สรุปตอน ตอนที่805 ตามหาในชิงโจว – จากเรื่อง พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง
ตอน ตอนที่805 ตามหาในชิงโจว ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดยนักเขียน ใบไม้แดง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ตอนที่805 ตามหาในชิงโจว
ความรู้สึกที่หลีโม่มีต่อฉินโจวนั้นดูยุ่งเหยิง ก็ในเมื่อนางไม่มีทางที่จะตกหลุมชอบพอต่อฉินโจว นางเองก็เชื่อว่าฉินโจวก็ต้องมีความคิดแบบเดียวกันกับนาง
สำหรับฉินโจวนั้น บางทีอาจจะสามารถใช้เนื้อเพลงที่เคยได้ยินในยุคสมัยปัจจุบันมาเป็นการบรรยาย มากกว่าเพื่อน แต่ก็ไม่ใช่คนรัก
แต่ก็ไม่ใช่เพราะว่าฉินโจวทำอะไรให้นางมากมายแบบนั้น แต่เพราะนางรู้สึกว่านิสัยและวิธีการจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ของฉินโจวต่างหากที่ทำให้นางรู้สึกชื่นชม
น้อยครั้งนักที่นางจะชื่นชมคน ๆ หนึ่งแบบนี้
“ฝนตกหนักเช่นนี้ ฉินโจวจะมาได้หรอ?”เงียบไปพักหนึ่งหลีโม่พลันถามขึ้น
ซือถูเย้นคิดถึงเมื่อคืนวานที่ได้หนีมาแล้วหลังจากนั้น ก็เริ่มมีฝนตกหนักลงมา ถ้าหากว่าเรือของฉินโจวมุ่งหน้ามาแล้ว ต่อให้เป็นพายุลมฝน ก็ทำได้แค่ฝ่าฝนมาเท่านั้น จากนั้นก็เร่งความเร็วมาขึ้นฝั่งหลบฝนตรงบริเวณนี้
เพียงแค่จะมีเรื่องนอกเหนือความคาดหมายอะไรมาเตะถ่วงเวลาก็ไม่อาจจะรู้ได้
ขอเพียงแค่ไม่เกิดเรื่องไม่คาดคิดอะไร จากความเร็วในการเคลื่อนทัพของฉินโจวนั้น ก็จะต้องมาถึงอย่างตรงเวลาแน่นอน
“บางทีอาจจะล่าช้าสักหน่อย”ซือถูเย้นกล่าว
เขาค้ำกายลุกขึ้นยืน เดินไปตรงประตูด้านนอกมองสักพัก ฝนยังคงตกหนัก แต่ฟ้าก็เริ่มมีเป็นสีขาว น่าจะใกล้ฟ้าสว่างแล้ว
ฝนตกรุนแรงขนาดนี้ ซือถูเย้นแอบขมวดคิ้วขึ้น เกรงว่าฉินโจวจะมาไม่ได้
ถ้าฉินโจวมาไม่ได้ เมืองเล็กแบบนั้น เจ้าแปดจะต้องตามหาพบแน่
ตัวเองก็ได้รับบาดเจ็บ หลีโม่เองก็ไม่รู้จักวรยุทธ์ เพียงแค่อาศัยเชือกเตาปาก็ไม่เพียงพอสำหรับในตอนนั้น
“ฉินโจวคงจะมาไม่ได้”หลีโม่ลุกขึ้นยืน เดินมาที่ข้างกายของเขา
ซือถูเย้นพูดปลอบ “ไม่ต้องกังวลใจไป ฉินโจวคุ้นเคยกับการเดินทัพ มาทางน้ำไม่ได้ ก็ยังมาทางบกได้ แต่ว่าอาจจะช้าสักหน่อย”
หลีโม่ไม่รู้ว่ามาทางบกจะมาได้อย่างไร แต่ทว่า ถ้ามาทางน้ำก็มาทางตรง ทางบกนั้นจะต้องปีนเขาสูง ต่อให้มาได้ ก็ไม่น่าจะใช่วันครึ่งวันก็จะมาถึง
“มาทางบกนี่ไกลแค่ไหน?”
ซือถูเย้นประมาณดูสักพัก “ถ้าหากว่าไม่มีฝนหนักแบบนี้ วันหรือสองวันก็ถึง”
“ถ้าฝนตกหนักแบบนี้ ก็หาหนทางไม่เจอ เกรงว่าจะต้องใช้เวลาสามถึงสี่วันกระมัง?”
ซือถูเย้นนิ่งสงบ ก็นับว่าเป็นการยอมรับอยู่กลาย ๆ
ฉินโจวจะต้องมาทางน้ำแน่ ๆ แต่เมื่อต้องพบกับลมฝนพายุ ก็จะต้องขึ้นฝั่งเพื่อมาหลบฝน ถ้าต้องเปลี่ยนเส้นทางการ ก็ต้องปีนเขาอยู่หลายลูก อีกทั้งระยะทางยังยาวไกล สภาพอากาศที่มาพายุลมฝนโหมกระหน่ำเช่นนี้ คาดว่าน่าจะใช้เวลาสามถึงสี่วันเป็นแน่
หลีโม่ประคองเขาเดินกลับไป แล้วก็ตรวจดูบาดแผลเขาอีกครั้ง
บาดแผลใหญ่และลึก อีกทั้งยังเสียเลือดเป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่ได้มีอากาศอักเสบ ไข้ก็ยังลดลง ช่างมหัศจรรย์ยิ่งนัก
หลีโม่เดินวนรอบ ๆ วัดเจ้าพ่อพญามังกร ก็พบเข้ากับศาลที่อยู่ด้านหลัง
นางเดินเข้าไปดู จากนั้นเอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงชอบใจว่า “วัดเจ้าพ่อพญามังกรแห่งนี้ช่างแปลกประหลาด ปากประตูก็มีตัวยามากมาย นอกจากจะมีตัวยาแล้ว หญ้าชนิดอื่นก็ไม่โตมากมาย นอกจากนี้ที่ด้านหลังก็ยังมีห้องครัวเล็ก ๆ ราวกับปกติมีคนมาพักอยู่ที่นี่เสียอย่างนั้น”
เมื่อได้มาพบว่าที่ด้านหลังมีครัวเล็ก ๆ อย่างไม่คาดคิด มีกองฟืนแห้งๆ วางอยู่เป็นจำนวนมาก ล้วนแต่ตัดเสร็จแล้ววางเอาไว้อย่างเรียบร้อย อีกทั้งมีอุปกรณ์กระทะหม้ออย่างครบครัน ในโอ่งก็ยังมีข้าวสาร
“บางทีแต่ก่อนอาจจะมีคนเฝ้าวัด”ซือถูเย้นรู้สึกว่าไม่มีอะไรแปลกที่ตรงไหน วัดที่มีผู้คนมากราบสักการะเป็นจำนวนมาก โดยทั่วไปก็จะต้องมีคนเฝ้าดูแล เพียงแค่ว่าพายุฝนมากะทันหัน คนที่เฝ้าก็อาจจะเดินทางกลับบ้านไปก่อน
“ข้าออกไปเก็บยาก่อน เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่แหละ”
ถ้าต้องตัดสินใจ เขาควรจะต้องทำให้มันเร็วกว่านี้
ถ้าหากว่าครั้งนี้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับหลีโม่ ต่อให้เขายังมีชีวิต จะไปมีความหมายอะไรกัน
บทเรียนที่หลายครั้งแบบนี้ ทำไมในใจของเขายังคงมีความหวังอยู่อีก?
สองสามีภรรยามีใจเป็นหนึ่งเดียว หลีโม่เองรู้ว่าเขาทุกข์ใจ ก็ไม่รู้ว่าจะปลอบใจอย่างไร นางไม่เหมือนกับไอ้เจ็ด คนพวกนั้นที่เรียกว่าเป็นญาติของนาง ล้วนแต่ไม่ใช้ญาติแท้ ๆ ถ้าหากเป็นบิดาที่ให้กำเนิดจริง ๆ ในตอนแรกนางก็ไม่จำเป็นต้องเหี้ยมโหดกับเสี้ยห้วยจุนแบบนั้น
“ใช่แล้ว เขาพบซุนฟางเอ้อร์ ตอนนี้ฮ่าวหรานกับอ๋องผู้เฒ่ากำลังแก้พิษให้นาง รอให้นางหายแล้วก็จะแก้พิษท่งหมิงได้”
“ดีแล้ว”ซือถูเย้นเพียงแค่เอ่ยปากตอบรักกลับไป จากนั้นก็ไม่พูดอะไรต่อ
ผ่านไปหลายชั่วยามแบบนี้ ฝนยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง มิหนำซ้ำยิ่งตกแรงขึ้นอีก
อีกทั้ง ท้องฟ้าก็ยังไม่ยอมสว่างขึ้น ตรงกันข้าม กลับยิ่งมืดครึ้มลง ราวกับกำลังจะเข้าสู้ช่วงเวลาพลบค่ำ ทหารม้าทั้งสองพันของแคว้นเป่ยม่อเข้ามายัง ชิงโจว อีกทั้งยังใช้ชื่อของอ๋องซื่อเจิ้งในการควบคุมราชสำนักของชิงโจว แล้วก็เริ่มลงมือค้นหาทั่วเมือง
ฝนตกเป็นเวลาสองวันสองคืนโดยไม่หยุด ชิงโจวก็แทบจะพลิกเป็นดินแดนใหม่ ท้องฟ้าบริสุทธิ์ปลอดโปร่งอย่างเห็นได้ชัด โดยที่ไม่มีเงาของเมฆหมอกเลยสักนิด
ในยามพลบค่ำ จิ่งสาวเท้ายาว ๆ เข้าไปในสำนัก
“อ๋องอิงจุ้น ไปสอบถามมาแล้วว่า มีคนต้องสงสัยคล้ายอ๋องหนานหวยเข้าพักที่โรงเตี๊ยมซีเสียน หนึ่งในนั้นคล้ายกับพระชายา เมื่อคืนวานมีการต่อสู้กัน มีคนชิงตัวพระชายาไป ตามที่คนในโรงเตี๊ยมได้บรรยายลักษณะ น่าจะเป็นท่านอ๋อง”
“คนที่ท่าเรือลองไปถามดูหรือยัง?อ๋องหนานหวยได้หนีไปหรือยัง?”ฉินโจวที่อยู่ในชุดสีคราม แต่งตัวเป็นบุรุษใบหน้าดูหล่อเหลา
“ทูลอ๋องอิงจุ้น ได้ถามแล้ว วันนี้คนที่ออกไปจากท่าเรือของชิงโจวมีเพียงพ่อค้าแค่ไม่กี่คน”
“เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เขายังอยู่ในชิงโจว”ฉินโจวนิ่งงันไปอยู่พักหนึ่ง ชำเลืองมองไปทางเจ้าเมืองชิงโจวที่ตัวสั่นเทา “ใต้เท้า เจ้าสั่งคนไป ให้พาทหารม้าของข้าไปตรวจให้ทั่วเมือง ถ้าหากว่าบุคคลน่าสงสัยก็ให้จัดการก่อน ถ้าพบคนในยุทธภพเข้ามาขัดขวาง ก็ให้รีบกลับมารายงานข้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...