พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 780

ตอนที่ 780 ผู้รับใช้ที่ภักดี

คนของตึกเสหานกำลังเข่นฆ่าอย่างได้อารมณ์ แล้วก็เห็นคนกลุ่มใหม่เข้ามา ก็เลยคิดว่าเป็นกลุ่มตัวเอง เพราะพวกเขารู้ว่าจะแบ่งเป็น3กอง พวกเขาสนใจแต่กลุ่มตัวเอง แต่ไม่รู้ว่ากลุ่มอื่นเข้าโจมตีอย่างไร

คนรอบข้างไม่รู้ แต่ซือถูเย้นรู้

คนของเขา ได้เข้าโจมตีหมดแล้ว เหลือเพียง10กว่าคนไว้เป็นทัพหลัง คนที่เหลือนี้ ถ้าไม่มีคำสั่งของเขา ก็จะไม่บุกเข้าโจมตี เพราะเตรียมถอนกำลังอย่างเดียว

เขาชักดาบออก แล้วบุกไปทางคนชุดดำที่เข้ามาใหม่ ทำให้คนของตึกเสหานงงกันไปตามกัน

ซือถูเย้นตะโกนว่า “พวกนั้นไม่ใช่พวกเรา ดูที่ปกเสื้อ”

คนของตึกเสหานก็เพิ่งจะรู้ความจริง ไอ้พวกนี้ อยากจะแอบเข้ามาหรือ?

ฮ่องเต้ลุกขึ้น สะใจจนอยากจะตบมือ “สถานการณ์อันตรายเช่นนั้น ไอ้เจ็ดก็ยังมีสติอยู่อีก ยอดฝีมือ ยอดฝีมือจริงๆ ถึงว่า ทานพ่อเองก็เคยบอกว่า ไม่มีใครจะเทียบเขาได้”

“ฝ่าบาท พวกที่เข้ามาทีหลัง คือพวกไหน?” ลู่กงกงตกใจ ก็เลยถาม

ฮ่องเต้ตอบนิ่งๆ ว่า “คนที่แอบมาแฝงตัวมาแทรกแซงสถานการณ์เก่งแบบนี้ จะมีใครได้?”

ลู่กงกงก็คิด “อ๋อ อ๋องหนานหวย!”

“เขานั่นแหละ!” ฮ่องเต้ถอนหายใจเบาๆ “เหมือนข้าจะใจดีกับเขามากเกินไป”

เปากงกงก็อดพูดไม่ได้ “ฝ่าบาทใจดีกับอ๋องหนานหวย แล้วทำไมกับอ๋องซื่อเจิ้งถึงได้........”

“หุบปากเลยนะ!” ลู่กงกงไม่รอให้เขาพูดจบ ก็เปลี่ยนสีหน้า และดุเขา

เปากงกงก็รู้ว่าตนเองพูดผิดไป ก็เลยรีบหยุดพูด แล้วก็หน้าซีด

สายตาของฮ่องเต้ ก็มองขวางเปากงกงดั่งคมมีดจะเฉือนเนื้อ

เปากงกงเคยช่วยเหลือซือถูเย้นและเสี้ยหลีโม่ สำหรับฮ่องเต้แล้ว ก็เหมือนการหักหลัง แต่ว่า เขาก็เป็นนายบ่าวกันมาหลายปี ที่เขาพูดมาก็ไม่ถือว่าเป็นการล่วงเกิน แต่เป็นเพราะคนเคยมีบุญคุณต่อกัน เลยอยากปกป้องเป็นธรรมดา สามารถเข้าใจได้

ตอนนี้ เปากงกงออกหน้าพูดให้ซือถูเย้น ไปสะกิดผมในใจของเขา ก็เลยโกรธขึ้นมา จนใจเย็นลงไม่ได้

ลู่กงกงก็เลยเตือนว่า “ฝ่าบาทอย่าทรงกริ้ว ต้องเห็นแก่การใหญ่”

การใหญ่สำคัญสุด ต้องดึงสติฮ่องเต้มาให้ได้

ตอนนี้ จะเข่นฆ่ากันไม่ได้ ข้างกายเขาต้องการใช้งานคน

เปากงกงอยู่ในวังมานาน ก็มีความสัมพันธ์กันบ้าง และไม่กล้าทรยศฮ่องเต้

เขาค่อยดึงสายตากลับมา แล้วมองสถานการณ์ด้านนอกต่อ

เปากงกงหน้าเสีย ในใจก็รู้ว่าฮ่องเต้ต้องไม่ให้เขามีทางรอดแน่ เพราะคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายแน่ๆ เขาก็เลยคุกเข่าลง “ฝ่าบาท กระหม่อมขอออกไปต่อสู้ เพื่อลบล้างความผิด”

ฮ่องเต้หันมามองเขา เขาก็เอาหัวโขกพื้นขอร้อง “กระหม่อมรับใช้ฝ่าบาทมาหลายปี ท่านมีพระคุณต่อกระหม่อมมากดั่งขุนเขา แต่กระหม่อมกลับทรยศฝ่าบาท กระหม่อมสมควรตาย ขอให้ฝ่าบาทอนุญาตให้กระหม่อมออกไปรบ กระหม่อมจะจับตัวอ๋องซื่อเจิ้งด้วยมือกระหม่อมเอง”

ฮ่องเต้ก็นิ่งไป แล้วก็เห็นซือถูเย้นถูกล้อมไว้จนแทบไม่มีทางรอด ต่อให้เขามีแผนจะช่วยซือถูเย้น ก็หนีไปไม่พ้นแน่ ไม่สู้ถือโอกาสนี้เพื่อทดสอบว่าเขานั้นภักดีหรือไม่ดีกว่า ก็เลยตอบว่า “ดี เจ้าไปจัดการเถอะ”

เปากงกงก็โขกหัวกับพื้นอีก แล้วก็รีบลุกขึ้น แล้วก็จับแซ่ขันทีกระโดดจากหน้าต่างลงไปยังท่ามกลางการต่อสู้

แซ่ขันทีของเขาเป็นของที่อ่อน แต่กระบี่ของซือถูเย้นเป็นของมีคม พอสู้ไปสู้มา กระบี่ของซือถูเย้นก็แทบจะหลุดมือ แต่ว่า แต่เนื่องจากเป็นแม่ทัพอยู่แล้ว สักพัก ก็หลบจากกระบวนท่าของเปากงกงได้ แล้วก็บุกเข้าบ้าง

เปากงกงออกแรงเต็มที่ เหมือนอยากทำให้ซือถูเย้นสู้ยากมากขึ้น แต่ว่า เพราะเขาเป็นคนข้างกายของฮ่องเต้ พอเขาออกมาสู้ คนอื่นๆ ก็หลบอยู่ด้านข้าง ดังนั้น คนที่รุมล้อมฟันซือถูเย้น จาก7ถึง8คน ก็ลดลงเหลือ5คน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม