ตอนที่ 786 สละราชบัลลังก์
ไทฮองไทเฮามองดูใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยปานแดง แล้วคิดถึงเรื่องราวตอนที่เขายังเด็ก แล้วคิดถึงสิ่งต่างๆที่เขาทำในตอนนี้ ในใจรู้สึกโกรธจัดและเจ็บปวด แล้วก็ส่งสาร
อารมณ์ความรู้สึกมากมาย ในที่สุดก็กลายเป็นลมถอนหายใจ พูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “ฮ่องเต้ ครั้งนี้ที่เจ้าบีบบังคับให้ข้ามาด้วยเหตุผลอะไร ข้ารู้ดี แต่เจ้ารู้ไหมครั้งก่อนที่ข้ากลับมา ทำไมข้าถึงพูดกับเจ้าว่า จะไม่กลับมาอีก?”
“ไม่รู้ ข้ารู้แต่ว่าบรรพบุรุษใจร้าย” ฮ่องเต้อยู่ต่อหน้านาง ก็จะออดอ้อนเหมือนเด็กคนหนึ่ง
“เพราะ ข้ารู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเจ้า หากข้าไม่ไป มองดูเจ้าตาย ข้าทนไม่ไหว และเจ้าก็จะต้องขอร้องอ้อนวอนข้า เพื่ออะไร?”
ในใจฮ่องเต้ตกตะลึง “งั้นแสดงว่าบรรพบุรุษสามารถช่วยข้าได้ แล้วทำไมยังปล่อยให้ข้าตายต่อหน้าต่อตา
ไทฮองไทเฮาพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ข้าเคยบอกเจ้าแล้ว เจ้าเป็นฮ่องเต้ ชีวิตของเจ้าฟ้าสวรรค์ลิขิต หากข้าละเมิดกฎสวรรค์ จะเป็นการทำลายความสมดุลในผืนแผ่นดินนี้”
ฮ่องเต้ส่ายหัว “ข้าไม่อยากฟังพวกนี้ ข้าไม่อยากตาย ไม่มีใครอยากตายทั้งนั้น ทำไมคนทั่วโลกทั้งยอมทุ่มเงินมากมายเพื่อหาหมอที่ดีที่สุด? ไม่ใช่เพื่ออยากมีชีวิตต่อหรือ?ในเมื่อบรรพบุรุษมีความสามารถ แล้วทำไมถึงไม่ช่วยข้า? ข้าก็เป็นลูกหลายตระกูลซือถู วันนี้ท่านสามารถมาเพื่อไอ้เจ็ดได้ แสดงว่าในใจท่านยังมีพวกเราอยู่ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่สงสารข้าบ้าง? หรือว่า ในใจท่าน ข้าสำคัญสู้ไอ้เจ็ดไม่ได้?”
ไทฮองไทเฮาดึงมือของเขา พูดขึ้นอย่างอ่อนโยนว่า “จำได้ตอนที่เจ้ายังเป็นองค์รัชทายาทไหม ข้าเคยถามเจ้าคำถามหนึ่ง?”
ฮ่องเต้เงยหัวขึ้น ลังเลอยู่แป๊บหนึ่ง “บรรพบุรุษเคยถามคำถามมากมาย ข้าจำไม่ได้แล้วว่าบรรพบุรุษหมายถึงอันไหน?”
ไทฮองไทเฮามองดูเขา “เจ้าคิดดูให้ดี”
ฮ่องเต้เริ่มรู้สึกมึนหัว แต่มองดูดวงตาไทฮองไทเฮาที่สว่างไสวนั้นแล้ว ในหัวสมองที่มึนๆจางหายไปทันที ก็ชัดเจนขึ้นมาทันที
เขาคิดถึงคำถามนั้นขึ้นมาได้ในทันที ในใจยิ่งปกคลุมไปด้วยความเยือกเย็นอย่างบอกไม่ถูก ร่างกายก็เริ่มสั่นเทาขึ้นมา
แต่เขากลับเงยหัวขึ้น พูดขึ้นว่า “ข้าจำไม่ได้แล้วจริง”
ไทฮองไทเฮาหัวเราะ สีหน้าเยาะเย้ยอย่างมาก “ข้าถามเจ้า หากต่อไปเจ้าได้เป็นฮ่องเต้ แต่ต้องอายุสั้น เจ้าจะยอมไหม? แล้วก็ถามเจ้าว่า หากเจ้าอายุยืนยาว แต่ไม่เป็นฮ่องเต้ เจ้าจะยอมไหม?”
ฮ่องเต้สั่นเทาขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ตอนนั้น ตอนนั้นเขาตอบว่ายังไง? เขาจำได้ชัดเจน
เขาพูดว่า “ผู้ชายอกสามศอก ต้องไม่ย่อท้อ สร้างชื่อเสียงผลงานที่ดี หากกลัวตายแล้วลืมคำมั่นสัญญาของตัวเอง ลืมความรับผิดชอบที่อยู่บนบ่าตัวเอง งั้นถึงจะอายุยืนร้อยปี แล้วจะมีประโยชน์อะไร? ข้าจะเป็นฮ่องเต้ ไม่ใช่เพื่ออำนาจกับความทะเยอทะยาน ข้าอยากทำเพื่อประชาชนด้วยใจจริง ให้ประเทศชาติเจริญรุ่งเรือง ถ้าจะเป็นฮ่องเต้ที่มีชื่อเสียงที่ดีไปตลอดเหมือนดั่งเสด็จปู่”
ไทฮองไทเฮาเห็นเขาไม่พูดอะไร จึงพูดทวนคำพูดของเขาออกมา
ฮ่องเต้ได้ยินแล้ว ก้มหัวไม่พูดอะไรอยู่เนิ่นนาน แล้วค่อยเงยหัวขึ้นมาพูดว่า “ใช่ ข้าไม่ลืม ข้ายังมีราชกิจอีกมากมายที่ยังต้องทำเพื่อประเทศ ข้ายังต้องทุ่มกำลังสร้างประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรือง จะต้องทำให้ประเทศต้าโจวอุดมสมบูรณ์ สงบสุขร่มเย็น”
“พวกนี้ น้องชายของเจ้าสามารถทำได้ไหม?” ไทฮองไทเฮาถามกลับ
ฮ่องเต้สั่นไปทั้งตัว “บรรพบุรุษหมายความว่ายังไง?”
“การสร้างประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรือง อุดมสมบูรณ์ สงบสุขร่มเย็นของเจ้านั้น น้องชายของเจ้าสามารถทำได้ไหม?” ไทฮองไทเฮาถามอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...