ตอนที่ 767 ในใจรู้สึกสะใจมาก – ตอนที่ต้องอ่านของ พิษรักองค์ชายโฉมงาม
ตอนนี้ของ พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 767 ในใจรู้สึกสะใจมาก จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตอนที่ 767 ในใจรู้สึกสะใจมาก
เขาลาเหลาไท่จุน จากนั้นก็กลับจวน
หลีโม่ดื่มน้ำแกงไปแล้ว ก็ไปนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่สวน เห็นเขากลับมา ก็เงยหน้ามองไปที่เขา “ซือถูจิ้งยอมไปไหม?”
“ไปแล้ว”
“ก็ดี นางไปข้าก็วางใจ” หลีโม่วางหนังสือลง “เจ้าไปตั้งนาน ข้าคิดว่านางไม่ยอมไปซะอีก”
ซือถูเย้นเดินไปหานาง แล้วโอบไหล่นาง “เปล่า ข้าไปที่จวนตระกูลเฉินมา”
“จวนตระกูลเฉิน? ไปที่นั่นทำไม?” สายตาของนางสงสัยมาก
ซือถูเย้นค่อย ๆ คุกเข่าลง แล้วจับมือของนางเอาไว้ แล้วมองไปที่นาง แสงอาทิตย์ส่องลงมา ใบหน้าของนางดูสะอาด เหมือนแสงทองเลย
“หลีโม่ ข้าอยากคุยกับเจ้า” ซือถูเย้นพูดอย่างจริงจัง
หลีโม่หัวใจเต้นแรงมาก “เป็นอะไรไป?”
“เจ้าฟังข้าพูดนะ” ซือถูเย้นพูดแล้วจับมือของนางเอาไว้ “ข้าเพิ่งจะเคยเป็นพ่อคนครั้งแรก ดังนั้น ข้าไม่รู้ว่าข้าควรจะจัดการกับความรู้สึกแบบนี้ยังไง ข้ารู้สึกดีใจมาก แต่ว่าข้าเองก็รู้สึกกลัว ข้ากังวลหลายเรื่อง ข้ากลัวว่าข้าจะเลี้ยงดูลูกของเราได้ไม่ดีพอ ดังนั้น ข้าเลยไปหาเหลาไท่จุนมา คนในตระกูลเฉินรักใคร่กลมเกลียวกันมาก คิดว่านางน่าจะมีประสบการณ์”
หลีโม่โล่งใจ นางตกใจหมดเลย คิดว่าเกิดอะไรขึ้นอีก ที่แท้เขาก็กังวลมากนี่เอง นางเป็นคนท้องยังไม่กังวลเลย คนเป็นพ่อกลับร้อนใจแล้ว
“แล้วเจ้าได้คุยกับเหลาไท่จุนแล้ว ตอนนี้รู้หรือยังว่าควรจะเป็นพ่อคนยังไง?” หลีโม่ถาม
“ไม่รู้ แต่ว่าในใจพอจะมีข้อมูลเบื้องต้นแล้ว” ซือถูเย้นคิด แล้วก็พยายามเรียบเรียงความสับสนของเขาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “เอาตัวเองเป็นตัวอย่าง”
หลีโม่ยิ้ม คำพูดแบบนี้มันมีระดับมากเลย
เจ้าเจ็ด น่ารักมากเลย
“ไม่ว่าลูกของเราจะเป็นผู้ชายหรือว่าผู้หญิง ข้าไม่อยากให้เขาเป็นคนเหมือนข้าที่ใคร ๆ ที่เห็นแล้วก็ต้องหวาดกลัว ดังนั้น ก่อนที่ลูกของเราจะลืมตาดูโลกขึ้นมา ข้าจะเปลี่ยนนิสัยของตัวเอง หากข้าอดหงุดหงิดโมโหไม่ได้ เจ้าต้องเตือนข้านะ”
หลีโม่อดขำไม่ได้ “ไม่ เจ้าเจ็ด เจ้าไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลยนะ พ่อเข้มงวดแม่ใจดี แบ่งกันคนละครึ่ง ดีออก”
ซือถูเย้นคิด “แต่ว่า ข้าหวังว่า ข้าจะเป็นพ่อที่ใจดี ส่วนเจ้าเป็นแม่ที่เข้มงวด”
“ได้ ไม่เป็นไรเลย เราทำเพื่อลูกของเราทั้งนั้นแหละ” หลีโม่พูด
ซือถูเย้นมองไปที่นาง ในใจก็รู้สึกหงุดหงิด เหมือนแม้แต่หลีโม่ยังจัดการเรื่องพวกนี้ได้ดีกว่าเขา
เฮ้อ เขารู้สึกกลัดกลุ้ม
“เจ้าเจ็ด การมาของเด็กคนนี้ เจ้าดีใจจริง ๆ ใช่ไหม?” หลีโม่ถามอย่างกังวล เขาเหมือนจะดีใจมาก แต่ว่า ความดีใจมันไม่ได้นาน มันแปรเปลี่ยนเป็นความกังวลมากกว่า
ซือถูเย้นพยักหน้า “จะไม่ดีใจได้ยังไง? ข้ายินดีที่จะใช้ชีวิตของข้าแลกกับเด็กคนนี้ แต่ว่า เพราะข้าดีใจมาก ให้ความสำคัญมาก ข้าถึงได้กังวล ข้ากลัว ...... กลัวว่าเขาเป็นเหมือนอดีตรัชทายาทแล้วก็เจ้าแปด”
“ไม่มีทาง” หลีโม่น้ำตาไหล “เราจะอยู่เคียงข้างลูกของเรา อบรมเขาไปในทางที่ถูกต้อง สอนหลักการความเป็นคนให้เขา บอกเขาว่า เรื่องอะไรที่ทำได้ แต่เรื่องอะไรที่ไม่ควรทำ”
“สิ่งที่เจ้าพูด เหมือนกับเหลาไท่จุนเลย เหลาไท่จุนบอกว่า ไม่มีปัญหาอะไรที่การอยู่เคียงข้างจะแก้ไขไม่ได้” ซือถูเย้นพูด
“ใช่ ปัญหาทุกอย่างของลูก ต้องใช้การอยู่เคียงข้างมาแก้ปัญหา ยังมีอีกคำหนึ่งที่เจ้าพูดมาสำคัญมาก ใช้ตัวเองเป็นแบบอย่าง เจ้าแปดทำไมถึงได้กลายเป็นแบบนั้นได้? เพราะเขาหลงใหลในอำนาจชอบการต่อสู้แย่งชิง แม่ของเจ้าไม่เพียงไม่ได้ห้ามปรามเขาแต่ยังช่วยเขาให้มีใจใฝ่ในอำนาจมากขึ้น ทำไมอดีตรัชทายาททำไมถึงได้ตกอยู่ในสภาพนี้? เพราะฮองเฮาลำเอียง แล้วบอกกับเขาตั้งแต่เล็ก ว่าเขาจะได้เป็นฮ่องเต้ในอนาคต เขาจะมีอำนาจในมือ เขาไม่ต้องพยายามก็จะได้ในทุกสิ่งทุกอย่าง นี่เป็นเพราะพวกนางไม่ได้มองถึงผลที่ตามมา”
“อือ ทางฝ่าบาท สงสัยอะไรในตัวเจ้าหรือเปล่า?” ซือถูจิ้งถาม
“ตอนนี้ยังไม่มี องค์หญิงวางพระทัยได้”
ซือถูจิ้งพยักหน้า “ก็ดี แต่อย่างที่หลีโม่บอกไป เรื่องนี้ ยังมีช่องโหว่อยู่ เจ้าต้องคิดคำแก้ตัวให้ดี เช่นว่า ทำไมเจ้าถึงได้รู้เรื่องที่อี๋กุ้ยเฟยสังหารซุนฟางเอ้อร์ อีกทั้งรู้ได้ยังไงว่านางฝังศพที่ด้านหลังสวนในตำหนัก ตอนนี้ฝ่าบาทไม่ทรงถาม แต่หลังจากเขาได้สติใจเย็นลงกว่านี้ เขาต้องถามแน่”
หมุยเฟยพูดว่า “องค์หญิงวางพระทัยได้ หม่อมฉันได้คิดคำพูดไว้อย่างรอบคอบแล้ว”
“ยังมีอีกเรื่อง เฮ่าเอ๋อมาแจ้งข่าวในวังของเจ้า เขามาด้วยตัวเองหรือเปล่า?”
หมุยเฟยส่ายหน้า “เปล่า ท่านอ๋องไม่ได้ทรงเสด็จมาเอง แต่เขาให้คนของเขานำของบำรุงมาให้ เพื่อแสดงความยินดีที่หม่อมฉันตั้งครรภ์ มาแค่สองครั้ง ดังนั้น มันถือเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้น ข้อนี้ไม่มีใครสงสัยเลย”
“อือ ดี ดี” ซือถูจิ้งนึกขึ้นมาได้ว่าสงสัยนาง เหมือนนางจะคิดมากไป “ตอนนั้นข้าสงสัยว่าเจ้าเป็นคนทำร้ายหลีโม่ ข้าเข้าใจเจ้าผิดไป ข้าต้องขออภัยเจ้าด้วย”
ตอนที่พูด แล้วก็ลุกขึ้นมาถอนสายบัวขอขมา
หมุยเฟยตกใจมาก เลยพยุงนาง “ข้า ไม่ได้ ไม่ได้ หม่อมฉันรับไม่ไหวเพคะ องค์หญิงสงสัยในตัวหม่อมฉัน มันก็เป็นเรื่องธรรมดา มันก็เป็นคนของหม่อมฉัน ตงหมุย สมคบคิดกับอี๋กุ้ยเฟยจริง ๆ”
“ยังดีที่หลีโม่ยังยืนยันที่จะเชื่อใจเจ้า ไม่อย่างนั้น ข้าคงต้องเข้าใจเจ้าผิดแบบนี้จริง ๆ ไม่รู้ว่าจะทำเรื่องอะไรต่อเจ้าหรือเปล่า? จริงสิ ยาที่หลีโม่ให้เจ้ากิน ที่จะทำให้เจ้าตรวจเจอชีพจรตั้งครรภ์ พวกหมอหลวงไม่ได้สงสัยใช่ไหม? ยังมีตอนที่แท้ง หมอหลวงได้พูดอะไรหรือเปล่า?”
หมุยเฟยส่ายหน้า “หมอหลวงไม่ได้สงสัยเลย ทุกคนยืนยันว่าเป็นการตั้งครรภ์ ส่วนตอนที่แท้ง หม่อมฉันตั้งใจแทงไปที่ท้อง ชุดนั่นหลวมมาก เลือดมันไหลออกมาตรงช่วงท้อง มันเลยเหมือนการแท้ง”
ซือถูจิ้งได้ยินนางพูดแบบนี้ ก็อดจับมือของนางไม่ได้ “ลำบากเจ้าแล้วนะ เจ้าต้องลำบากมากจริง ๆ”
หมุยเฟยยิ้ม “ไม่มีอะไรเลย? หม่อมฉันอดทนอดกลั้นมากว่าสิบปี ตอนนี้ในใจมันมีแต่ความสะใจ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...