พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 797

สรุปบท ตอนที่797 หนีออกไปได้: พิษรักองค์ชายโฉมงาม

ตอนที่797 หนีออกไปได้ – ตอนที่ต้องอ่านของ พิษรักองค์ชายโฉมงาม

ตอนนี้ของ พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่797 หนีออกไปได้ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่797 หนีออกไปได้

เรือสองลำ ที่มีลำหนึ่งแล่นอยู่ข้างหน้าส่วนอีกลำตามติดอยู่ด้านหลัง

องค์ชายเจ็ดนำพาหูต้า รวมถึงผู้ติดตามอีกสามคนและซือถูเย้น ที่ด้านหลังนั้นมีคนอีกสี่คนติดตามมา เมื่อวันนี้เริ่มต้นขึ้น ก็หาได้มีเรื่องอันตรายหรือน่าตกอกตกใจใด ๆ ไม่

คนขับเรือนั้นถูกว่าจ้างมา ดังนั้นผู้ที่จัดการเรื่องอาหารบนเรือนั้นก็คือคนขับเรือ

คนพายเรือเป็นชาวฮั่นผิวคล้ำ อายุราว ๆ สามสิบปี เป็นคนที่มีนิสัยซื่อสัตย์สุจริต เมื่อเห็นว่าบรรยากาศบนเรือดูแปลกประหลาด ตัวเขาก็ไม่กล้าเอ่ยปากพูดอะไร ก้มหน้าก้มตาพายเรือ เมื่อถึงคราวทำอาหารก็จัดแจงทำแต่อาหาร

ล่องลอยไปตามกระแสน้ำ ก็ยังต้องเดินทางด้วยทางบกอีกสักระยะ แล้วก็ค่อยเดินอ้อม ไปนั่งเรือที่แม่น้ำซี

ดังนั้น ในจังหวะนี้ต้องเดินทางด้วยเรือเป็นเวลาสองวัน ด้วยว่าทั้งสองต่างก็พากันนิ่งสงบไม่ทำอันตรายใด ๆ ต่อกัน องค์ชายเจ็ดถึงได้ผ่อนคลายความระแวดระวังที่มีต่อซือถูเย้นลงบ้าง

เมื่อขึ้นฝั่ง เขาก็ตั้งใจไปตามหมอให้กับซือถูเย้น เพื่อเขียนสั่งยารักษาอาการบาดเจ็บ

บาดแผลของซือถูเย้นตอนที่อยู่บนเรือนั้น เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในช่วงนั้นก็เกิดอาการร้อนผะผ่าวขึ้น ด้วยเพราะว่าบาดแผลเกิดการติดเชื้อ

เขาคอยเพิ่มบาดแผลเล็ก ๆ ให้กับซือถูเย้นโดยไม่หยุดไม่หย่อน เพื่อรักษาบาดแผลจากกระบี่และธนู เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เขาต้องมาตายในระหว่างที่ยังต้องเดินทาง

เมื่อสั่งยาให้เสร็จแล้ว ก็ต้องขึ้นรถม้าเพื่อเดินทางต่อ

องค์ชายเจ็ดไม่ได้เร่งรีบเลยสักนัด เขาค่อย ๆ เดินไปตามทางอย่างช้า ๆ สำหรับตัวเขาแล้ว ช้า ๆ ย่อมได้พร้าเล่มงาม

เขามีความคิดที่ตรงกับอ๋องหนานหวย ต้องรอให้พวกคนที่ติดตามไปแดนหนานโก๋วนั้นสลายตัวไปก่อน

เขายังไม่ปัญญาทึบขนาดที่จะพุ่งปะทะเข้าไป

กำลังคบเพียงแค่หยิบมือเดียวเช่นนี้ ถึงแม้จะควบคุมซือถูเย้นเอาไว้ได้ แต่ก็ไม่อาจจะเอาไปเสี่ยงกับอันตรายในครั้งนี้ได้

บาดแผลของซือถูเย้นค่อย ๆ ดีขึ้น ถึงแม้ยังไม่อาจจะเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัว แต่ก็นับว่าดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก

เขาประมาณการณ์ อดทนไปราว ๆ อีกสักหนึ่งวัน ก็จะจัดการกำจัดพิษทั้งหมดไปได้

ดังนั้น เขาถึงได้อดทนเอาไว้ ไม่ว่าหูต้าจะพูดจาไม่น่าฟังสักแค่ไหน ก็ทำตัวตีมึนไม่โกรธไปกับเขาด้วย

ในคืนนี้ พักแรมกันที่จ้าวโจว

จ้าวโจวเป็นเขตที่เจริญรุ่งเรือง เนื่องด้วยว่าเส้นทางทั้งทางบกและทางน้ำเชื่อมต่อไปจนทั่ว เศรษฐกิจจึงเจริญเฟื่องฟู

พวกเขาก็ยังเหมือนกับเมื่อครั้นก่อน หาที่พักที่ไกลหูไกลตา ห่างไกลจากถนนความเจริญออกมาราว ๆ สักสามลี้

เสี่ยวเอ้อร์จัดการจัดตั้งสำรับอาหาร หูต้า ได้ตบรางวัลให้ไปหลายเหวิน จากนั้นก็เอ่ยถามขึ้น “เสี่ยวเอ้อร์ จ้างเรือดี ๆ สักลำได้ไหม?” วันพรุ่งก็ต้องเดินทางด้วยทางน้ำต่อ เนื่องจากเมื่อในตอนแรกเริ่มไม่ได้จัดแจงเอาไว้อย่างรอบด้าน ดังนั้นจึงได้ว่าจ้างเรือดี ๆ มาก่อนหน้า

เสี่ยวเอ้อร์ยิ้มพลางเอ่ยว่า “ท่านลูกค้า จ้าวโจวที่แห่งนี้ยังมีเรือจ้างไม่ดีหรือ?ท่านต้องการใหญ่ขนาดไหน ล้วนแต่ว่าจ้างหามาให้ท่านได้ ขอแค่ว่ามีเงินถึงก็พอ ”

“ได้ พรุ่งนี้เจ้าช่วยข้าจ้างเรือเล็กมาสักสองลำ” หูต้าเอ่ย

“ขอรับ!”เสี่ยวเอ้อร์เอ่ยขึ้นด้วยความยินดี ช่วยวิ่งเต้นให้กับลูกค้าก็มีได้เงินรางวัล เขาหวังว่าจะได้วิ่งสักหลาย ๆ รอบเสียหน่อย

องค์ชายเจ็ดขมวดคิ้วแน่นขึ้น “จ้างที่มันใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็ได้แล้ว เอาที่มันนั่งได้สักราว ๆ สิบคน”

เสี่ยวเอ้อร์ตกปากรับคำ “คุณชายน้อย ท่านว่าอย่างไรก็จะทำอย่างนั้นให้นะขอรับ อย่าได้พูดว่าจะเอาแบบนั่งสิบคนเลยขอรับ จะเอาเรือแบบที่นั่งกันได้สักร้อยคนก็มีหาให้ได้”

องค์ชายเจ็ดมองค้อนไปทางหูต้า พอ หูต้า รู้ตัวขึ้น ก็ลากเอาเสี่ยวเอ้อร์ออกไปที่ด้านนอก “นี่เสี่ยวเอ้อร์ ถามเจ้าสักเรื่องสิ ช่วงที่ผ่านมานี้ที่นี่มีแขกมาจากเมืองหลวงบ้างไหมน่ะ”

“มาจากเมืองหลวงหรือขอรับ?”เสี่ยวเอ้อร์หัวเราะพลางพูดไปด้วย “มีอย่างแน่นอน ในทุก ๆ วันที่นี่มีแขกมาจากเมืองหลวงนะขอรับ”

“เช่นนั้นเคยเจอคนผู้นี้มาก่อนหรือไม่?” หูต้าหยิบภาพวาดม้วนหนึ่งออกมาจากห่อผ้า แล้วเปิดให้เสี่ยวเอ้อร์ดู

เสี่ยวเอ้อร์มองพิจารณา แล้วรีบพูดขึ้น “เคยเห็น ๆ แม่นางผู้นี้มีท่าทีเฉลียวฉลาด ข้าน้อยจำได้อย่างขึ้นใจ เมื่อวานเพิ่งไปเองขอรับ”

“เจ้าแน่ใจหรือ?” หูต้าหรี่ตาลง

“มั่นใจอย่างแน่นอนขอรับ ถึงแม้ว่าที่นี่จะมีแขกเหรื่อมามากมาย แต่ทว่า แม่นางที่มีรูปโฉมดูงดงามเช่นนี้ก็เพิ่งจะเคยเห็นกับเขาเป็นครั้งแรก คนที่มากับนางนั้น มีแม่นางคนหนึ่งที่สวมใส่ด้วยอาภรณ์สีเขียว อีกทั้งบุรุษราว ๆ อีกเจ็ดแปดคนได้”

“ทั้งหมดนั้นแต่งกายอย่างไร?” หูต้าลากเขาออกมาไกลยิ่งกว่าเดิม

“เจ้าออกไปเถอะ ข้าจะพักผ่อนแล้ว”ซือถูเย้นเอาชามนั้นส่งคืนให้กับเขา กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น

องค์ชายเจ็ดยิ้มแล้วพูดขึ้น “พ่ะย่ะค่ะ ไม่ขวางเวลาพักผ่อนของเสด็จลุงแล้ว”

เมื่อเขารับชามยาแล้วก็ออกไป แล้วปิดประตูลง

ซือถูเย้นได้ยินเขาพูดกำชับคนที่อยู่ด้านนอก “เฝ้าเอาไว้ให้ดี”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

เสียงตอบรับที่อยู่ด้านนอกนั้น อย่างน้อย ๆ น่าจะมีสักสามคน

ซือถูเย้นนั่งขัดสมาธิ แล้วค่อย ๆ หลับตาลง

ห้องขององค์ชายเจ็ด อยู่ติดกับห้องของซือถูเย้น โดยที่กั้นเสียงไม่ได้ดีสักเท่าไหร่ จึงสามารถได้ยินเขาพูดคุยกับ หูต้า ได้ สำหรับเนื้อความภายในเรื่องที่สนทนากันนั้น มีบางตอนที่ฟังได้ไม่ชัดสักเท่าไหร่

ซือถูเย้นเองก็ไม่ได้ตั้งใจฟังพวกเขาพูดคุยกัน สนใจเพียงแค่เคลื่อนย้ายปราณเพื่อขับพิษ

ไม่ว่าอย่างไรอาการบาดเจ็บก็ยังเป็นอุปสรรคตัวขัดขวาง เมื่อเคลื่อนย้ายปราณไปได้ไม่กี่ระดับ ก็แทบจะทำให้บาดแผลจะต้องระเบิดออก เขาเองก็ไม่กล้าที่จะรีบร้อน โดยขย้อนเอายาพิษที่ดื่มไปในครั้งก่อนนั้นออกมา ส่วนเศษซากที่หลงเหลือนั้น ค่อย ๆ ใช้กำลังภายในบีบเค้นให้ออกมา

ในห้องขององค์ชายเจ็ดมีคนเฝ้าเอาไว้ อากาศที่ค่อนข้างเย็นเล็กน้อย รีบร้อนเดินทางมาติดต่อกันหลายวัน องครักษ์ผู้ติดตามต่างก็พากันรู้สึกเหน็ดเหนื่อยและเมื่อยล้า ฟุบงีบหลับลงบนท่อนแขน

ในทันใดนั้นเอง สายลมก็โชยพัดโบกมาจากที่ด้านนอกหน้าต่าง ทำให้ไฟในตะเกียงน้ำมันนั้นดับลง องครักษ์พลันตื่นขึ้นอย่างระแวดระวัง เมื่อเห็นว่าเบื้องหน้าล้วนดำสนิท พลันก็รู้สึกปวดหัวขึ้น เขาร้องอึกอักออกมาทีหนึ่งแล้วล้มลงไปบนพื้น

องค์ชายเจ็ดพลันสะดุ้งตื่นอย่างตกใจ เขาลืมตาขึ้น พลันเห็นใบหน้าที่มีรอยยิ้มอย่างบ้าคลั่งลอยอยู่บนศีรษะของเขา เขาตกใจวาบ อ้าปากอยากจะตะโกนร้องออกมา กำหมัดก็ลอยพุ่งสวนออกมา กระทบเข้ากับศีรษะของเขา จนสลบล้มลง

เมื่อตอนที่เขาได้ตื่นขึ้นมานั้น ก็ได้ไปอยู่ในคุกของจ้าวโจวเป็นที่เรียบร้อย

เขาคือคนที่ผู้ดูแลร้านซุนเป็นผู้ส่งมา โดยบอกว่าเจ้าหัวขโมยไม่กี่คนพวกนี้ได้เข้ามาขโมยของในห้องของเขา โดยที่ถูกอัศวินที่ผ่านมาเห็นเข้าตีจนสลบไป และที่ตามร่างกายของพวกเขานั้น ก็พบเงินทองรวมถึงเครื่องประดับที่ถูกขโมยไปตามที่ว่าจริง ๆ

หนึ่งในนั้นพบที่บนเตียงของนางบำเรอของตระกูลคนรวย ผ้าผ่อนไม่เรียบร้อย หลับเสียอย่างสนิท

อีกทั้ง คนหลายคนพวกนี้ ทั้งหมดล้วนถูกตัดลิ้น หรือจะพูดได้ว่า หมดหนทางที่จะพูดอะไรออกมาได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม