พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 770

สรุปบท ตอนที่ 770 ชิงคน: พิษรักองค์ชายโฉมงาม

สรุปตอน ตอนที่ 770 ชิงคน – จากเรื่อง พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง

ตอน ตอนที่ 770 ชิงคน ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดยนักเขียน ใบไม้แดง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่ 770 ชิงคน

เขาหันหลัง เสียงของฮ่องเต้ตามหลังมาว่า “หากเจ้าไม่ยอมรับปาก เจ้าต้องได้รับผลกรรมของตัวเอง”

ซือถูเย้นไม่ได้หยุดเดิน เขาไม่มีความลังเลใจเลย เขากลับไปพร้อมกับความโกรธ

ฮ่องเต้หัวเราะ เริ่มแรกเขาหัวเราะเบา ๆ จากนั้นก็ดังขึ้น เขาหัวเราะไปร้องไห้ไป

“ฝ่าบาท ทรงถนอมพระวรกายด้วย” ลู่กงกงเห็นแล้วก็เศร้าใจ เขารีบเดินมาปลอบ

ฮ่องเต้ยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตา “ข้าไม่มีหัวใจ ใช่ไหม? แต่ว่าข้าไม่ทำได้เหรอ? ความสัมพันธ์พี่น้อง คิดว่าคงขาดลงแล้วล่ะ”

ลู่กงกงอดไม่ได้จริง ๆ เขาพูดว่า “ฝ่าบาท ทรงกังวลมากเกินไปหรือเปล่าพะยะค่ะ? ท่านอ๋องอาจจะไม่เคยคิดจะชิงอำนาจเลยก็ได้”

ฮ่องเต้จ้องไปที่ลู่กงกง ลู่กงกงตกใจ รีบคุกเข่าลงทันที “หม่อมฉันผิดไปแล้ว ทรงอภัยด้วย”

ฮ่องเต้หลับตาลง ใบหน้าของเขาเศร้าใจมาก “ข้าไม่ทำไม่ได้ ก่อนหน้านี้ ข้าเชื่อว่าเขาไม่มี แต่ตอนนี้? ไม่ เขาได้ลองรสชาติของอำนาจแล้ว แต่เลือดในตัวลูกผู้ชาย ไม่มีทางไม่มองอำนาจ ใครบ้างจะไม่มีความทะเยอทะยาน? ใครไม่อยากได้แผ่นดินบ้าง? มีเพียงเขากลายเป็นคนอย่างพวกเจ้า ถึงจะไม่มีความทะเยอะทะยานนั่น ถ้าอย่างนั้น ต่อให้ข้าตายไป ก็ตายตาหลับแล้ว”

ลู่กงกงตกใจมาก ฝ่าบาททำไมถึงทรงคิดแบบนี้? มันโหดร้ายเกินไปแล้ว

คนที่เปลี่ยนไปไม่ใช่ท่านอ๋อง แต่เป็นฮ่องเต้เอง

แต่ว่า ในเมื่อเป็นแค่บ่าว ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก

ลู่กงกงพูดว่า “ฝ่าบาท ท่านทรงเป็นกษัตริย์ที่ดีมาโดยตลอด คิดถึงวันแรกที่ทรงขึ้นครองราชย์ ทรงคิดการปกครองการบริหารประเทศ ใครมีความสามารถก็เก็บไว้ใช้งาน ต้าโจวของเราเข้มแข็ง ตอนที่ทรงขึ้นครองราชย์ได้สี่ปี ก็ส่งทำให้เราเทียบเท่าต้าเหลียงได้แล้ว แม้แต่ไทฮองไทเฮก็ยังชื่นชมพระองค์ด้วยเลย บอกว่าท่านรักประชาชนขยันทำงาน เป็นฮ่องเต้ที่ดี ในราชวงศ์ก็ทรงเป็นพ่อที่ใจดีเป็นลูกที่กตัญญู พี่น้องเคารพนบน้อม เป็นเพราะตัวของพระองค์ทั้งนั้น”

ลู่กงกงคุกเข่าอยู่ที่พื้น เพราะคำว่าเป็นพ่อที่ใจดีเป็นลูกที่กตัญญู พี่น้องเคารพนบน้อม เขาหวังว่า ฮ่องเต้ยังจำได้ ท่านอ๋องกับฮ่องเต้สนิทชิดเชื้อมาตลอด

แต่ว่า ฮ่องเต้เหมือนจะรู้เจตนาของเขา เขาพูดว่า “พี่น้องเคารพนบน้อม? พ่อที่ใจดีเป็นลูกที่กตัญญู? เจ้าแปดทำอะไรอยู่? เจ้ารู้หรือเปล่า? รัชทายาทลูกทรพีนั่น แม้แต่สนมของข้ามันยังกล้าคบชู้ นี่นะเหรอพ่อที่ใจดีเป็นลูกที่กตัญญู? ข้าเชื่อใจพวกเขามากเกินไป เริ่มจากอดีตรัชทายาทกับเหลียงไท่ฝู่ ต่อมาก็กุ้ยไท่เฟยกับเจ้าแปด มีใครบ้าง ที่ไม่ใช่คนที่ข้าเชื่อใจ? แล้วเจ้าเจ็ดจะไม่เป็นเหรอ? เขาจะไม่เป็นงั้นเหรอ”

เขาโบกมือแล้วพูดว่า “เจ้าไม่ต้องพูดแล้ว พรุ่งนี้ หากเสี้ยหลีโม่ไม่เข้าวังมา เจ้าก็ไปตามอ๋องอานชินมาพบข้า”

ต่อให้เขาต้องตาย ก็จะต้องตัดความคิดของเจ้าเจ็ดให้ได้

ลู่กงกงสะดุ้ง “ฝ่าบาททรงคิดจะทำอะไรพะยะค่ะ?”

“เจ้าไม่ต้องถามมาก” ฮ่องเต้พูด

ลู่กงกงลุกขึ้นแล้วถอยหลังไปสองก้าว เขาก้มหน้าลงแล้วพูดว่า “หม่อมฉันผิดไปแล้ว”

คำพูดระหว่างพี่น้อง มันทำร้ายจิตใจของซือถูเย้นมาก

ซือถูเย้นไม่มีทางให้หลีโม่เข้าวังไปแน่นอน แต่ว่า หลีโม่กลับไม่ไปไม่ได้ เพราะแม่ของนางยังอยู่ในมือของเขา

สองสามีภรรยาทะเลาะกันยกใหญ่ สุดท้าย ซือถูเย้นก็ยังไม่ยอม เขาบอกว่าแค่ว่าเขามีวิธีช่วยหลี่ซ่วยหยุ่นออกมา

ซือถูเย้นรู้สึกหงุดหงิดใจมาก เขาไม่ได้บอกเรื่องที่ฮ่องเต้พูดกับเขาให้หลีโม่รู้ คำพูดพวกนี้ เขาพูดกับใครไม่ออกเลย

หลีโม่รู้ว่าหลังจากที่เขาเข้าวังไปแล้วกลับออกมา เขาพูดว่าไม่ให้นางเข้าวัง นางรู้ว่าต้องเกิดเรื่องแน่นอน

ไล่ถามเขาหลายครั้ง แต่เขาไม่ยอมพูดอะไรเลย หลีโม่เองก็จนปัญญา

“งั้นเจ้าพูดมา เจ้ามีวิธีอะไรไปช่วยท่านแม่ออกมา? ส่งคนบุกเข้าไปหรือไง? ตำหนักซีเวยมีการเฝ้าเวรยามเข้มงวด คิดจะช่วยคนออกมา มันง่ายที่ไหน? ดีไม่ดี ท่านแม่อาจจะตายก็ได้”

ที่หลีโม่กังวลใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล ฮ่องเต้สั่งให้มือดีหลายคนเฝ้าตำหนักซีเวยเอาไว้ คิดจะบุกเข้าไป ก็ต้องให้คนของอ๋องเย่ออกโรง แต่ถ้าทำแบบนั้น อ๋องเย่ก็จะถูกพวกเขาดึงจมน้ำไปด้วย

อีกทั้ง คนของอ๋องเย่ส่วนมากเป็นชาวยุทธ์ เห็นทหารองครักษ์ในวังก็ขัดหูขัดตา หากลงมือฆ่ากันขึ้นมา หากเพราะแบบนี้ทำให้มีคนตาย นางจะยอมได้ยังไง? ชีวิตหนึ่งชีวิตเบื้องหลังยังมีครองครัวอีกหลายชีวิต

ซือถูเย้นคิดอยู่นาน แล้วพูดว่า “เจ้าวางใจได้ ข้าจะไปพูดกับเหลียงสู้หลินดู”

“เจ้าคิดว่า เขาจะช่วยเราเหรอ?”

เดิมทีนางก็ไม่คิดจะถาม แต่ว่า เขายอมบอกกับอ๋องอานชิน แต่ไม่ยอมบอกนาง?

ซือถูเย้นก้มหน้าลงแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไรหรอก ข้าแค่ไม่อยากให้เจ้าเข้าวังเท่านั้น”

หลีโม่ส่ายหัว “ช่างเถอะ ไม่อยากพูดก็ช่าง”

นางกับหลิงหลี่ออกไปแล้ว ในสวนอากาศดีมาก แต่มันไม่ได้ทำให้หลีโม่สบายใจเลย

“ท่านอ๋องทรงทำอะไร ก็หวังดีกับพระชายาเสมอนะ พระชายาอย่าทรงคิดมากไปเลย” หลิงหลี่ปลอบ

หลีโม่เงียบไป นางจับไปที่ราวทางเดินในสวน “ข้ารู้ว่าเขาหวังดีกับข้า ข้าแค่อยากรู้ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

“เขาไม่บอก แสดงว่าเขาต้องมีความลำบากใจ หรือไม่ก็ อาจมีเรื่องที่ที่ไม่ควรพูด”

หลีโม่คิดไม่ถึงว่า ฮ่องเต้บอกให้เขาทำอะไร

ตอนนี้ เขาต้องขอร้องนางไม่ใช่เหรอ

อ๋องอานชินเห็นเขาไล่หลีโม่ออกไป ก็รู้ว่าเรื่องนี้ร้ายแรงมาก เขานิ่งไปแล้วถามว่า “พูดมาได้ล่ะ ทำไมถึงไม่ยอมให้หลีโม่เข้าวัง”

ซือถูเย้นเองก็นั่งลง แล้วค่อย ๆ คลายกำปั้นในมือออก เขาพูดว่า “เขาต้องการให้หลีโม่แท้งลูก ยังจะให้ข้าหย่ากับนาง แล้วคิดจะให้ข้ากินยาให้เป็นหมันมีลูกไม่ได้อีกตลอดชีวิต”

อ๋องอานชินไม่โมโหแต่กลับหัวเราะ “เขาบ้าไปแล้วหรือไง?” ยาทำให้เป็นหมันเขารู้จักดี หลังจากที่กินลงไปแล้ว ก็จะไม่ต่างอะไรกับขันที ถึงแม้จะยังมีอยู่ แต่ก็ใช้การไม่ได้

“เขาบ้าไปแล้วจริง ๆ วิธีที่เขาทำ มันเป็นวิธีการกระตุ้นทั้งนั้น รู้ว่าเขาคิดทำอะไร ข้าจะให้หลีโม่เข้าวังไปอีกได้ยังไงกัน?”

อ๋องอานชินตบโต๊ะ แล้วตะคอกว่า “ถ้าอย่างนั้น ก็บุกเข้าวังไปชิงตัวคนมาเลย”

“เดิมทีข้าเองก็คิดแบบนั้น แต่ว่า เรื่องนี้ต้องหารือกับเจ้าเก้าก่อน เรามีคนฝีมือไม่มาก เขามีทหารอารักขาทั้งวัง คิดจะไปชิงตัวมา หากพลาด ท่านแม่ยายจะอยู่ในอันตราย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม