พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 774

สรุปบท ตอนที่ 774 แอบหนีออกไป: พิษรักองค์ชายโฉมงาม

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 774 แอบหนีออกไป – พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง

บท ตอนที่ 774 แอบหนีออกไป ของ พิษรักองค์ชายโฉมงาม ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ใบไม้แดง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 774 แอบหนีออกไป

หลังจากหลิงลี่ออกไป ไม่นาน

เขาดูเหมือนจะเหนื่อยมาก หลีโม่รู้ว่าหลายวันนี้เขานอนไม่หลับ จัดการเรื่องมากมาย แล้วตนเองก็ช่วยอะไรไม่ได้

“ทำไมวันนี้กลับเร็ว?” นางออกไปช่วยถอดเสื้อคลุมออก แล้วถามเบาๆ

“ใช่แล้ว คืนนี้นัดเจ้าเซียวโธ่ไว้ จะคุยกันเรื่องการเป็นพ่อคน” ซือถูเย้นพูดยิ้มๆ

หลีโม่รู้ว่าเขานัดอ๋องเย่ไว้ แต่ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แล้วยิ้มตอบว่า “เซียวโธ่นั่น ซุกซนจะตาย จะรู้เรื่องการเป็นพ่อคนหรือ?”

“ดังนั้น ข้าก็จะไปสอนเขาไง” ซือถูเย้นเอามือมาโอบเอวนาง แล้วยิ้มร้ายๆ “ข้าก็สอนคนเป็นเหมือนกันนะ”

หลีโม่ตอบ “ก็จริงนะ ต้องมีคนสอนหน่อย ตอนที่เราแต่งงานกันแรกๆ เจ้าก็สอนข้า หนังสือวางอยู่บนหัวนอนนั่น มันเป็นหนังสือดีนะ”

ซือถูเย้นก็เขินหน้าเสีย “ไม่ต้องพูดถึงหนังสือนั้นเลยนะ” มันเป็นเรื่องน่าอายของเขา ถ้ารู้ว่าเนื้อหาและรูปภาพในหนังสือมันแปลกๆ อย่างนั้น ไม่สู้ออกไปฝึกความเป็นชายตั้งแต่อายุ15แล้วเสียก็ดี

“เพียงแต่ พอนึกถึงภาพพวกนั้น แล้วอดใจไม่ได้ก็เท่านั้นเอง”

หลีโม่ก็จำได้ แล้วก็หัวเราะ ในหนังสือมีตอนหนึ่งที่กล่าวถึงท่ากระเรียนและไก่ลุกยืน เขาก็บอกว่าคนเขียน เขียนจากประสบการณ์ ก็เลยทำตามหนังสือ มันจะเป็นท่าบ้าบออะไรกัน ก็แค่ทำท่ามากเกินไปก็เท่านั้น ถ้าไม่ฉีกหนังสือนั้นทิ้ง ก็คงน่าขันมากกว่านี้

“ขำอะไร? มีอะไรน่าหัวเราะ? หนังสือก็บอกมีเหตุผลดี แต่เจ้าไม่รู้จักวิทยายุทธก็เท่านั้น ใครจะรู้ว่าเจ้าเป็นคนไม่มีจุดยืนขาเดียวไม่เป็น”

“แต่เจ้ายืนได้นะ” หลีโม่ทำท่าหัวเราะแล้วมองเขา “แล้วสุดท้ายละ?”

สุดท้ายก็ทำท่าแข็งทื่อ แล้วก็ล้มลงนอนไปด้วยกัน

“อย่าพูดถึงมันอีกนะ” ซือถูเย้นกัดฟันพูด

หลีโม่หัวเราะร่า “ท่ากระเรียนไก่ขาเดียว ยังดีหน่อย แต่ว่าท่ากระเรียนร่อน อันนั้นไม่ไหวจริงๆ”

ซือถูเย้นจับหน้านาง แล้วพูดว่า “ถ้าเจ้าพูดอีกละก็” แล้วเขาก็หน้าเจื่อน

หลีโม่หัวเราะหนัก สุดท้าย ก็ต้องให้ซือถูเย้นเอาปากมาปิดปากนางไว้ นางถึงจะหยุดพูด

แค่แซวเล่นนิดหน่อย ก็ทำให้เขาจูบขึ้นมา หลีโม่เกือบจะนอนในอ้อมกอดเขา “หรือว่าจะต้องหาผู้หญิงให้เจ้าหน่อยแล้ว”

“เจ้ากล้าหรือ?” ซือถูเย้นโกรธ

หลีโม่ยิ้มร้ายๆ แล้วก็ยื่นมือออกมา “แม่นางทั้ง5นี้ ใช้การได้ดีนะ”

กำลังเป็นชายที่วัยเลือดร้อน แล้วยังเพิ่งได้สัมผัสผู้หญิงเมื่อไม่นานนี้ แล้วจะให้อดไปตั้ง9เดือนได้อย่างไร?

ตอนช่วงกินอาหารค่ำ ซือถูเย้นมองมือหลีโม่ตลอด แล้วก็พูดว่า “ข้ามีคนคอยปรนนิบัติแล้ว”

หลีโม่ยกมือขึ้น แล้วก็ต่อยออกไป “ใช่สิ คนปรนนิบัติเจ้าไม่เพียงจะปรนนิบัติเจ้าได้ ทั้งยังต่อยเจ้าได้ด้วย”

ซือถูเย้นเอามือจับไว้ แล้วตอบว่า “แล้วคนปรนนิบัติคนนั้น มีชื่อว่าอะไรรึ?”

“ก็ชื่อว่า ฝ่ามือแม่น้ำทั้ง5ไง”

ก่อนหน้านี้ยังไม่มีลูก คิดว่าเอาชีวิตไปเสี่ยงก็ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้มีลูกแล้ว นางก็เลยมีห่วง และจะไม่เอาแต่ใจแล้ว

ซือถูเย้นพูดต่อว่า “สมมุติว่า ถ้าข้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมา เจ้าก็พาลูกไปหาผู้ชายดีสักคน แล้วแต่งงานใหม่เสีย อย่าอยู่คนเดียวทั้งชีวิต เข้าใจไหม?”

หลีโม่ได้ยินดังนั้น ก็เศร้าใจ “ไอ้เจ็ด วันนี้เจ้าเป็นอะไร? ชอบพูดเรื่องเศร้าๆ”

ซือถูเย้นพยายามยิ้ม “ไม่ได้พูดเรื่องเศร้า เพียงแต่ บางเรื่องมันอาจจะอยู่เหนือความคาดหมายของเรา หรือบางทีข้าอาจจะกังวลมากเกินไป ก็เลยพูดอะไรมั่วๆ ออกมา เพราะว่าพิษท่งหมิงในตัวข้า ยังไม่ถูกถอนออกไป เสี้ยฮ่าวหรานก็ไม่แน่ว่าจะคิดยารักษาซุนฟางเอ้อร์ได้ไหม? สรุปแล้ว ข้าคิดมากเกินไป รู้สึกสับสน ก็เลยพูดกับเจ้าแบบนี้ บางทีก็จะทำให้เจ้าได้วางแผนร่วงหน้า”

“หุบปากไปเลยนะ!” หลีโม่โมโห “คำพูดนี้ ข้าไม่อยากฟัง แล้วก็อย่าพูดขึ้นมาอีก พวกเราสามคนพ่อแม่ลูก จะต้องก้าวไปด้วยกัน”

“ได้ ได้” ซือถูเย้นเห็นนางโกรธ ก็เลยไม่พูด แล้วก็ปลอบนางว่า “ข้าปากพล่อยไปเอง เจ้าไม่ต้องคิดจริงนะ”

“เจ้ามีอะไรปิดบังข้า ใช่หรือไม่?” หลีโม่ถาม

“ไม่มีอะไรปิดบัง เพียงแต่ ตั้งแต่รู้ว่าเจ้าท้องแล้ว ในใจข้าก็เลยคิดถึงเรื่องที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคต ข้ารู้ว่าตนเองคิดมาเกินไป แล้วก็ไปถามอ๋องอานหรานมา เขาบอกว่านี่มันก็เป็นเรื่องปกติ ชีวิตคนก็ต้องเดินเป็นช่วงชีวิตไป และแต่ละช่วงชีวิตก็จะมีสิ่งที่น่ากังวลไม่เหมือนกัน ข้ายอมพูดกับเจ้า ก็แสดงว่าไม่มีอะไรปิดบัง ใช่ไหม?”

หลีโม่ก็นึกถึงเรื่องที่เขากังวล น่าจะเกิดจากการที่คนคนหนึ่งจะต้องเป็นพ่อคน ก็เลยกังวล

แต่เพื่อความระมัดระวัง นางก็ก้มหน้าพูด “ถ้าเจ้าวางแผนอะไรไว้แล้ว แล้วไม่บอกข้า แล้วหนีข้าไปทำเรื่องอะไรที่อันตราย แล้วข้ารู้ขึ้นมา ข้าจะไม่ให้อภัยเจ้าเลย ข้าจะเกลียดเจ้าไปตลอดชีวิต”

ซือถูเย้นหัวเราะ “ดูเจ้าพูดเข้าสิ ข้าจะมีแผนอะไร แล้วจะโกหกเจ้าได้อย่างไร?”

หลีโม่เห็นเขาหน้าเจื่อน ก็ยิ่งรู้ว่าต้องมีอะไรแน่ๆ ดูเหมือนว่า คืนนี้จะต้องไปหาอ๋องอานชินเสียจริงๆแล้ว เพราะต้องรู้ให้ได้ว่าในวังเกิดเรื่องอะไรขึ้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม