเฟยก็ไม่ได้ปฏิเสธ หลังจากหมุยเฟยพูดจบ พระสนมกุ้ยเฟยก็ลงมือเลย ตอนที่กระหม่อมเข้าไป พระสนมกุ้ยเฟยยังมีสายตาที่จะสังหารแบบปกปิดไม่อยู๋เลยพะยะค่ะ” ลู่กงกงพูด

“ไป ...... ตำหนักอี๋หลาน” น้ำเสียงของฮ่องเต้ อ่อนจนเหมือนแค่หายใจ แทบจะไม่มีใครได้ยิน

แต่ว่า สายตาของเขาเหี้ยมโหดโมโหมาก ทำให้ลู่กงกงตกใจมากทีเดียว

ในตำหนักอี๋หลาน

ตั้งแต่ลู่กงกงพาหมุยเฟยออกไป หลังจากที่ทหารปิดล้อมตำหนักเอาไว้หมดแล้ว อี๋กุ้ยเฟยก็นั่งอยู่ตรงทางเดิน มี ชิงฟู กับ จิ้งหลัน อยู่ข้าง ๆ นาง

“องค์ชายเจ็ดล่ะ?” นางเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าของนางดูเย็นชามาก

“ทูลพระสนม อยู่ที่ห้องหนังสือเพคะ” จิ้งหลัน พูด

อี๋กุ้ยเฟยถอนหายใจเบา ๆ จากนั้นเงยหน้ามองฟ้า อากาศช่างดีจริง ๆ

“ชิงฟู จิ้งหลัน พวกเจ้าสองคนชอบอากาศที่ต้าโจวไหม?” อี๋กุ้ยเฟยหันหน้ามาแล้วยิ้มถาม

“ไม่ชอบเพคะ” ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน

อี๋กุ้ยเฟยพยักหน้า มือทั้งสองข้างของนางอยู่ในชายเสื้อ “ใช่ ข้าเองก็ไม่ชอบ แต่ว่า ข้าชอบความเจริญรุ่งเรืองของต้าโจว ชอบการร่ายรำของต้าโจว ชอบความมั่งคังของต้าโจว ชอบอำนาจที่ดลบันดาลทุกอย่างได้ในวังหลัง”

ท่าทางของนางเหมือนคนบ้า “อีกแค่ก้าวเดียว แค่ก้าวเดียวเท่านั้น สิบปีแล้ว ฝันที่ข้ามีมาสิบปี ในสายตาของเชื้อพระวงศ์กับขุนนางที่มีอำนาจ ข้ามีประโยชน์ ไม่มีใครทำอะไรข้าได้ เพราะข้ามีจุดอ่อนความลับของพวกเขาในมือ คนที่คิดจะล้มข้า ข้าจัดการพวกเขาได้หมด ข้าสามารถควบคุมทุกอย่างได้ มีแค่หมุยเฟยคนเดียวเท่านั้น นางไม่เคยอยู่ในสายตาของข้าเลย ข้าดูถูกนางมาตลอด แต่นางกลับเป็นคนที่แว้งมากัดข้า”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม