พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 765

ตอนที่ 765 ข้าจะเป็นพ่อคนแล้ว

หลีโม่นอนได้เกือบครึ่งชั่วยาม มามาก็มาปลุกนางมากินข้าว

หลังจากกินข้าวแล้ว ก็ไปเดินเล่นในสวน หลังจากเดินเล่นย่อยอาหารแล้ว ก็ไปอาบน้ำ รอเจ้าเจ็ดอยู่ครู่หนึ่ง เห็นเขายังไม่กลับมา นางก็เริ่มง่วง เลยคิดอยากจะไปนอนก่อน รอเขากลับมาแล้วค่อยไปกินมื้อดึก

ไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหน ก็เหมือนมีมือหยาบ ๆ มาลูบหน้า นางลืมตาขึ้นมา เหมือนสายตากลม ๆ ดำ ๆ กำลังจ้องนางอยู่

นางยิ้ม แล้วเอามือจับไปที่มือเขา “กลับมาแล้วเหรอ?”

“ขอโทษนะ ดื่มกับพี่รองมากไปหน่อย เลยผิดเวลาไปหน่อย” ซือถูเย้นพูด

“ไม่เป็นไร” หลีโม่เอาผ้าห่มปิดแล้วลุกขึ้นมานั่ง นางถามว่า “เขาเป็นยังไงบ้าง?”

ซือถูเย้นนั่งลง ถอนหายใจ “ถือว่าก็ปรามได้ชั่วคราว แต่ว่า เรื่องนี้ปล่อยไว้นาน ยิ่งอันตราย อย่าว่าพี่รองทนไม่ไหว ท่านแม่ยายก็จะอันตราย”

“พรุ่งนี้ข้าต้องเข้าวัง คิดได้วิธีหนึ่ง ทำยาขึ้นมาให้พระสนมหมุยเฟย” หลีโม่พูด

“อือ แต่ว่าหมุยเฟยดูจังหวะเวลาอย่างดีแล้วค่อยลงมือนะ ฝ่าบาทตอนนี้ ...... หากเขาจับได้ว่าเป็นเพราะหมุยเฟย ก็จะต้องนึกถึงเรื่องของอี๋กุ้ยเฟย มันอันตรายเกินไป” ซือถูเย้นเตือน

หลีโม่เองก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน นางคิด แล้วพูดว่า “เอาอย่างนี้ไหม ตอนที่ข้าไปที่ตำหนักซีเวยค่อยไปถอนพิษกู่ให้กับท่านแม่”

ฮ่องเต้จบเรื่องของปีศาจจิ้งจอก ยืนยันความบริสุทธิ์ให้นาง เพียงแค่อยากใช้ฝีมือการแพทย์ของนางมารักษาอาการให้เขาเท่านั้น หลังจากนี้ นางต้องได้ไปที่ตำหนักซีเวยมากขึ้นกว่านี้แน่นอน

เพียงแต่ ต้องทำให้อ๋องอานชินอดทนให้ไหวแค่นั้น

“ช่วงนี้เจ้าจะต้องจับตาพี่รองให้ดีนะ อย่าให้เขาทำอะไรวู่วามเด็ดขาด” หลีโม่กำชับอีกครั้ง

“ที่จริงตัวเขาเองก็รู้ สถานการณ์แบบนี้ แต่ว่า ความรู้สึก มันใช้สมองไม่ค่อยได้ผล”

มือของเขา ลูบไล้ไปที่หน้าของนาง สายตาของเขาเหมือนไฟที่แผดเผา จากกันไปหลายวัน สิ่งที่เขาคิดถึงมากที่สุด ก็คือกดให้นางอยู่ด้านล่าง

เขาจูบนาง หลีโม่ลังเล แล้วพูดว่า “ไม่ อดทนหน่อยเถอะนะ”

“เจ้าเหนื่อยเหรอ? ข้าเบาหน่อยก็ได้” ตลอดทางที่กลับมาจากวัดป่าวอาน ถนนมันไม่ค่อยเรียบ นางต้องเหนื่อยมากแน่ แต่ว่า เขาคิดถึงนางมากจริง ๆ

ปากจะพูดอะไรก็ได้ แต่เหมือนไฟแห่งความเร่าร้อนลุกโชนขึ้นมา หลีโม่รู้ว่าเขาอดมานาน เลยพูดว่า “ได้ แต่เบาหน่อยนะ”

ซือถูเย้นจูบนางอย่างเบา ๆ แล้วค่อย ๆ ให้นางนอนลง อย่างทะนุถนอม

มื้อดึกของหลีโม่ยังไม่ได้กิน แต่มื้อดึกของซือถูเย้นได้กินแล้ว

หลีโม่เหนื่อยจนปวดเอวไปหมด นางเตือนตัวเองว่า ต่อไปจะยอมไม่ได้อีกแล้ว

เพราะเหนื่อยมาก นางก็หลับเป็นตาย

จนกระทั่งนางได้ยินเสียงตะคอกของหยางมามา นางถึงได้ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา

มามาไม่ได้ตะคอกใส่นาง แต่เป็นซือถูเย้น

ซือถูเย้นตื่นมาแต่เช้า จากนั้นก็สั่งให้คนเข้ามาในห้อง

มามาเป็นคนเก่าแก่ประสบการณ์สูง นางมองทีเดียวก็รู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง นางเลยโมโหขึ้นมา ไม่สนใจว่าจะล่วงเกินอะไรเขา นางตะคอกใส่ซือถูเย้นอย่างรุนแรง “ท่านอ๋องทำไมถึงได้ไม่มีความอดทนอดกลั้นเอาซะเลย? ตอนนี้ร่างกายของพระชายาไม่ได้เหมือนแต่ก่อนแล้วนะเพคะ ต่อให้ทนไม่ไหว ก็ต้องทน หากทำให้พระชายาทรงบาดเจ็บขึ้นมาจะทำยังไงเพคะ?”

ซือถูเย้นไม่พอใจมาก เขาพูดว่า “เรื่องบนเตียงของข้ากับพระชายา ต้องให้มามามายุ่งตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

หลีโม่เห็นเจ้าเจ็ดเริ่มโมโหแล้ว ก็รีบพูดทำให้บรรยากาศดีขึ้น นางพูดกับมามาว่า “มามา ไม่เป็นไร ข้าเป็นหมอ ข้ารู้ว่าควรทำยังไงนะ”

ถึงแม้มามาจะถูกซือถูเย้นต่อว่า แต่นางก็ไม่กลัว นางจ้องไปที่เขาแล้วพูดว่า “หากเป็นเมื่อก่อนข้าน้อยก็จะไม่ยุ่งหรอกเพคะ แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิม ท่านอ๋องอานหรานกำชับนักหนา สามเดือนแรก จะเอาแต่อารมณ์ไม่ได้ หากท่านอ๋องทรงรักพระชายาจริง ท่านอ๋องก็ต้องทะนุถนอมพระชายากับลูกในท้องของนางสิเพคะ ควรจะอดทนอดกลั้นหน่อยสิเพคะ”

ซือถูเย้นกำลังจะหยิบเสื้อมาใส่ เมื่อได้ยินดังนั้น ก็จ้องไปที่มามา “เจ้าว่าเด็กอะไร?”

มามาเดิมคิดว่าเขาต้องโมโหมากแน่ ๆ เลยเตรียมตัวเตรียมใจรับมือไว้แล้ว เมื่อได้ยินประโยคที่เขาถามประโยคเดียว นางก็อึ้งไป จากนั้นก็หันไปมองหลีโม่ เหมือนจะเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น “พระชายา ทรงไม่ได้ทูลท่านอ๋องเหรอเพคะ?”

หลีโม่เองก็ตะลึงไป “ท่านอ๋องอานหรานบอกแล้วนี่นา”

“พูดอะไรกัน?” ซือถูเย้นตะคอก ทำให้หลีโม่ตกใจมาก

มามาพูดด้วยความโมโหว่า “ท่านอ๋องทรงดุทำไมเพคะ? พระชายาทรงตั้งครรภ์อยู่นะเพคะ เรื่องนี้ทรงไม่ทราบหรือยังไง?”

“ใครรู้อะไร? ใครบอกอะไรข้า?” ซือถูเย้นโมโหมาก ตั้งแต่เมื่อวาน ไม่เห็นมีใครบอกอะไรเขาสักอย่าง

หลีโม่ยิ้ม “เมื่อวานท่านอ๋องอานหรานไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือยังไง?”

“ไม่มี เขาพูดตอนไหน?” ซือถูเย้นคิด “อ่า? เขาบอกเรื่องน่ายินดี หรือว่าเขาพูดถึงเรื่องที่เจ้าท้องเหรอ?”

หลีโม่ยิ้มแล้วพูดว่า “ข้าคิดว่าเขาบอกแล้ว ข้าเลยไม่ได้บอกอีก”

ซือถูเย้นตาโตกลมจนจะหลุดออกมาแล้ว ความโมโหเมื่อครู่ เหมือนจะหายไปหมด ใบหน้าเปลี่ยนไปอึ้ง ๆ จากนั้นก็ค่อย ๆ มองไปที่ท้องของหลีโม่ ดวงตาของเขา มันกลมมากขึ้นไปอีก มีประกายอีกด้วย

มันน่าประหลาดใจมากเลย ลูกของเขา ลูกของเขากับหลีโม่ อยู่ในท้องของนาง

เขาหันไปยอมรับผิดของหยางมามาอย่างจริงจัง “มามา ท่านพูดถูก ข้าเองที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ ท่านด่าได้ดี ต่อไป ต้องด่าข้าอีกนะ”

มามายิ้มแล้วพูดว่า “ใครจะไปคิดว่าคนเป็นพ่ออย่างท่าน จะไม่รู้เรื่องนี่เพคะ”

ซือถูเย้นเดินไปหาหลีโม่ แล้วก้มลงไปพยุงนาง “นอนลงเร็วเข้า นอนต่อเดี๋ยวนี้ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า? หิวไหม? อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม?”

หลีโม่พูดว่า “ข้าจะตื่นแล้ว วันนี้ต้องเข้าวัง เจ้าลืมไปแล้วเหรอ?”

“ห้ามไป ที่ไหนก็ห้ามไปทั้งนั้น” ซือถูเย้นปฏิเสธทันควัน ยังมีอีก เขาต้องคิดให้ดีดี ใครบ้างที่มาไม่ได้อีก หลิ่วหลิ่วกระโดกกระเดก จะให้มาไม่ได้ เดี๋ยวชนหลีโม่มันจะแย่เอา

ยังมี หลิงลี่เองก็ต้องห่าง หลิงลี่กลิ่นอายสังหารแรงเกินไป เกิดกระทบกับเด็กขึ้นมาจะไม่ดี

จื่นเฉิง เองก็ไม่ได้ จื่นเฉิงชอบลำพองตน เด็กอยู่ในท้องแม่ จะเห็นได้ ต่อไปเขาอาจจะเป็นแบบนั้น

ฉินโจวเองก็ให้มาไม่ได้ เขาเองก็เจ้าแผนการ อาจกระทบเด็กได้

เขานับนิ้วให้มามาฟัง ต่อไปหากคนพวกนี้มา ก็ให้คนขวางเอาไว้

หลีโม่พูดอารมณ์เสียใส่เขา “จื่นเฉิงอยู่ที่นี่ทุกวัน จะไม่ให้เจอได้ยังไง? เขาลำพองที่ไหนกัน? หน้าเขาแค่บวมไปหน่อยแค่นั้น ยังมี หลิ่วหลิ่ว จะมากระโดดโลดเต้นคงทำไม่ได้แล้ว นางก็ท้องเหมือนกัน ส่วนหลิงหลี่ หากนางไม่อยู่กับข้า ใครจะคุ้มครองข้าล่ะ? เจ้ารับประกันได้ไหมว่าอยู่กับข้าได้ตลอดเวลา?”

ซือถูเย้นเหมือนพูดไม่ออก มามาหัวเราะ ในใจของนางนึกดีใจ เมื่อวานเห็นท่านอ๋องดูเย็นชา นางคิดไปไกลถึงขนาดว่าท่านอ๋องไม่ให้ความสำคัญกับพระชายา ที่แท้ เขาก็ไม่รู้นี่เอง

“งั้นต่อไปเวลานางมา เจ้าก็อยู่ห่าง ๆ นางหน่อย”

“แต่ว่า วันนี้ข้าต้องเข้าวังนะ” หลีโม่พูด

ซือถูเย้นน้ำเสียงแบบไม่มีการให้โอกาสต่อรอง “ไม่ได้ ห้ามไปไหนเด็ดขาด สามเดือนแรก สามเดือนกลาง สามเดือนท้าย ห้ามไปไหนทั้งนั้น”

เขาเคยได้ยินมาก่อน คนท้องสามเดือนแรก สามเดือนกลาง สามเดือนท้าย สำคัญมาก นั่นก็คือช่วงตลอดเก้าเดือนมันสำคัญมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม