ตอนที่ 787 ลงเขา
เขาไปแล้ว ไทฮองไทเฮาก็โยนแก้วลงพื้นอย่างแรง พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเข้มว่า “ไม่รู้จักพอ”
อาซื๋อกูกูมองดูแก้วเซรามิกสีขาวที่แตกละเอียด ขมวดคิ้วพูดขึ้นว่า “จะเอาแก้วมาระบายอารมณ์ทำไม? ตีเขาสักทียังจะสะใจกว่าไม่ใช่หรือ?”
“ตีเขาทำไม? ตีแล้วก็เท่ากับบอกเขาว่า ข้าอภัยให้เขาแล้วงั้นหรือ?” ไทฮองไทเฮาพูดขึ้นด้วยเสียงเยือกเย็น
“เจ้าคิดว่าเขายังจะสนใจว่าเจ้าจะให้อภัยหรือไม่ให้อภัยเขาหรือ? เขาสนใจเพียงว่าเจ้าจะช่วยชีวิตเขาไหม เห็นที เจ้าเรียกหลีโม่กลับมาคือสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ให้เขารู้ว่า เขาจะชีวิตอยู่ต่อไป ยังจะต้องพึ่งพาอาศัยไอ้เจ็ดสองสามีภรรยา จะได้ไม่คิดแค้นกันอย่างไม่สิ้นสุด”
“ไอ้เจ็ด…” แววตาไทฮองไทเฮาประกายแววเยือกเย็น แต่แล้วก็ค่อยๆจางหายไป “ล้วนผิดที่ข้า ตอนนั้นไม่ควรที่จะสอนให้เขาเห็นแก่ญาติพี่น้อง ไอ้เจ็ดคนนี้ เฮ้อ เขากลายเป็นแบบที่ข้าหวัง แต่กลับเป็นการทำร้ายเขา หากเขาสามารถโหดเหี้ยมบ้าง ก็คงจะไม่กลายเป็นแบบนี้”
ยากที่อาซื๋อกูกูไม่พูดเหน็บแนมกลับพูดปลอบว่า “ในโลกนี้ ที่จริงคนที่ไว้ใจได้มากที่สุดก็คือญาติพี่น้องของตัวเอง ใครจะไปรู้ล่ะ? ฮู่ยจู่เป็นต้นมา ตระกูลซือถูก็ไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ไม่ใช่ความผิดของเจ้า”
“ผู้ชายตระกูลซือถู เดิมแต่ละคนเป็นคนเห็นความสัมพันธ์สำคัญที่สุด โดยเฉพาะไอ้เจ็ด เห็นญาติพี่น้องสำคัญที่สุด”
นางครุ่นคิดอยู่สักพัก แล้วพูดว่า “เจ้าไปบอกฮ่องเต้ ให้เขาส่งคนไปตามหาไอ้เจ็ด หากไอ้เจ็ดไม่กลับมา ข้าจะไปจากที่นี่ทันที”
“เรายังหาไม่เจอ เขาจะหาเจอหรือ?”
ไทฮองไทเฮาพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “เขาหาเจอหรือไม่เจอค่อยว่ากัน แต่เขาจะต้องไปตามหา”
ไม่ว่ายังไง ก็จะต้องให้คนอื่นเขารู้ว่าพี่น้องราชวงศ์ไม่ได้เป็นศัตรูกัน
ถึงแม้จะน่าขำมาก
อาซื๋อกูกูไปพูดตามคำสั่ง ฮ่องเต้ได้ยินแล้วก็ตกใจ “เขาหนีออกไปได้แล้วไม่ใช่หรือ?”
“หนีออกไปแล้ว แต่ก็หายตัวไปแล้ว” อาซื๋อกูกูพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
สีหน้าฮ่องเต้ขาวซีด “หายตัวไปแล้ว? หมายความว่ายังไง?”
“เขาหายตัวไปพร้อมกับบาดเจ็บสาหัส ทหารของเจ้าไล่ตามอยู่ตลอด เจ้าคิดว่าหมายความว่าอย่างไร?”
ฮ่องเต้ละอายใจ ตอบอย่างไม่เต็มคำว่า “พระราชโองการของข้า สามารถทำให้บาดเจ็บเท่านั้นไม่ได้ให้ฆ่า”
“ฮ่องเต้ลำบากแล้วจริงๆ ที่ยังอุตส่าห์ออมมือ แต่บาดเจ็บสาหัส ก็จะไม่ตายใช่ไหม? สังขารฮ่องเต้ายุยืนหมื่นปี ก็ไม่ต้องตายหรือ? อีกอย่าง คืนนั้นยังมีกลุ่มคนที่สามอีกไม่ใช่หรือ? คนของเจ้าไม่ฆ่าเขา งั้นกลุ่มคนที่สามล่ะ?” อาซื๋อกูกูพูดอย่างเหน็บแนม
ฮ่องเต้ไม่กล้าพูดอะไรต่อ ในใจก็เริ่มหวาดกลัวขึ้นมาจริงๆ
เขาไม่ได้อยากฆ่าไอ้เจ็ดจริงๆ สำหรับไอ้เจ็ด ยังไงเขาก็ยังมีความรู้สึกผูกพันที่ตัดขาดไม่ได้
“ข้าก็ไม่ได้อยากให้เขาตาย ข้าแค่อยากบังคับให้บรรพบุรุษกลับมา” ฮ่องเต้พูดพึมพำ
“เอาล่ะ ต่อหน้าคนแก่อย่างข้า ไม่จำเป็นต้องพูดจาเสแสร้งพวกนั้น หากเจ้าไม่อยากให้เขาตาย หากเจ้าจริงใจกับเขาจริงๆ น้องชายของเจ้าคนนี้จะไม่คิดกบฏเด็ดขาด จะไม่กระทำอะไรที่เป็นการล่วงเกินเจ้า”
อาซื๋อกูกูพูดเสร็จ แล้วก็หันตัวเดินจากไป
หลังจากที่อาซื๋อกูกูไปแล้ว ฮ่องเต้ก็อ้วกออกมาเป็นเลือด เขาโศกเศร้าจนใจสลาย ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงดีแล้ว
เรื่องราวมาถึงขนาดนี้ เขาไม่มีหนทางหวนกลับคืนแล้ว
แม้กระทั่ง เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนเองเดินมาถึงจุดนี้ได้ยังไง
ไม่ใช่ตัวเขาที่เคยคุ้นเคยอีกแล้ว เขาถึงขึ้นเกลียดตัวเอง
อ๋องหนานหวยฟังซางชิวรายงานอยู่อย่างเงียบๆ แล้วก็พูดขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า “พวกเราส่งคนออกไปมากมายขนาดนั้น แค่ซือถูเย้นคนเดียวก็จับตัวมาไม่ได้หรือ? เสียสวะกันทั้งนั้น”
ซางชิวพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋อง ตอนนี้ไทฮองไทเฮากลัยมาแล้ว นางจะต้องรู้ว่าท่านแอบทำอะไรอยู่”
“นางไม่มีหลักฐาน มากที่สุดก็แค่สงสัย” อ๋องหนานหวยไม่กลัวเลยสักนิด
ซางชิวไม่พูดอะไร เป็นแบบนั้นจริง ไม่มีคนรอดชีวิตให้ถูกจับได้ ตายก็ตายไปแล้ว หนีก็หนีไปแล้ว ไม่มีแม้กระทั่งหลักฐาน
แต่ ไทฮองไทเฮาต้องการหลักฐานด้วยหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...