พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 790

สรุปบท ตอนที่ 790 เอายาให้เขาหนึ่งเม็ด: พิษรักองค์ชายโฉมงาม

สรุปตอน ตอนที่ 790 เอายาให้เขาหนึ่งเม็ด – จากเรื่อง พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง

ตอน ตอนที่ 790 เอายาให้เขาหนึ่งเม็ด ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดยนักเขียน ใบไม้แดง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่ 790 เอายาให้เขาหนึ่งเม็ด

เขาโกรธ สายตามองดูลู่กงกงแดงก่ำ “แจ้งพระราชโองการของข้า ไปนำทหารในกองทัพ จะต้องช่วยพระชายาซื่อเจิ้งกลับมาให้ได้ หากเป็นฝีมืออ๋องหนานหวยไปตัวนางไปจริง ฆ่าได้ทันที”

“ขอรับ” ลู่กงกงสะดุ้ง เมื่อก่อนฮ่องเต้ยังคิดถึงความสัมพันธ์อยู่บ้าง ตอนนี้ คงจะถูกบังคับจนไม่มีทางเลือกแล้ว เรื่องพิษท่งหมิง แต่รู้ดี ฆ่าอ๋องหนานหวย แล้วท่านอ๋อง...

ในเมืองหลวงมีคนไล่ตามอ๋องหนานหวยอยู่หลายกลุ่ม

คนที่ฮ่องเต้ส่งไป แบ่งออกเป็นเจ็ดแปดกลุ่ม ส่งไปตามทุกเส้นทางไปแดนหนานโก๋ว

และฉินโจวที่อยู่ตำหนักซีย่วน ก็เลยพาคนจำนวนสามพันคน พร้อมกับจิ่งไล่ตามไปทางไปแดนหนานโก๋ว

ตอนที่ฉินโจวรู้ว่าเกิดเรื่องกับหลีโม่ ก็รีบไล่ตามไปเลย แต่นางรู้ข่าวค่อนข้างช้า ตอนที่นางออกเดินทาง หลีโม่ได้หายตัวไปสองวันแล้ว

ด้านนอกวัง เป็นเหมือนดั่งน้ำเดือด

แต่ภายในวัง กลับเงียบสงบมาก

เดิมสีไท่เฟยคิดว่าฮ่องเต้จะช่วยนางพูดอะไรบ้าง แต่นับจากที่นางถูกปลดจนถึงตอนนี้ ฮ่องเต้ไม่เคยช่วยนางพูดอะไรเลย

นาเริ่มหวาดกลัว และในที่สุดก็อดทนไม่ไหว ไปหาฮ่องเต้ถึงตำหนักซีเวย

นางต้องการรู้ว่า ตอนนั้นทำไมฮ่องเต้ต้องให้นางที่เป็นไท่เฟยขึ้นเป็นฮองไทเฮา และเป็นช่วงที่เสด็จแม่ของเขาเพิ่งตายไปไม่นาน

“ไท่เฟยมาแล้วหรือ” วันนี้ฮ่องเต้กระอักเลือดไปหนึ่งครั้ง สีหน้าจริงดูไม่ดีเลย ใบหน้าเหมือนดั่งดอกไม้ที่เหี่ยวแห้ง แฝงไปด้วยความรู้สึกเปื่อยเน่า

“ฮ่องเต้” สีไท่เฟยค่อยๆเดินมา เห็นอาการป่วยของฮ่องเต้สาหัสขนาดนี้ ก็ไม่ถามไถ่ สนใจแต่จะถามหาความผิด “ข้าดีกับเจ้าไม่น้อย ทำไม? ทำไมต้องแกล้งข้าเช่นนี้?”

ฮ่องเต้แสดงท่าทีจะยิ้มก็ยิ้มไม่ออก “ข้าไม่เข้าใจว่าไท่เฟยหมายถึงอะไร”

“เจ้าเข้าใจ” สีไท่เฟยเหลือกตามองดูเขา “ทำไมจะต้องให้ข้าขึ้นเป็นไทเฮา? ทำไมตอนนี้ข้าถูกปลดแล้ว เจ้ากลับไม่สนใจเลย? เจ้าถึงขั้นไม่ช่วยข้าพูดอะไรเลยสักนิด”

“คำสั่งของบรรพบุรุษ ข้าทำอะไรไม่ได้” ฮ่องเต้พูดขึ้นอย่างเบื่อหน่าย

“ต่อให้เจ้าพูดแล้วหญิงเฒ่านั่นไม่ฟัง แต่เจ้าช่วยข้าพูดบ้าง ในใจข้าก็จะได้สบายใจหน่อย ไม่ ไม่....”

นางยังคงเลือกตามองดูฮ่องเต้ สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ “เจ้ายังไม่ได้บอกว่า ทำไมต้องแต่งตั้งให้ข้าเป็นไทเฮา ต้องการอะไรกันแน่?”

ฮ่องเต้มองดูนาง แล้วก็หัวเราะขึ้นมา “ไท่เฟยอยากรู้จริงๆหรือ”

สีไท่เฟยมองดูเขา พยักหัว “เจ้าพูด”

ฮ่องเต้ถอนหายใจเบาๆ “ที่จริง ก่อนที่เสด็จพ่อจะสิ้นใจ ได้พูดกับข้าไว้ว่า ชั่วชีวิตนี้คนที่เขารู้สึกผิดมากที่สุดก็คือสีไท่เฟย เขาสั่งข้าไว้ว่า หากสีไท่เฟยสิ้นแล้ว จะต้องยกทำให้เป็นไทเฮา แต่ข้ารู้ว่าตัวเองมีเวลาไม่มากแล้ว ข้าก็เลยแต่งตั้งให้ท่านเป็นไทเฮาเสียก่อน เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณ แต่ก็มีความต้องการส่วนตัว อยากให้เสด็จพ่อที่อยู่บนฟ้า ช่วยคุ้มครองให้ข้ารอดพ้นจากกรรมในครั้งนี้”

สีไท่เฟยสั่นไปทั้งตัว “ฮ่องเต้องค์ก่อนเคยพูดแบบนี้จริงๆ?”

“เป็นกษัตริย์ไม่พูดปด” ฮ่องเต้พูด

ดวงตาสีไทเฮาเต็มไปด้วยน้ำตา อ้าปาก แล้วก็รู้สึกเหมือนมีอะไรติดอยู่ที่คอ พูดไม่ออกสักคำ

นางเกลียดชังมาอยู่หลายปี โกรธมาตั้งหลายปี ที่แท้ ในใจของเขามีนางมาตลอด?

เพราะความเอาแต่ใจของนาง ดังนั้นเขาจึงโกรธนางมาตลอด ถึงได้เย็นชากลับนางเช่นนี้ บางที เขาอาจจะรอให้นางเปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่ตลอด แต่นางไม่เคยเปลี่ยน ในใจยังคงคิดแค้นอยู่ตลอด กระทำแต่เรื่องไม่ดี เขาจะต้องผิดหวังมากแน่

“ไท่เฟยไม่เชื่อ?” ฮ่องเต้ถาม

สีไท่เฟยส่ายหัว “ไม่ ข้าเชื่อ”

นางเชื่อ เพราะนางไม่เชื่อว่าคนคนนั้นจะไม่รักตัวเองแล้ว ตอนที่แต่งงานกัน ทุกอย่างดีไปหมด ทันใดนั้นก็เปลี่ยนไป? เป็นเพราะตัวเองทำให้เขาเสียใจ ความจริง ตอนนั้นตนเองก็กระทำแต่เรื่องที่ค่อนข้างโหดเหี้ยมไปจริงๆ

ลู่กงกงก้มหน้ายืนนิ่ง ไม่ได้เงยหัวขึ้นมามองสีไท่เฟย

ในใจอดไม่ได้ที่จะโศกเศร้า ทำไมฮ่องเต้ถึงแต่งตั้งให้นางเป็นไทเฮา ไม่ใช่เพราะเหตุผลนี้อยู่แล้ว และที่จริงฮ่องเต้องค์ก่อนเกลียดนางมาก ยังคงมีความรักที่ไหนกัน?

ไทฮองไทเฮายืนขึ้น พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “เจ้ามาขอร้องข้าที่นี่ยังไงก็ไม่มีประโยชน์ ใช้ให้เขารีบส่งคนไปตามพระฉายากลับมาจะดีกว่า หรือกลับถามเขา หลักการที่ข้าให้เขาไปคิด เขาคิดได้หรือยัง”

พูดเสร็จ เขาโบกมือ หันตัวเดินเข้าไปในห้องบรรทม

อาซื๋อกูกูพูดกับลู่กงกงว่า “เสี่ยวเปาจื่อคนที่ปรนนิบัติรับใช้เขาเหมือนกับเจ้า ตายแล้วใช่ไหม? เจ้าคิดว่า ที่เขาจงรักภักดีคือฮ่องเต้หรือว่าท่านอ๋อง? ลองคิดดูให้ดี หากเจ้ารักดีเหมือนเขา คนที่ควรพูดโน้มน้าวคือฮ่องเต้ไม่ใช่ไทฮองไทเฮา”

ลู่กงกงพูดขึ้นอย่างประหลาดใจว่า “กระหม่อมเคยพูดโน้มน้าวแล้ว แต่ฮ่องเต้ไม่ฟังกระหม่อม”

“งั้นก็ให้เขาทำต่อไปเองคนเดียว” อาซื๋อกูกูพูด

ลู่กงกงรู้ว่าทางด้านนี้ขอร้องไปก็ไม่ได้อะไรแล้ว จึงลุกขึ้น แล้วก็หันตัวเดินออกไป

อาซื๋อกูกูคิดอยู่แป๊บหนึ่ง แล้วก็ร้องเรียกขึ้นว่า “เดี๋ยวก่อน”

ลู่กงกงหันกลับมา “กูกูยังมีธุระหรือ?”

อาซื๋อกูกูหันกลับไปดูแวบหนึ่ง รีบเดินออกไป ล้วงยาขวดหนึ่งออกมาจากในกระเป๋า ยื่นใส่ในมือเขา แล้วพูดกระซิบว่า “เจ้าเอายานี้กลับไปให้ฮ่องเต้ทาน ยานี้ สามารถช่วยได้ระยะหนึ่ง”

ลู่กงกงดีใจมาก “จริงหรือ? มีอีกไหม?”

“ไสหัวไป” อาซื๋อกูกูหันตัวเดินกลับเข้าไป

ลู่กงกงรู้ว่าไม่ควรโลภมาก ช่วงหนึ่งก็ยังดี อย่างน้อยก็สามารถรอจนพระชายากลับมาได้ก็ยังดี

อาซื๋อกูกูเข้าไปภายในห้อง ก็เห็นสีหน้าเย็นชาของไทฮองไทเฮา นางหัวเราะ “เอาล่ะ เอาล่ะ แค่ครั้งนี้เอง ต่อไปไม่ให้แล้ว”

ไทฮองไทเฮาพูดขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า “แม้แต่เจ้าก็ไม่รู้ความตั้งใจของข้าหรือ? หากข้าใจดำขนาดนี้จริง ก็คงไม่กลับมา”

“นี่ก็ไม่ใช่เพราะใจดำไม่ลงหรอกหรือ? ยังไง ยังไงก็เป็นเด็กที่ข้าอุ้มมาจนโต” อาซื๋อกูกูพูดขึ้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม