พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 804

ตอนที่804 เจ้ามีความสุขได้จริง ๆหรือ

ทั้งสองคนจ้องมองไปยังของไหว้บูชา จากนั้นก็สบตากัน พลางยิ้มหัวเราะให้กัน

สู้รบมาตลอดคืน หนีก็หนีมาตลอดคืน ทั้งบาดเจ็บ ทั้งน่าเวทนา อย่างน้อย ๆ ก็ต้องกินข้าวสักมื้อ ต่อไปที่เขาจะต้องทำก็ต้องสู้รบจนฟ้าดินถล่มทลาย เป็นผีตายที่อิ่มท้องก็พอแล้ว

หลีโม่คุกเข่าลงต่อหน้าเจ้าพ่อพญามังกร ก้มศีรษะลง “ลูกชื่อเสี้ยหลีโม่ พบกับความลำบากจนมาถึงยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ อดอยากไม่มีอาหารต่อถึงท้อง ขอเจ้าพ่อพญามังกรโปรดเมตตามอบอาหาร ในวันหน้าถ้าหนีไปได้แล้ว ลูกจะส่งหมูย่างมาถวายนะเจ้าคะ”

เมื่อพูดจบ ก็ก้มหัวงุด ๆ ลงสามที จากนั้นก็ยืนขึ้นแล้วฉีกน่องไก่ข้างหนึ่งออกอย่างครึ้มใจแล้วส่งให้กับซือถูเย้น เมื่อซือถูเย้นเห็นท่าทางของนาง มีกลิ่นไอเกียจคร้านดูเอื่อย ๆ ก็อดที่จะหัวเราะขึ้นไม่ได้ “เจ้ากินก่อนเถอะ”

“กิน!”หลีโม่ยัดเข้ามาที่ปากของเขา “นี่ยังมีน่องไก่อีกอันหนึ่งนะ”

บาดแผลของซือถูเย้นค่อนข้างรุนแรง เมื่อนั่งลงแล้ว ก็ยากที่จะลุกขึ้นยืนอีก เขารับน่องไก่มา แต่กลับไม่ได้รีบร้อนกินลงไป เขาเงยหน้าขึ้นมองหลีโม่ จากนั้นยื่นมือเรียกให้นางเดินมา

หลีโม่เอาถ้วยที่มีไก่นั้นวางลงบนพื้น แล้วทรุดกายนั่งลง โดยที่นั่งอยู่ข้างกายเขา ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงว่า “ไม่สบายตรงไหนหรอ?”

นางยื่นมือไปจับที่หน้าผากของเขา พลันใดนั้นเองก็ต้องสะดุ้งขึ้น หน้าผากของเขาร้อนระอุเป็นอย่างมาก

“เป็นไข้เสียแล้ว!”

“ไม่ต้องเป็นห่วง!”ซือถูเย้นถึงมือนางเอาไว้แล้วขยับกายลงไปข้างหลัง ส่วนที่ที่เหลือนั้นก็รวบนางเข้ามากอดไว้แนบอก เสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้น “หลีโม่ ขอโทษด้วย ที่ข้าดูแลเจ้าไม่ดี”

“ข้าโกรธแล้วนะ”หลีโม่ผลักเขาเบา ๆ แสร้งทำน้ำเสียงดุดันพูดขึ้น “คิดไม่ถึงว่าเจ้ากับหลิงลี่ร่วมมือกันจะส่งข้าไป เจ้าเคยบอกว่า ต่อไปจะทำอะไรจะไม่ปิดบังข้ายังไงล่ะ”

ซือถูเย้นที่เดิมทีมีความเศร้าเสียใจกำลังผุดขึ้นมา ในทันใดนั้นกลับถูกนางซักไซ้ไล่เลียงเอาเสียจนความเสียใจที่มีหายวับไปหมด

“ข้าผิดไปแล้ว”ซือถูเย้นรับผิดแต่โดยดี

“ข้าเคยบอกแล้ว ว่าข้ากับเจ้ามีชีวิตเป็นหนึ่งเดียว เจ้ามีเรื่องอะไรก็ไม่ต้องมาปิดบังข้า ต่อให้เจ้าช่วยข้าได้ แต่ต้องเสียเจ้าไป วันที่หลงเหลืออยู่ ข้าก็ต้องทุกข์ทรมาน วันที่ต้องทุกข์ระทมแบบนั้น ข้าไม่ต้องการ ดังนั้นอย่าได้คิดว่าตัวเองเป็นคนยิ่งใหญ่แค่ไหน แบบนั้นเจ้าเองก็กำลังทำร้ายข้า”

ซือถูเย้นถอนหายใจเบา ๆ “ครั้งนี้ มันชุลมุนวุ่นวาย ข้าคิดไม่ถึง”

ดวงตาของขาเหม่อลอย ร่างค่อย ๆ ล้มลง เขาได้สลบลงไปแล้ว

ที่นอกวัด ฟ้าแลบผ่าดังสนั่น พายุฝนกำลังก่อตัวอีกครั้ง

หลีโม่จุดไฟขึ้น เอามาผิงเสื้อผ้าของคนทั้งสอง ไข้ของไอ้เจ็ดเองก็ลดลงแล้ว ยังดีที่ว่าด้านนอกของวัดเจ้าพ่อพญามังกรมียาสมุนไพร ก่อนที่พายุจะมานั้น ก็ได้ไปเก็บสมุนไพรกลับมา เพราะว่าเป็นยาสมุนไพรที่เพิ่งเก็บ ดังนั้นไม่ต้องต้มเป็นเวลานาน เพียงแค่เอาชามมาอังไฟสักพัก ผิงจนน้ำเริ่มเดือดจากนั้นก็ใส่ยาลงไป แค่เพียงชั่วครู่ก็เสร็จ

ในตอนที่ไอ้เจ็ดยังไม่ตื่นขึ้นมานั้น นางเอาน่องไก่ค่อย ๆ ฉีกเนื้อ เติมน้ำฝนแล้วทำเป็นน้ำซุปไก่

ในตอนที่ท้องฟ้าใกล้สว่างแล้วนั้น ฝนก็ยังตกกระหน่ำอยู่ ซือถูเย้นได้ตื่นขึ้นมา

เขาเอียงศีรษะ แอบมองหลีโม่ที่กำลังทำภารกิจอยู่ตรงหน้ากองไฟ เขาได้กลิ่นหอมของน้ำซุปไก่ ก็รู้ว่านางเอาไก่ตัวนั้นฉีกลงไปทำเป็นซุปไก่

อยู่ท่ามกลางป่าเขา หญิงสาวที่มีฝีมือยังสามารถทำซุปไก่ที่มีกลิ่นเย้ายวนใจได้เช่นนี้ ถ้าหากไม่ใช่ว่ากำลังบาดเจ็บและมีทหารไล่ตาม เขาคงหลงคิดไปว่าตัวเองกำลังออกมาเที่ยวพักแรม

“ตื่นแล้วหรอ?”ตอนจังหวะที่หลีโม่หันมานั้น เห็นเขาลืมตาคู่สีดำสนิท นางผ่อนลมหายใจลง เส้นผมร่วงตกลง บดบังบาดแผลที่อยู่ตรงหน้าผากของนาง เชือกเตาปามัดอยู่ที่แขนของนา ราวกับเป็นงูที่มีดุร้าย ทำให้คนรู้สึกถึงความน่าเกรงขามได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

“รู้สึกดีขึ้นแล้วใช่ไหม?”หลีโม่หยิบเอาเสื้อผ้าติดตัวมาด้วย เสื้อผ้าเมื่อคืนนี้ล้วนแต่หมุนเวียนเอาไปผิงไฟ โดยการผิงเสื้อตัวนอกก่อน จากนั้นก็เอาชุดด้านในไปผิงต่อ ตอนนี้เขาสวมใส่ไว้แค่เสื้อตัวนอก เสื้อชุดตัวในเพิ่งจะถูกผิงจนแห้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม