ตอนที่ 761 ห้าม้าแยกร่าง
นางพูด จากนั้นก็หัวเราะออกมา มือทั้งสองข้างของนางบีบแน่น “ข้าดูถูกนางมาตลอดเลย นางมีอะไรควรค่าให้คนอื่นเห็นค่างั้นเหรอ?? รู้ไหม? ตอนที่ข้าถูกแต่งตั้งให้เป็นอี๋เฟย นางยังมาแสดงความยินดีกับข้าอยู่เลย มาเอาใจ มาประจบประแจง นางไม่มีเงินเลย นางในตอนนั้น ยังน้อยก็ยังพอมีนายหญิงแก่ของจวนเฉิงเสี้ยงคอยหนุนหลัง แต่ว่าท่าทางของนางมันดูต่ำต้อยมาก ข้าดูถูกนางมากจริง ๆ”
นางคิดถึงเรื่องในอดีตหลายเรื่อง รู้สึกว่าทุกอย่างมันเป็นเหมือนฝัน นางพ่ายแพ้แล้ว มันเป็นแค่ฝันเหมือนกันใช่ไหม?
นางไม่มีทางพ่ายแพ้ให้กับหมุยเฟย นางคิดยังไงก็คิดไม่ถึง
มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
“พระสนม จิ้งหลัน กับ ชิงฟู น้ำตาไหล เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว ตำหนักอี๋หลานถูกปิดล้อม จะส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือยังทำไม่ได้เลย”
ฝันร้ายเรื่องนี้ มาอย่างกะทันหัน พวกนางเองก็ไม่ได้ตั้งตัว ทุกอย่างราบรื่นมากไม่ใช่เหรอ แม้แต่การปิดเมือง นางยังสามารถส่งตัวซุนฟางเอ้อร์ออกไปจากวังได้เลย ทำไมสถานการณ์มันถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้?
“ฝ่าบาทเสด็จแล้ว”
เสียงของลู่กงกงดังขึ้น เสียงของเขาเหมือนทูตนรก มันดังก้องไปทั่วตำหนักอี๋หลาน
พระสนมกุ้ยเฟยตัวสั่นไปทั้งตัว นางเงยหน้าขึ้นมา แล้วมองไปที่ จิ้งหลัน กับ ชิงฟู “พวกเจ้า คิดหาทางส่งข่าวออกไปที ให้พวกเขา ทำยังไงก็ได้ คุ้มครององค์ชายเจ็ดให้ปลอดภัย”
“เพคะ พระสนม”
เงาสีเหลือ ๆ กำลังย่างเท้าเข้ามา ด้านหลังตามมาด้วยคนอีกหมู่หนึ่ง
พระสนมอี๋กุ้ยเฟยมองไปที่เขา จากนั้นก็ยิ้มแห้ง ตอนที่นางเข้าวังมาใหม่ ๆ นางเคยเหมือนกับสนมคนอื่น เฝ้ารอให้เขามาหาตลอดเวลา
แต่ว่า ความรักมันไม่ยืนยาว ก็เหมือนกับความโปรดปรานของเขา
อีกทั้ง นางก็ไม่เคยคิดเลยว่า ความรักจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของนาง
ตั้งแต่นางมีลูก นางก็เริ่มวางแผนทุกอย่างเพื่อลูกของนาง ลูกของนางจะต้องไม่เป็นเหมือนนาง ที่ต้องเผชิญความวุ่นวายมากมาย เขาควรได้รับการสนับสนุนและค่อย ๆ ก้าวขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งสูงสุด
นางยังคงมองไปที่เขา สายตาของเขาโกรธเกรี้ยวมาก มันเหมือนไฟที่ลุกโชน เหมือนเผานางให้ตายทั้งเป็น
หมุยเฟยเลือกเวลาได้ดีมาก เสี้ยฮ่าวหรานไปแล้ว ซุนฟางเอ้อร์หายตัวไป เขาแทบจะไม่มีจิตใจคิดอะไรอีก ดังนั้น เขาไม่มีทางใจเย็นลงไปคิดถึงเรื่องที่หมุยเฟยทำ ไม่ว่ามันจะสมเหตุสมผลหรือไม่ เขามีแต่จะเอาไฟโมหะนี้ระบายมาที่ตัวนาง
นางค่อย ๆ กัดยาในปาก ใบหน้าของนางมีรอยยิ้ม
“เสด็จพ่อ เสด็จพ่อ” มีเงา ๆ หนึ่งพุ่งเข้ามา แล้วกอดขาของฮ่องเต้เอาไว้
สีหน้าของนางแข็งทื่อไป ลูกชายข้า? เด็กโง่ เขาฉลาดมาตั้งแต่เล็ก เขาน่าจะรู้เรื่องแล้ว แต่ว่า ตอนนี้เขาไม่ควรช่วยขอร้องแทนนางในเวลาแบบนี้
“เสด็จพ่อ” องค์ชายเจ็ดคุกเข่าแล้วร้องไห้ “ท่านเสด็จมาแล้ว ลูกกลัว เสด็จแม่น่ากลัวมาก ลูกตกใจมากเลย”
ฮ่องเต้ก้มหน้าลง แล้วมองไปที่เด็กน้อยที่ตัวสั่นไปทั้งตัว ใบหน้าของเขาซีดขาว แววตามีแต่ความหวาดกลัวสับสน เขาเกาะขาของเขาเหมือนปลาที่กำลังดีดดิ้นอยู่ที่พื้น
“องค์ชายเจ็ด ทรงลุกขึ้นก่อนเถอะพะยะค่ะ” ลู่กงกงเดินเข้ามาดึงเขาเอาไว้
องค์ชายเจ็ดพยายามกอดแขนของลู่กงกงเอาไว้ ตัวของเขาสั่นแรงมาก “กงกง ช่วยข้าด้วย เสด็จแม่บอกว่าทรงเกลียดเสด็จพ่อ คิดจะฆ่าข้า ทำให้เสด็จพ่อต้องทรงเจ็บปวดพระทัย นางบอกว่านางโปรดพี่ใหญ่ นางเกลียดที่ข้าไม่ใช่ลูกของนางกับพี่ใหญ่ ข้าควรทำยังไงดี?”
องค์ชายเจ็ดพูด แล้วก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ร้องอย่างน่าสงสารมาก
อี๋กุ้ยเฟยได้ยินดังนั้น ก็มองลูกชายที่รักดังดวงใจของนางมาตลอด ตั้งแต่เล็ก นางก็รู้ว่าลูกชายของนางเป็นคนฉลาด หัวไว ดังนั้น นางเลยแน่ใจว่าเขาเป็นฮ่องเต้ได้อย่างแน่นอน
เขาฉลาดมากจริง ๆ พอพูดไปแบบนี้แล้ว เสด็จพ่อของเขาก็จะไม่สงสัยอีกว่าเขาไม่ใช่ลูกชายตัวเองอีก
อี๋กุ้ยเฟยมีเลือดสีดำไหลออกมาจากปาก แล้วจ้องไปที่องค์ชายเจ็ด สายตาของนางมีแต่ความโกรธเกลียด “เจ้าลูกทรพี ข้าตายไปก็จะไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่”
คำพูดนี้ มันก็เหมือนยืนยันคำพูดขององค์ชายเจ็ด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...